ตอนนี้การสูญหายของเที่ยวบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ กำลังถูกจับตามองอยู่ด้วยความพิศวงและการคาดคะเนต่างๆ นาๆ OS เลยมีบทความเกี่ยวกับเครื่องบินมาให้อ่านกันค่ะ โดยบทความนี้เกี่ยวกับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ซึ่งถูกกล่าวว่าเป็นฮีโร่ จากเหตุการณ์ร้ายที่เกิดจากเที่ยวบินของพวกเขา เรามาดูกันสิว่า มีเหตุการณ์ไหนบ้าง
*ในบทความนี้ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจะใ้ช้คำว่า แอร์โฮสเตสหรือลูกเรือ ไปนะคะ
BOAC Flight 712
8 เมษายน 1968
ในวันนั้นเครื่อง โบอิ้ง 707-465 ออกจาก ท่าอากาศยาน ฮีทโธร์ ของลอนดอน ประเทศอังกฤษ เพื่อไปยัง ซิดนีย์ (ประเทศออสเตรเลีย) โดยจะผ่านทาง ซูริค (ประเทศสวิสเซอร์แลนด์) และประเทศสิงคโปร์ แต่เครื่องบินขัดข้องระหว่างการนำขึ้นไม่กี่วินาที ทำให้เกิดไฟไหม้บนปีกเครื่องซ้าย เครื่องยนต์ขัดข้องจึงจำต้องลงจอดฉุกเฉินในทันที โดยกลับลงจอดที่สนามบินเดิม นับเวลาเครื่องขึ้นไปได้เพียงแค่ 3นาที 32 วินาที
การลงจอดฉุกเฉินประสบความสำเร็จแต่มีผู้เสียชีวิต 5 ราย 1 ในนั้นเป็นแอร์โฮสเตสวัย 22 ปี Barbara Jane Harrison ซึ่งพยายามที่จะอพยพทุกคนออกจากเครื่องบินที่ไฟไหม้ โดยปฏิเสธที่จะละทิ้งหน้าที่ เธอสามารถต้อนผู้โดยสารลงยังสไลด์ฉุกเฉินเพื่อลงไปยังพื้นดินได้จนเกือบครบและก่อนที่สไลด์ฉุกเฉินจะได้เผาทำลาย Barbara ที่พร้อมจะสไลด์ตัวออกมากลับตัดสินใจกลับเข้าไปช่วยผู้โดยสารที่เหลือ จนในที่สุดก็มีการค้นพบศพของเธออยู่แถวศพผู้โดยสารพิการที่เธอพยายามช่วยชีวิต ผลจากการเสียสละของเธอทำให้คนส่วนใหญ่บนเครื่องรอดชีวิต ส่วนตัวเธอหลังการเสียชีวิต อังกฤษได้มอบเหรียญ George Cross เพื่อเป็นเกียรติแห่งความกล้าหาญของเธอ และยังมีการพิมพ์หนังสือ FIRE OVER HEATHROW ที่มีเธออยู่บนหน้าปกด้วย
British Airtours Flight 28M
22 สิงหาคม 1985
สำหรับเรื่องนี้เป็นเครื่องบินของ British Airtours ในสนามบินแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งเครื่องนั้นเตรียมตัวพาผู้โดยสารไปยัง เกาะ Corfu ประเทศกรีก ระหว่างเครื่องบินแล่นอยู่บนรันเวย์เตรียมจะขึ้นบินก็มีเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้น กัปตัน Peter Terrington และผู้ช่วย Brian Love ได้ยินเสียงระเบิด พวกเขาคาดว่าน่าจะเป็นเสียงล้อเครื่องบินระเบิดแน่นอน จึงได้จอดและเตรียมทำการซ่อมโดยไม่ได้อพยพผู้โดยสารลงแต่อย่างใด
ปรากฏว่าสาเหตุที่แท้จริงกลับเป็นไฟไหม้บริเวณเครื่องยนต์ที่ลุกลามเข้าไปในตัวเครื่อง ส่งผลให้ผู้โดยสารเสียชีวิต 53 คนและลูกเรืออีก 2 คน ซึ่งลูกเรือทั้ง 2 คือ Jacqui Ubanski และ Sharon Ford ทำงานอยู่ด้านหลังเครื่อง เสียชีวิตในระหว่างการพยายามเปิดประตูเครื่องด้านหลัง ในขณะที่ด้านหน้าเองก็มีลูกเรืออีก 2 คน Arthur Brad bury และ Joanna Toff ที่เปิดประตูด้านหน้าได้สำเร็จและย้อนกลับไปช่วยต้อนผู้โดยสารออกมาได้ ทำให้มีผู้รอดทั้งหมด 82 คน
ลูกเรือทั้ง 2 ที่เสียชีวิตและอีก 2 ที่กลับเข้าไปช่วยเหลือผู้โดยสาร ต่างก็ได้รับเหรียญกล้าหาญ เช่นเดียวกัน
Pan Am Flight 73
5 กันยายน 1986
