ต้อนรับ Civil War! จัดอันดับรายรับภาพยนตร์จาก Marvel ทั้ง 2 เฟสที่ผ่านมา เรื่องไหนทำเงินเท่าไหร่ มาดูกันเลย!

แชร์เรื่องนี้:
ต้อนรับ Civil War! จัดอันดับรายรับภาพยนตร์จาก Marvel ทั้ง 2 เฟสที่ผ่านมา เรื่องไหนทำเงินเท่าไหร่ มาดูกันเลย!

กำลังจะไปดู Civil War? ติวเข้มกับคลิปนี้กันก่อนเลยครับ รับรองแน่น!


แฟนๆ ภาพยนตร์ Marvel ช่วงนี้คงกำลังตื่นเต้นอยู่กับ Captain America: Civil War กันอยู่นะครับ เรียกวาแห่ไปถล่มโรงหนังกันตั้งแต่วันแรกที่เข้าฉายกันเลยทีเดียว โดยสถิติล่าสุดจากโรงภาพยนตร์ไทยที่ถูกปล่อยออกมาก็น่าตกใจมากครับ เพราะเพียงแค่ 48 ชั่วโมงแรก ก็ทำรายรับในไทยไปได้แล้วกว่า 72 ล้านบาท และต้องยํ้าว่าเป็นรายรับแค่ของเครือเมเจอร์เท่านั้น กะกันง่ายๆ ตอนนี้รายรับรวมทั่วประเทศน่าจะทะลุ 100 ล้านบาทไปพอสมควรแล้ว ไล่หลังหลังพี่แจ็ส 4G ซึ่งแรงมาก่อนหน้าแบบไม่ไกลเลย ขณะที่รายรับจากฝั่งประเทศแม่อย่างอเมริกาก็ยังไม่มีออกมานะครับ โดยมีแค่รายรับจากรอบฉายพิเศษ 14 ล้านดอลล่าเท่านั้น เนื่องจากบ้านเขาจะฉายเรื่องนี้ในวันที่ 6 พฤษภาคมครับ แบบว่าคราวนี้บ้านเราได้ดูก่อนเป็นอาทิตย์เลยทีเดียว

 

 

ดังนั้นเพื่อเป็นการต้อนรับภาพยนตร์ที่กำลังทำรายได้อย่างอหังการ์ขณะนี้ทั้งที่ยังไม่เข้าสุดสัปดาห์แรกของการฉายด้วยซํ้า เราจึงนำรายได้แบบสุทธิของภาพยนตร์ค่าย Marvel จากทั้ง 2 เฟสก่อนหน้ามาจัดอันดับกันครับว่าใครได้เท่าไหร่ หรือประสบความสำเร็จระดับใดกันบ้าง ถ้าพร้อมแล้วก็ไปยลกันเลย!


อันดับ 12
The Incredible Hulk (2008)

 

 

รายรับทั่วโลก 263 ล้านเหรียญ 

 

เริ่มกันที่อันดับบ๊วยก่อนเลยกับ The Incredible Hulk ที่เป็นการ Reboot จากภาพยนตร์ฉบับเดิมที่ฉายและเจ๊งไปในปี 2003 กลายๆ ผลงานร่วมสร้างของ Universal และ Marvel ซึ่งถูกนับเป็นเรื่องที่ 2 ของ Marvel Cinematic Universe แม้รายรับอาจจะน้อยไปสักนิด (ส่วนหนึ่งคงเป็นผลจากเวอร์ชั่นก่อนหน้า) แต่ตัวหนังก็สามารถดูเอาบันเทิงได้เป็นอย่างดี ชนิดที่คนละเรื่องกับเวอร์ชั่นก่อนหน้าลิบลับ อย่างไรก็ตามภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดย Edward Norton ซึ่งมาเป็น Hulk อยู่ภาคเดียวครับ และหลังจากนี้ก็อย่างที่เรารู้กันว่าบท Hulk ได้เปลี่ยนมือมาเป็น Mark Ruffalo จนกระทั่งปัจจุบัน


