นอกจากผู้บริโภคที่อยากให้ภาพยนตร์ที่ตนเองชอบมีภาคต่อแล้ว คนที่เรียกได้ว่าหวังไว้มากกว่าผู้บริโภคก็คือสตูดิโอที่ลงทุนทำภาพยนตร์นี่หละครับ การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง คำนี้ยังใช้ได้ดีเสมอ และนี่ก็คือเหล่าภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่ลงทุนไปเยอะแต่ดันไม่ได้ไปต่อ มาดูกันดีกว่าครับว่าจะมีเรื่องอะไรบ้าง (ปล.ทำความเข้าใจกันด้วยนครับว่าภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ปกติการจะได้กำไรอย่างน้อยต้องทำรายรับให้ได้เกินทุนสร้าง X2 เพราะต้องแบ่งค่าตั๋วให้โรงภาพยนตร์ด้วยครึ่งนึงในอัตราส่วน 50/50 เป็นส่วนใหญ่)
The Mortal Innstruments: City of Bonesความสำเร็จของ Twilight และ The Hunger Games ทำให้นิยายวัยรุ่นเริ่มเข้ามาตีตลาดภาพยนตร์ Hollywood ซึ่งหลายเรื่องก็รุ่งหลายเรื่องก็ร่วง และเรื่องร่วงครับทั้งรายรับจากทุนสร้าง 60 ล้านดอลล่าห์ แต่รายรับทำไปได้แค่ 90.6 ล้านดอลล่าห์ อีกทั้งกระแสตอบรับทั้งทางผู้ชมและนักวิจารย์ก็ไม่ปลื้ม ทำให้นิยายเรื่องนี้ได้ไปต่อในทีวีซีรี่ย์แทนที่จะเป็นภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ในชื่อ Shadowhunters
The Lone Rangerเป็นอีกเรื่องที่หลายคนหวังไว้กับ Johnny Depp ในบทชนพื้นเมืองอเมริกันว่าจะเป็นหนังพันล้าน แต่ผลกลับออกมาเป็นความเจ็บตัวของ Disney ที่เจ็บหนักมากกับทุนที่ใช้สร้าง 225 ล้านดอลล่าห์ แต่กลับได้คืนทุนแค่ 260.5 ล้านดอลล่าห์ เรียกได้ว่าพลังดาราระดับนี้ก็ยังไปไม่รอด ซึ่งกระแสตอบรับเรื่องนี้ก็อยู่กลางๆ
Fantastic Fourเป็นความพยายามของค่าย Fox ที่ได้พยายามขยายจักรวาลฮีโร่ของต้นที่มีลิขสิทธิ์อยู่ในมือ (X-MEN,Fantastic Four) โดยเอาผู้กำกับ Josh Trank ที่เคยทำหนังฮีโร่วัยรุ่นมีปัญหาอย่าง Chronicle ที่มีชื่อเสียงจากทุนสร้างอันน้อยนิด แต่พอมากำกับหนังใหญ่ผลลัพธ์กลับออกมาเป็นความพินาศที่เกิดการโยนความผิดให้กันไปมาและ ยังได้รวมรางวัลยอดแย่จาก Golden Raspberry Award ครั้งที่ 36 มาแบบจัดเต็ม กระแสตอบรับอันห่วยแตก รายรับที่ขาดทุนจากทุน 120 ล้านดอลล่าห์ ที่ทำกำไรได้แค่ 168 ล้านดอลล่าห์
The Golden Compassภาพยนตร์แฟนตาซีเด็กที่โดนคริสตจักรคาทอลิกแบนโดยให้เหตุผลว่าเป็นภาพยนตร์ที่ส่งเสริมให้เด็กเป็นคนไม่มีศาสนาและทำให้คนเชื่อว่าพระเจ้าไม่มีอยู่จริง (atheism) เป็นภาพยนตร์ของ New Line Cinema ที่ใช้งบในการผลิตมากกว่า The Lord of The Ring Return of The King เกือบสองเท่าแต่กลับทำรายรับได้แค่ 372 ล้านดอลล่าห์จากทุนสร้าง 180 ล้านดอลล่าห์ ทำให้ภาคต่อสองภาคที่วางไว้ถูกระงับไว้อย่างไม่มีกำหนด
John Carterภาพยนตร์ของ Disney อีกเรื่องที่พยายามปั้นและล้มเหลวด้วยการที่ถึงแม้ว่ากระแสตอบรับจะอยู่ในระดับกลางๆ ไปจนถึงดี แต่เนื่องจากทุนสร้างรวมที่มหาศาลถึง 250 ล้านดอลล่าห์ แต่ทำรายรับได้แค่ 280 กว่าล้านดอลล่าห์นอกจากจะส่งผลให้ Disney เจ็บตัวแล้วยังทำให้ Taylor Kitsch ที่มีโอกาศแสดงภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ถึงสองเรื่องอย่างเรื่องนี้และ Battleship ซึ่งเจ๊งทั้งสองเรื่องดับจากการเป็นดาราเอกภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เลยทีเดียว