โบอิ้ง 747-121 ระหว่างที่จอดอยู่ที่สนามบินปากีสถาน ก็ถูกไฮแจคด้วยคนร้าย 4 คน โดยทั้ง 4 เป็นสมาชิกของกลุ่มก่อการร้าย Abu Nidal Organization โดยในเครื่องมีผู้โดยสาร 360 คน ลูกเรือได้รับคำสั่งให้เก็บพาสปอร์ตของผู้โดยสารทั้งหมด ลูกเรือคนนึง Purser NeerjaBhanot เกรงว่าผู้โดยสารที่เป็นชาวอเมริกาอาจจะได้รับอันตรายเธอจึงได้ซ่อนพาสปอร์ตบางส่วนของชาวอเมริกาไว้ใต้เบาะที่นั่ง ส่วนที่เหลือเอาไปทิ้งที่ท่อทิ้งของเสีย
การจี้เครื่องบินจบลงด้วยการที่คนร้าย โยนระเบิดและฆ่าคนในเครื่องโดยสุ่มยิง การยิงผู้โดยสารในระหว่างที่ประตู3เปิดออก NeerjaBhanot ได้เอาตัวเองบังกระสุนเพื่อปกป้องเด็ก 3 คน ทำให้เธอเสียชีวิต รวมไปถึงผู้โดยสารอีก 20 คนที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้และมีผู้บาดเจ็บอีกหลายร้อยคน ส่วนคนร้ายโดนจับระหว่างพยายามหลบหนีออกจากสนามบิน
Purser NeerjaBhanot ได้รับรางวัลเหรียญกล้าหาญ เป็นการตอบแทนความเสียสละของเธอ
Aloha Airlines Flight 243
28 เมษายน 1988
โบอิ้ง 732-297 กำลังเดินทางระหว่าง ฮิโล และ โฮโนลูลู ของฮาวาย มีผู้โดยสาร 89 คน และพนักงานต้อนรับอีก 3 คน เกิดอุบัติเหตุอันเนื่องจากแรงอัด บวกกับอุปกรณ์บางอยางที่เกินอายุการใช้งานของเครื่องบิน ส่งผลให้ชิ้นส่วนด้านบนของเครื่องบินหลุด โดยส่วนที่หลุดคือชิ้นส่วนเหนือที่นั่งผู้โดยสารโซนหน้า และทำให้ Clarabelle Lansing ลูกเรืออาวุโสถูกดูดออกจากตัวเครื่องไปและไม่มีใครพบร่างของเธออีกเลย เธอถุกระบุว่าเป็นผู้เสียชีวิตเพียงคนเดียวในเหตุการณ์นี้ ในขณะที่ผู้โดยสารที่เหลือยังพอจะปลอดภัยจากเข็มขัดนิรภัย แอร์โฮสเตสที่เหลือซึ่งบาดเจ็บจากแรงกดอากาศพยายามลุกขึ้นช่วยเหลือผู้โดยสารจนกระทั่ง เครื่องบินลงจอดฉุกเฉินที่สนามบิน คาฮู ผู้โดยสารและลูกเรือเกือบทั้งหมดบาดเจ็บ
British Airways Flight 5390
10 มิถุนายน 1990
เที่ยวบินนี้เป็นการบินจาก เบอร์มิงแฮม (อังกฤษ)ไป มาลากา (สเปน) มีผู้โดยสาร 81 คน ลูกเรือ 4 คน หลังขึ้นบินไปประมาณ 15 นาทีก็เกิดเสียงดังปัง! กระจกด้านซ้ายฝั่งกัปตันหลุดออก ส่งผลให้ตัวกัปตัน Lancaster หลุดออกจากห้องควบคุมออกไปทางหน้าต่าง แต่ทว่าขาของเขายังคงเกี่ยวกับหน้าต่างอยู่ ลูกเรือ Nigel Ogden เข้ามาช่วยจับขาเขาไว้และ Atchison ผู้ช่วยนักบินพยายามเอาเครื่องที่กำลังสูญเสียการควบคุมให้ลงจอดฉุกเฉิน โดยทั้งคู่เข้าใจว่ากัปตันน่าจะตายแล้วจากแรงกดอากาศ/แรงลมและอากาศเย็นรุนแรง แต่เพื่อไม่ให้ร่างของกัปตันหลุดเข้าไปในเครื่องยนต์ด้านหลังจึงต้องจับตัวเอาไว้ ในขณะที่ลูกเรือที่เหลือพยายามให้ความมั่นใจกับผู้โดยสารเพื่อให้เกิดความสงบ
(ภาพบนเป็นภาพจำลองเหตุการณ์)
หลังจากเอาเครื่องลงได้ (โดยที่ไม่มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ) จึงพบว่ากัปตันยังคงมีชีวิตแต่ได้รับบาดเจ็บรุนแรง (บวม ช้ำ แขนหักฯลฯ) รวมไปถึงช็อคกับเหตุการณ์รักษาอยู่นาน 5 เดือนจึงกลับมาทำงานได้พร้อมกับอาการบาดเจ็บบางอย่างที่ไม่หายเลยตลอดชีวิต ส่วน Nigel Ogden ลูกเรือที่พยายามจับร่างกัปตันไว้นั้นบาดเจ็บที่ไหล่ (จากการขืนตัวจับร่างของอีกฝ่ายไว้ไม่ให้ปลิวหลุดในความเร็ว 500ไมล์ต่อชั่วโมง) ใบหน้าและดวงตาด้านซ้าย
แปลจาก
http://www.incrediblediary.com/5-heroic-flight-attendants.html