อันดับ 11
Captain America: The First Avenger (2011)

 

 

รายรับทั่วโลก 370 ล้านเหรียญ 

 

มาถึงอันดับรองบ๊วยกันบ้างกับภาพยนตร์ของหนึ่งในตัวเอกชั่วโมงนี้อย่าง Captain America กันบ้าง Chris Evan สลัดบทมนุษย์ไฟ Human Torch มารับบทนี้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ กระนั้นช่วงเวลาที่ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายต้องบอกว่าเป็นเวลาที่ไม่สู้ดีนัก เพราะหลายๆ คนต่างก็รอโปรเจ็กต์ Avengers กันแล้ว แถมหนังเรื่องนี้ก็แลดูกับจะสร้างมาเพื่อการเป็นสะพานเชื่อมเรื่องราวของเฟสแรกไปสู่ Avengers คุณภาพของมันแม้ไม่ถึงขึ้นสุขเอาเผากิน แต่หลายๆ คนก็ดูว่ามันเป็นเพียงหนังขัดตาทัพเท่านั้น รายรับจึงไม่มากเท่าไหร่ แต่ก็ได้กำพอไรอยู่นะ!


อันดับ 10
Thor (2011)

 

 

รายรับทั่วโลก 449 ล้านเหรียญ 

 

Thor นับเป็นหนังของ Marvel เรื่องแรกที่พาผู้ชมไปรู้จักกับโลกอื่นๆ ซึ่งมีอยู่ใน Marvel Cinematic Universe ครับ พร้อมเปิดตัว Chris Hemsworth ในบทเทพสายฟ้ากล้ามโตเรียกนํ้าหมากนํ้าลายจากสาวๆ ได้เป็นเขื่อน ตัวภาพยนตร์ขายความอลังของฉากในแอสการ์ด และโชว์พลังของตัวธอร์เองที่ดูจะมากมายกว่า Ironman ซึ่งเป็นฮีโร่ชูโรงของค่ายในขณะนั้นอยู่หลายช่วงตัว ทว่าเครดิตอีกส่วนหนึ่งของหนังก็ต้องยกให้กับคาแรคเตอร์ Loki ของ Tom Hiddleston ที่เด็ดดวงโดนใจแม่ยกไม่แพ้กัน


อันดับ 9
Ant-Man (2015)

 

 

รายรับทั่วโลก 519 ล้านเหรียญ 

 

ภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของเฟส 2 ซึ่งฉายหลังจาก Age of Ultron ที่ดูจะโดน Underrate ไปสักหน่อยหากมองจากรายได้ อาจเพราะผลกระทบจากเรื่องก่อนหน้าที่ผิดความคาดหวังของหลายคนไปทำให้เริ่มเบื่อๆ กับหนังฮีโร่กันอยู่มาก กอปรกับต้องยอมรับว่า Ant-Man ไม่ใช่ฮีโร่ที่หลายคนรู้จัก ทำให้รายได้ไม่เปรี้ยงปร้างเท่าที่ควรในทีแรก กระนั้นกระแสจากปากต่อปากถึงความสนุกของมัน ก็ช่วยลากรายได้ให้กินยาวๆ ได้อีกเยอะพอสมควรเลยครับ


อันดับ 8
Iron Man (2008)

 

 

รายรับทั่วโลก 585 ล้านเหรียญ 

 