Green Lanternเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องของ DC Comic ที่พยายามขยายจักรวาลของตนแต่กลับทำออกมาได้ไม่เวิร์คด้วยการที่โดนนักวิจารย์และคนดูสับเละเทะพร้อมด้วยรายรับที่ได้ 220 ล้านดอลล่าห์จากทุนสร้าง 200 ล้านดอลล่าห์ที่ภาคต่อคาดว่าคงจะไม่มีแนนอนเพราะ Ryan Reynold โบกมือลาไปอยู่กับ Marvel ในเรื่อง Deadpool แล้ว
Terminator: Genisysเคยมีคนกล่าวไว้ว่า Terminator นั้นจบไปตั้งแต่ภาคที่ 2 แล้วคำนี้ก็ได้ผ่านการพิสูจน์ กับการเวลาแล้วว่าเป็นความจริงแน่นอนโดยที่ภาค 3 ก็ไปไม่รอด ภาค Salvation ที่ได้คริสเตียนเบล กับ แซม เวอร์ธิงตัน มาแบกก็ยังไปไม่รอด โดยภาคนี้ได้ผู้ว่าคนเหล็กอาโนร์ล กลับมารับบทแล้วก็ยังไม่ทำให้เรื่องนี้ไปถึงฝันด้วยคำวิจารย์ที่พูดเป็นเสียงเดียวกันได้ว่าบทที่ย้อนเวลาตีกันมั่วไปหมดพร้อมทั้งกระแสด้านลบจากแฟนๆ ที่ถึงจะทำรายรับไปได้แบบไม่เจ็บตัวกับทุนสร้าง 155 ล้านดอลล่าห์ซึ่งทำรายรับได้ 440 ล้านดอลล่าห์แต่ก็ทำให้ทางผู้สร้างคิดหนักแล้วในการสร้างภาคต่อจนได้หยุดโปรเจ็คภาคต่อไว้ เรียกได้ว่าทำออกมาแค่สองภาคแล้วปล่อยให้เป็นตำนานไปก็ดีอยู่แล้ว
Tron Legacyเราต้อรอกันมาเกือบ 20 กว่าปีจากภาคแรกที่ออกมาในปี 1982 Tron Legacy ภาคต่อที่พยายามปลุก Tron ขึ้นมาเพื่อหวังเป็นซีรี่ย์หากินของ Disney ก็ไปได้ไม่ถึงฝันที่ถึงแม้จะพอได้กำไรไม่เจ็บตัวกับทุนสร้าง 170 ล้านดอลล่าห์ที่ทำรายรับได้ 400 ล้านดอลล่าห์ แต่สุดท้าย Disney คงไม่อยากเสี่ยงที่ถึงแม้แฟนๆ จะเรียกร้องให้ทำภาคต่อแต่ Disney ก็ได้ยกเลิกโปรเจ็ค Tron 3 ไปแล้ว
The Amazing Spider-Man 2Sony ตั้งเป้าไว้โดยในตอนจบของภาคนี้ก็ได้ทิ้งท้ายไว้เพื่อไปต่อในการรวมตัวของเหล่าตัวร้ายใน Spiderman อย่าง Sinister Six แล้วแต่สุดท้าย Sony ก็ได้ทำการ Reboot อีกรอบเพื่อไปเชื่อมจักรวาลกับจักรวาลภาพยนตร์ Marvel กับ Spiderman Homecoming หลังจากที่เจรจากันเพื่อนำ Spiderman ไปโผล่ใน Civilwar สำเร็จ เรียกได้ว่างานนี้เป็นการ Reboot รอบที่ 2 แล้วของ Spiderman ซึ่งอาจจะเป็นเพราะรายรับของภาคนี้ไม่ได้คุ้มค่าตามเงินที่ลงทุนไปที่ถึงจะไม่ขาดทุกจาก รายรับ 709 ล้านดอลล่าห์จากทุนสร้างระหว่าง 200-293 ล้านดอลล่าห์ แต่ด้วยกระแสตอบรับในระดับกลางๆ ทำให้ Sony ตัดสินใจ Reboot เพิ่มเชื่อมต่อกับจักรวาล Marvel ลดความเสี่ยง
เป็นยังไงกันบ้างครับมีเรื่องไหนที่หลายคนดูแล้วรอภาคต่อกันบ้าง เรียกได้ว่าโมเดลรูปแบบการทำธุรกิจภาพยนตร์ในปัจจุบันที่มีการลงทุนสูงนี่บางทีก็ต้องยอมรับความเสี่ยงหลายๆ อย่างพอตัวเหมือนกันทำให้ภาพยนตร์ที่เราตั้งตารอภาคต่อกลับถูกยกเลิกไปต่อหน้า
ที่มา boxofficemojo looper