ชมภารกิจคืนชีพรูปถ่ายให้ชาวญี่ปุ่นที่ประสบภัยแผ่นดินไหว

แชร์เรื่องนี้:
ชมภารกิจคืนชีพรูปถ่ายให้ชาวญี่ปุ่นที่ประสบภัยแผ่นดินไหว

     เป็นเหตุการสุดสะเทือนใจที่จะไม่มีใครลืมเลยทีเดียวโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น สำหรับเหตุการณ์แผ่นดินไหวโทโฮคุเมื่อปี 2011 ทำให้ประเทศญี่ปุ่นได้รับความเสียหายเป็นอย่างมากทั้งร่างกายและจิตใจจนนานาประเทศต้องยื่นมือเข้ามาช่วย กว่าจะฟื้นฟูมาได้ก็ต้องใช้เวลานานทีเดียว 

     รูปถ่าย เป็นสิ่งที่ทำให้เราได้ระลึกถึงภาพเหตุการณ์ต่างๆ ที่เราได้พบเจอมา หรือเป็นสิ่งที่ไว้ดูต่างหน้าของคนที่ล่วงลับจากเราไป ถือว่าเป็นสิ่งของที่มีค่ามากๆ แต่ทว่าเหตุการณ์ครั้งนี้มันก็ได้สร้างความเสียหายให้กับรูปภาพเหล่านี้เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นคราบนํ้า, แบคทีเรีย, โคลน และอื่นๆ ล่าสุดก็ได้มีโครงการดีๆ ที่ทำการทำภาพที่เสียหายเหล่านี้มาทำการฟื้นคืนชีพให้กับเจ้าของภาพอีกครั้ง 

     โครงการนี้มีชื่อว่า Save the Memory เป็นโครงการโดยบริษัท Ricoh ประเทศญี่ปุ่นที่เริ่มโครงการมาตั้งแต่ปี 2011 หลังจากเกิดเหตุการณ์นํ้าท่วม จนพึ่งจะปิดโครงการไปเมื่อเร็วๆ นี้ รวมๆ แล้วก็เป็นระยะเวลาประมาณ 4 ปีด้วยกัน พวกเขาได้ทำการนำเจ้ารูปภาพที่สูญหายกระจัดกระจายไปตามที่ต่างๆ เหล่านี้ มาทำการซ่อมแซมให้มันเป็นภาพที่สมบูรณ์อีกครั้งพร้อมส่งคืนให้กับเจ้าของเพื่อที่จะหวนคืนความทรงจำกับภาพเหล่านั้น โดยโครงการ  Save the Memory ได้รวบรวมรูปภาพจากจากอาสาสมัครที่ไปเก็บกู้มา โดยตอนนี้พวกเขาได้ทำการซ่อมแซมแล้ว 418,721 ภาพ และส่งมอบให้กับเจ้าของแล้ว 90,128 ภาพ เอาล่ะ จะเป็นอย่างไรนั้นเราไปชมภาพกันเลย

รูปภาพมากมายที่ทำการเก็บกู้ได้

นำรูปภาพที่เก็บกู้ได้มาจัดเรียงตามสถานที่ๆ พบเจอกันก่อน

หลังจากคัดแยกตามสถานที่เสร็จ ก็ทำการเก็บรวบรวมรูปภาพแพ็คส่งไปยังโรงงานซ่อมแซมของโครงการนี้

เริ่มการทำความสะอาดโดยการปัดคราบต่างๆ และล้างด้วยนํ้าสะอาด

เมื่อแห้งเสร็จก็จะเริ่มทำการนำเข้าเครื่องสแกนบันทึกเป็นไฟล์ดิจิตอล แล้วเริ่มทำการปรับแต่งภาพในส่วนที่ขาดหายไป (คุ้นๆ ไหม เมื่อกับพวกร้านถ่ายรูปที่รับซ่อมภาพเก่าไง)

เมื่อรูปภาพคืนชีพแล้ว ก็ทำการส่งไปยังศูนย์อำนวยการที่ตั้งอยู่ตามที่ต่างๆ 

ผู้ที่ติดต่อขอรับรูป สามารถค้นหารูปได้จาก database ผ่านทางคอมพิวเตอร์

เมื่อพบรูปแล้วก็สามารถรับรูปได้ทันที

     นับว่าเป็นโครงการที่ดีทีเดียวจาก Ricoh ที่ยังสามารถรักษาความทรงจำอันลํ้าค่าของชาวญี่ปุ่นได้เกือบหนึ่งแสนคนคนเลยทีเดียว บางคนอาจจะมองว่าเป็นโครงการ CSR โปรโมทให้กับบริษัท แต่ว่ามันก็เป็นประโยชน์ต่อผู้ประสบภัยจริงๆ 

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