มาอยู่อันดับที่ 8 กันแล้วกับภาพยนตร์ซึ่งเป็นจุดกำเนิดแรกสุดของ Marvel Cinematic Universe อย่าง Iron Man ซึ่งถือเป็นการเสี่ยงครั้งใหญ่ของ Marvel หลังขายลิขสิทธิ์ฮีโร่ให้เจ้าอื่นเอาไปทำหนังจนมีเงินมากพอจะทำหนังของตัวเองบ้าง เรียกว่าหมากตานี้หากผลลัพท์ออกมาไม่ดีหลายๆ อย่างก็แทบจะจบทันที ทว่าเมื่อมันประสบความสำเร็จท่วมท้น หมากตานีจึงไม่ใช่แค่การพลิกชีวิตให้ Marvel เท่านั้น แต่มันคือการเขย่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์ Hollywood ครั้งใหญ่เลยทีเดียว เพราะหลังจากนั้นกระทั่งปัจจุบันโลกภาพยนตร์ก็เข้าสู่ยุคซุปเปอร์ฮีโร่อย่างแท้จริง พร้อมกันนั้นก็มอบชีวิตใหม่ให้กับ Robert Downey Jr. อดีตดาราเสเพลที่ปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในนักแสดงชายที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลกจากบท Tony Stark ที่หากจะหาใครมาแทนพี่แกก็คงจะไม่ใช่เรื่องง่ายดายนักในนาทีนี้


อันดับ 7
Iron Man 2 (2010)

 

 

รายรับทั่วโลก 624 ล้านเหรียญ 

 

หลังภาคแรกสอบผ่านไปได้ฉลุย ภาค 2 ก็เข็นตามออกมาอย่างเร็วไวครับ คราวนี้มีตัวร้ายตัวใหม่พร้อมการเปิดตัวของ War Machine ฮีโร่คู่หูของ Iron Man หลายๆ องค์ประกอบดูจะพร้อมดันให้ Iron Man 2 ดีกว่าภาพยนตร์ภาคดั้งเดิมของมัน อย่างไรก็ตามการที่ภาพยนตร์สเกลเริ่มใหญ่ขึ้นกลับทำให้เกิดปัญหาในแง่การวางคาแรคเตอร์และการเล่าเรื่องทำให้ความสนุกของมันนั้นดรอปไปจากภาคแรกพอสมควร ทั้งๆ ที่ตัวพล็อตก็ดี ตัวโทนี่เองก็มีมิติมากขึ้น แต่คอหนังหลายๆ ท่านก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเขาค่อนข้างผิดหวังกับ Iron Man 2 พอสมควร กระนั้นภาคนี้ก็มีส่วนที่ดีอยู่คือการเกริ่นนำถึงการฟอร์มทีม Avenger และการเปิดตัวคาแรคเตอร์ Blackwidow ซึ่งรับบทโดยสุดสวยอย่าง Scarlett Johansson นั่นเอง


อันดับ 6
Thor: The Dark World (2013)

 

 

รายรับทั่วโลก 644 ล้านเหรียญ 

 

ถ้าจะมีเรื่องไหนที่นิยามความเป็นหนังบู๊ปนตลกจากค่าย Marvel มากที่สุดเรื่องหนึ่ง ก็คงต้องยกให้เรื่องนี้เลยครับ ฮาระเบิดระเบ้อ โดยเฉพาะช่วงองค์ 3 ของตัวหนังที่ขำนํ้าเล็ดจนแฟน Marvel บางคนถึงกับต้องกุมขมับกับอารมณ์ขันที่มากจนเกินพอดี ฟีคแบคของภาพยนตร์เรื่องนี้จึงออกไปใน 2 ทางคือบางส่วนชอบมุกตลกของมัน กับอีกฝ่ายที่เข้าขั้นแทบจะเกลียดภาพยนตร์เรื่องนี้ไปเลยครับ ถึงอย่างนั้น Thor: The Dark World กลับมีตอนจบที่ชวนลุ้นถึงเหตุการณ์ในภาคต่อไปมากๆ และก็เป็นอีกครั้งที่คาแรคเตอร์ Loki ของ Tom Hiddleston ช่วยลากภาพยนตร์ซีรีส์นี้ให้ไปถึงฝั่งครับ


อันดับ 5
Captain America: The Winter Soldier (2014)

 

 

