สวัสดีครับเพื่อนๆ คราวนี้ก็ตามสัญญากันเช่นเคยนะครับ กับการแนะนำประวัติของเล่นในแบบต่างๆ กับผม Barrettez นะครับ ซึ่งก็ได้เลื่อนเวลาให้มาเป็นวันอังคารแทนแล้ว เริ่มจากสัปดาห์นี้เป็นต้นไปครับ
เอาล่ะครับ จากที่คราวที่แล้ว ผมได้ทิ้งท้ายไว้ว่า วันนี้ผมจะมาพูดถึงประวัติการ์ดเกมที่เรียกว่า Collectible Card Game (CCG) หรือ Trading Card Game (TCG) กันนะครับ
หากจะว่าไปถึงตำนานยุคแรกเริ่มของ CCG แล้วเนี่ย มันต้องย้อนไปถึงไพ่ในยุคแรกๆ จำพวกป็อกเด้ง, เก้าเก ฯลฯ ที่เหล่าแม่บ้าน และสิงห์พนันทั้งหลาย ชอบมานั่งจั่วกันในปัจจุบันนี่แหละครับ แต่ถ้าจะให้พูดถึงตั้งแต่ตรงโน้น มันก็ยาวมากกกกกกกก และไม่ใช่วิถีแห่ง CCG ด้วย
แต่หากจะเอาตั้งแต่ CCG จริงๆ แล้วนะครับ ก็คงต้องเริ่มจาก CCG เกมแรกของโลก ซึ่งนั่นก็คือ The Base Ball Card Game นั่นเองครับ สำหรับการ์ดเกมนี้ ก็ตามชื่อของมันเลยครับ มันคือเบสบอล ผลิตโดยบริษัท Allegheny Card Co. ซึ่งประกาศลิขสิทธิ์ในวันที่ 5 เมษายน ปี 1904 (ในวันนี้ก็นับว่าครบรอบ 107 ปีพอดีนั่นเองครับ)
จนในเดือนสิงหาคมปี 1993 ก็เริ่มมีการคิดค้นการ์ดเกมขึ้นมา สำหรับใช้ต่อสู้กันเป็นเกมแรกของโลก และชื่อนั้นเพื่อนทุกคนคงรู้จักกันดีครับ เพราะมันคือ Magic : The Gathering หรือที่เราคุ้นปากกันดีในชื่อเรียกสั้นๆ ว่า เมจิค ครับ ซึ่งจัดจำหน่ายโดย Wizards of the Coast และออกแบบโดย Richard Channing Garfield บิดาผู้ให้กำเนิดการ์ดเกมต่างๆ มากมาย เช่น Star Wars : Trading Card Game เป็นต้น แต่ก็ไม่มีการ์ดเกมไหน ดังเทียบเท่ากับการ์ดเมจิคของเขาได้เลย ซึ่งในปัจจุบันการ์ดเมจิค ก็ยังคงมีผู้เล่นกันอยู่อย่างแพร่หลาย
จบครับ (ไม่ใช่ละ >_<)
การ์ดเกมนั้นมีออกมาใหม่อยู่เรื่อยๆ ทุกปีครับ ซึ่งบางอย่างก็มีรูปแบบมาจากคาแรคเตอร์การ์ตูน, ภาพยนตร์ หรือแม้แต่กีฬาก็ด้วย ซึ่งหากให้ผมไล่ชื่อออกมาทั้งหมด ก็คงยาวเป็นหางว่าวแน่ๆ เพราะแต่ละปี ออกมาไม่ต่ำกว่า 5 เกมเลยทีเดียว ซึ่งผมขอข้ามรายชื่อพวกนี้ไปเลยก็แล้วกันนะครับ
และสำหรับการ์ดเกมบางซีรี่ส์ ก็ได้มีการทำออกมาเป็นเกมออฟไลน์ที่เอาไว้สำหรับเล่นบนเครื่องเล่นเกมต่างๆ อย่างเช่น Yu Gi Oh! เป็นต้น ซึ่งผู้เล่นจะสามารถเล่นแข่งกับ AI ในเกมนั้นๆ ได้และใช้วิธี เล่นเก็บแต้มกับ AI เพื่อซื้อการ์ดมาเสริมความแข็งแกร่งให้ตัวเอง
และนอกจากนี้ เกมบางเกมก็ยังมีการแฝงการ์ดเกม ลงไปเป็น Mini Game ด้วย ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป้นเกมที่ใช้เวลาเล่นยาว ซึ่ง Mini Game การ์ดเกมพวกนี้ก็ช่วยให้ไม่เบื่อได้ดีเช่นกัน
