ช่วงนี้มีแต่ข่าวเกิดร่องรอยพญานาคสร้างความแตกตื่นไปทั่วกันบ่อยๆ อันนี้เป็นเรื่องที่หลายๆ คนอาจจะต้องใช้วิจารณญาณว่าสิ่งนี้มีจริงหรือไม่ และถ้าหากไม่มีจริงทำไมถึงมีตำนานและเรื่องเล่ามากมาย หรือถ้ามีจริงทำไมกลับไม่มีใครพบเจอ สิ่งเหล่าคงต้องใช้เวลาในการพิสูจน์กันต่อไป แต่ก่อนจะรู้ว่าพญานาคมีจริงหรือไม่มีจริง เราไปรุ้จักพญานาคกันก่อนดีกว่ามั้ย
นาค หรือ พญานาค นั้นมีรูปร่างลักษณะคล้ายกับงูขนาดใหญ่แต่มีหงอน ซึ่งหงอนนี้จะเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงถึงความยิ่งใหญ่ของนาค หรือพญานาคตัวนั้นๆ พญานาคเป็นสัตว์มงคล หมายถึงความอุดมสมบูรณ์ ความมีวาสนา นอกจากนี้นาคยังเป็นสัญลักษณ์ที่หมายถึงบันไดหรือเส้นทางสู่สวรรค์ ตำนานที่มาของพญานาคนั้นเก่าแก่มากเรียกกได้ว่าก่อนจะกำเนิดพุทธศาสนาเสียอีก เรียกได้ว่าที่มาพญานาคนั้นมาจากประเทศอินเดีย ด้วยที่ว่ามีนิยายและเรื่องเล่าที่กล่าวถึงพญานาค เช่น มหากาพย์มหาภารตะ หรือตำนานพุทธประวัติ ก็เล่าถึงพญานาคไว้เช่นกัน
พญานาคนั้นมีลักษณะตัวเป็นงูตัวใหญ่มีหงอนสีทองและตาสีแดง เกล็ดเหมือนปลามีหลายสีแตกต่างกันไปตามบารมี บ้างก็มีสีเขียว บ้างก็มีสีดำ หรือบ้างก็มี 7 สี และที่สำคัญคือ นาคตระกูลธรรมดาจะมีเศียรเดียว แต่ตระกูลที่สูงขึ้นไปนั้นจะมีสามเศียร ห้าเศียร เจ็ดเศียรและเก้าเศียร นาคจำพวกนี้จะสืบเชื้อสายมาจาก พญาเศษนาคราช (อนันตนาคราช) ผู้เป็นบัลลังก์ของพระวิษณุนารายณ์ปรมนาท ณ เกษียณสมุทร
พญานาคถือว่าเป็นเจ้าแห่งงู ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ตระกูลใหญ่ๆ ตามลักษณะของสีอันได้แก่ ตระกูลวิรูปักษ์ พญานาคตระกูลสีทอง, ตระกูลเอราปถ พญานาคตระกูลสีเขียว, ตระกูลฉัพพยาปุตตะ พญานาคตระกูลสีรุ้ง, ตระกูลกัณหาโคตมะ พญานาคตระกูลสีดำ ซึ่งชาวตะวันตกก็ถือว่าพญานาคเป็นสิ่งอัปมงครเฉกเช่นเดียวกับมังกร เพราะถือว่าเป็นตัวแทนของกิเลศ และความชั่วร้าย ซึ่งต่างชาวตะวันออกที่นับถือมังกร และพญานาคเป็นสิ่งมงคล
สาเหตุที่คนไทยมักจะเห็นพญานาคได้เกือบทุกที่ในสถานที่สำคัญ, งานจิตรกรรม, งานประติมากรรม และงานหัตถกรรม สืบเนื่องมาจากพญานาคนั้นเป็นส่วนประกอบที่สำคัญทางสถาปัตยกรรม วัดวาอารามต่าง ๆ หลังคาอาคารที่สร้างขึ้นสำหรับสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นไปตามคตินิยมที่ว่า นาคยิ่งใหญ่ยิ่งคู่ควรกับสถาบันอันสูงส่ง ตกลงแล้วพญานาคจะมีจริงหรือไม่มีจริงเราก็ยังต้องติดตามกันต่อไป