รายรับทั่วโลก 714 ล้านเหรียญ 

 

นี่คือภาพยนตร์ที่ถูกยกย่องว่าสมบูรณ์แบบที่สุดของเหล่าหนังเฟส 2 จาก Marvel ข้อติเพียงอย่างเดียวของเรื่องนี้คือ Scarlett Johansson ดูสวยน้อยไปหน่อยซึ่งก็ว่ากันไม่ได้ครับช่วงนั้นนางกำลังตั้งครรพอดี Captain America: The Winter Soldier คือการอัพเกรดจากภาคแรกในระดับเดียวกับ "วาร์ปเปลี่ยนร่าง" ในดิจิม่อนเลยครับ แบบว่าจากภาพยนตร์ที่ฟอร์มบู่สุดในเฟสแรก สู่อันดับท็อปของเฟส 2 ได้อย่างเต็มภาคภูมิ ด้วยฝีมืของผู้กำกับพี่น้อง Russo ซึ่งแสดงฝีไม้ลายมือจนได้ไปต่อกับทั้ง Civil War และ Avenger: Infinity War ทั้ง 2 ภาคเลยครับ สุดยอดจริงๆ


อันดับ 4
Guardian of the Galaxy (2014)

 

 

รายรับทั่วโลก 773 ล้านเหรียญ 

 

หาก Captain America: The Winter Soldier คือหนังที่มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด Guardian of the Galaxy ก็เป็นหนังที่มาพร้อมความบันเทิงขั้นสุดเช่นกันครับ เรียกว่าคราวนี้ Marvel ต้องเสี่ยงอีกครั้งกับกลุ่มฮีโร่ที่แทบจะเรียกได้ว่าโนเนมที่สุด แต่ว่าในทางกลับกันมันก็คือโอกาสในการโชว์กึ๋นของทีมสร้างและนักแสดงครับ แง่หนึ่งหนังเรื่องนี้คือการพาเราไปรู้จักกับเผ่าอื่นๆ ในอวกาศให้มากขึ้น เพื่อเริ่มปูทางสู่สงครามครั้งใหญ่ใน Infinity War แต่เนิ่นๆ ครับ และผลออกมาต้องบอกว่าเหนือความคาดหมายมาก เพราะหลายๆ คนสนุกกับมัน และบางคนก็เข้าขั้นรักเลยครับ เป็นอีกครั้งที่การเดินหมากสู่เขตแดนอันตรายของ Marvel นั้นประสบความสำเร็จครับ


อันดับ 3
Iron Man 3 (2013)

 

 

รายรับทั่วโลก 1,215 ล้านเหรียญ 

 

เข้าสู่ท็อปทรีกันแล้ว คิดว่าหลายๆ คนคงเดาอันดับ 1 และ 2 กันได้ไม่ยาก แต่เรายังอยู่กับอันดับ 3 นั่นคือ Iron Man 3 นั่นเองครับ กลับมาคราวนี้แม้จะยังไม่ฟินเท่าภาคแรก แต่หลายๆ คนก็ยกให้ดีกว่าภาค 2 พอสมควร กระนั้นเรื่องที่หลายๆ คนผิดหวังจริงๆ ก็คือตัวร้ายครับ... (เป็นยังไงลองไปหาดูเอานะ) ภาคนี้ฉายหลัง Avengers ภาคแรกจบไปครับถือว่าเป็นช่วงพีคของหนังฮีโร่เลย จึ่งไม่แปลกที่มันจะทำรายได้ถล่มทลายอย่างมากมาย และสิ่งหนึ่งที่ซีรีส์นี้ทำได้ดีก็คือการเพิ่มมิติให้กับตัว Tony Stark เข้าไปอีกขั้นจนมันหนักแน่นขึ้น เผยให้เห็นด้านอ่อนแอของฮีโร่คนหนึ่งที่เริ่มเหนื่อยล้าจากการปกป้องโลก และมีเหตุการให้ตัวของ Tony ต้องเริ่มมองการคงอยู่ของฮีโร่ไปในแนวทางที่ต่างไปจากเดิม