ไม่กี่ปีต่อมา การ์ดเกมได้มีการพัฒนาขึ้นอีกขั้น จากการเล่นกันแบบเผชิญหน้าของผู้เล่นแต่ละฝ่าย หรือเล่นกับ AI ในเกมการ์ดสำหรับเครื่องเกมออฟไลน์ต่างๆ อย่างเช่นยูกิโอแล้ว ก็ได้พัฒนาให้มีการเล่นเกมการ์ดแบบออนไลน์ผ่านอินเตอร์เนต ซึ่งทำให้ผู้เล่นสามารถเล่นกับคนอื่นๆ ได้กว้างขวางมากขึ้น (ผมจำได้ว่าสมัยก่อน ผมต้องเล่นแต่กับเพื่อนๆ เท่านั้น ซึ่งก็เจอแต่หน้าเดิมๆ แถมวันหยุดอยากเล่นยังต้องนัดเจอเพื่อมานั่งเล่นกันอีก >_<) ซึ่งถือเป็นยุคแรกๆ ที่มีระบบการจ่ายเงิน Cash เพื่อซื้อ Item Mall ในเกมแบบออนไลน์ แต่เป็นการเติมเพื่อซื้อการ์ดในเกม โดยเกมการ์ดออนไลน์เกมแรกของโลกเลยก็คือ Chron X ของบริษัท Genetic Anomalies ในเดือนพฤษภาคม ปี 1997
นอกจากนี้ก็มีการ์ดเกมต่างๆ เริ่มทยอยทำเป็นเกมออนไลน์ออกมาบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าการ์ด เมจิค เองก็ได้ทำเป็นเกมออนไลน์ออกมาเช่นกัน
ในช่วงปี 2008 กระแสการ์ดเกม ก็ฮือฮากันเป็นอย่างมาก เนื่องจากการ์ดเกมที่ชื่อว่า The Eye of Judgement ซึ่งเป็นเกมสำหรับเครื่อง Play Station 3 ที่มีการใช้ เทคโนโลยี CyberCode matrix กับกล้อง Play Station Eye ทำให้สามารถเรียกมอนสเตอร์ในการ์ดให้ไปโผล่ในเกมได้จริงๆ แบบ 3 มิติ ซึ่งเทคโนโลยีนี้ จะทำให้ผู้เล่นสามารถซื้อการ์ดสะสมได้ตามปกติ แล้วยังเอามาเล่นแบบออนไลน์ได้อีกด้วย ในปัจจุบันก็ยังพอมีการ์ดเกมออนไลน์บางค่าย ที่ทำขึ้นมาเพื่อให้ผู้เล่น ได้เล่นกันแบบฟรีๆ โดยใช้หลักการเล่นกับคนอื่นๆ เหมือนกับเกมออฟไลน์ ที่เล่นกับ AI แล้วเก็บแต้มเพื่อเอาแต้มมาแลกซื้่อการ์ดนั่นเอง
วงการการ์ดเกมในประเทศไทยนั้น ก็ค่อนข้างจะเป็นความชอบสำหรับกลุ่มบุคคลซะมากกว่า และที่สำคัญนั้น ประเทศไทยเองก็มีการผลิตการ์ดเกมออกมาด้วยเช่นกัน ซึ่งก็มีการ์ดเกมที่ดังๆ อย่าง Summoner Master ของทีมงาน Phenomenon Party ซึ่งก็เคยเปิดให้เป็นเกมออนไลน์ ในสังกัดของ Asiasoft อยู่ระยะหนึ่ง นอกจากนี้ก็ยังมีการ์ดเกมออนไลน์ฝีมือคนไทยอีกเกมหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ซึ่งก็คือการ์ดเกม Arcana หรือชื่อย่อว่า ABC ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น Arcana Advance โดยบริษัท ดิจิคราฟต์ จำกัด และปัจจุบันนี้ก็ยังคงเปิดให้เล่นกันอยู่แบบฟรีๆ
โดยสรุปแล้ว การ์ดเกมนั้นเป็นการละเล่นอย่างหนึ่งที่เพลิดเพลินดีเหมือนกันครับ ส่วนตัวผมเองตอนนี้ก็ยังมีเล่นการ์ดเกมกับเพื่อนๆ อยู่บ้าง เวลาพบเจอกันแต่ละครั้ง สำหรับเรื่องราวของการ์ดเกมในคราวนี้ผมไม่ได้เจาะลึกถึงแต่ละซีรี่ส์ ข้อมูลที่เป็นเนื้อๆ จริงๆ จึงมีอยู่เพียงเท่านี้แหละครับ และต่อไปวันอังคารหน้า ผมจะนำเพื่อนๆ ย้อนอดีต ไปทำความรู้จักกับประวัติของเครื่องเกมแต่ละชนิดกันบ้าง โดยเริ่มจากเครื่องเกมชิ้นแรกที่ผมได้จับเลยก็คือ Famicom ครับ ไว้พบกันวันอังคารหน้านะครับ ^^