อันดับ 2
Avengers: Age of Ultron (2015)

 

 

รายรับทั่วโลก 1,405 ล้านเหรียญ 

 

จุดบรรจบของภาพยนตร์เฟส 2 ที่กระแสดีมากๆ ตั้งแต่ก่อนเข้าฉาย ทั้งการโหมกระแสจากแฟนๆ ตัวค่าย หรืแม้แต่ตัวซีรีส์ Agent of SHIELD ที่ก็โยงตอนจบสู่ฉากแรกเริ่มของภาพยนตร์เช่นกัน กระนั้นด้วยความที่ประเด็นของหนังอาจจะเยอะไปหน่อย ทำให้ตัวหนังนั้นไปได้ไม่สุดในแทบทุกด้าน แถมหลายๆ อย่างก็ไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไหร่ แต่นั่นคือในฐานะหนัง "สรุปเรื่องราวเฟส 2" นะครับ หากลองมองมันเป็นหนังที่ส่งผ่านเรื่องราวไปสู่เฟส 3 ล่ะก็จะดูดีขึ้นมาหน่อย เพราะมันเปิดประเด็นใหม่ขึ้นมาแบบยุบยั่บเต็มไปหมด แต่ที่เห็นชัดที่สุดคือการโยนเรื่องราวมาสู่ Civil War แบบเต็มๆ เราจะเห็นความคิดที่ไม่ลงรอยกันระหว่าง Capt และ Tony กันอย่างชัดเจนครับ พร้อมการเปิดตัวคาแรคเตอร์ใหม่ๆ ให้ผู้ชมทำความรู้จักกันพอหอมปากหอมคอก่อนพวเขาจะมาให้เจอกันอย่างเต็มอิ่มมากขึ้นในภาพยนตร์เฟส 3 ครับ


อันดับ 1
Marvel's The Avengers (2012)

 

 

รายรับทั่วโลก 1,519 ล้านเหรียญ 

 

นี่คือจุดสูงสุดของหนังซุเปอร์ฮีโร่ ความพีคขั้นมหาศาลที่ไม่อาจหาอะไรมาพีคเท่าได้ในเร็ววัน มันเป็นหนังที่ฉายได้ถูกช่วงกับห้วงเวลาที่กระแสหนังซูเปอร์ฮีโร่ถูกดันสู่ยอดสูงสุด การรวมตัวครั้งมโหฬารของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่พร้อมเส้นเรื่องที่มาบรรจบกันครั้งแรกส่งให้มันกลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลกไปโดยปริยาย (ก่อนที่ 3 ปีถัดมาจะถูก Jurassic Park และ Star Wars เขี่ยลงมาอยู่ที่ 5) Joss Whedon ต้องรับบทหนักกับการนำตัวเอกจากหนัง 4 เรื่องมารวมตัวกันในเรื่องเดียว แถมยังต้องเกลี่ยบทให้ดี และส่งผ่านเรื่องราวให้ภาพยนตร์เฟส 2 อีกต่างหาก แต่เขาก็ทำได้ และทำได้ดีมากด้วยครับ ตัวหนังมีทั้งความสนุก ตลก อารมณ์ซึ้ง เรียกว่าครบรสชาติมากๆ จนบางครั้งหลายๆ คนก็คิดไปวาช่วง 10 ปีนี้ไม่น่าจะมีหนังฮีโร่เรื่องไหนที่พีคได้เท่า Avengers ภาคแรกอีกแล้วครับ 


 

 

กระนั้นหากลองมองดูรายรับกับกระแสในตอนนี้ Captain America: Civil War ก็อาจเป็นเรื่องที่จะทำลายสถิตินั้นลงก็ได้นะครับใครจะรู้ 

ข้อมูลจาก: Box Office Mojo

 

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