บทความน่าศึกษา จาก แขนกล คนแปรธาตุ (Fullmetal Alchemist)

 "ชั้นคิดว่าไม่มีอะไรในโลกนี้ที่สามารถแลกเอาแม่กลับมาได้" เอ็ดเวิร์ดพูด

 

สองพี่น้อง เอ็ดเวิร์ด เอลริก (เอ็ด) และ อัลฟองเซ เอลริก (อัล) อาศัยอยู่กับแม่มาตั้งแต่เล็ก เอ็ดเวิร์ดอายุ 11 ขวบ อัลฟองเซอายุ 10 ขวบ ทั้งสองไม่ทราบว่าพ่อหายไปไหน ทราบแต่เพียงว่าพ่อเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุที่มีชื่อเสียง ทั้งสองเห็นแม่นั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างเสมือนกำลังรอใครบางคนอยู่เสมอๆ นอกจากนี้ ทุกครั้งที่เด็กน้อยทั้งสองสามารถ "สร้าง" ของเล่นบางอย่างขึ้นมาจากวิชาเล่นแร่แปรธาตุ คุณแม่จะมีสีหน้าภาคภูมิใจและกล่าวชื่นชมให้กำลังใจ

แล้ว วันหนึ่งคุณแม่ก็ตาย…

เอ็ดเวิร์ดชวนน้อง "เอา" คุณแม่กลับมา แต่วิชาเล่นแร่แปรธาตุบอกแล้วว่าไม่มีทางที่เราจะ "เอา" โดยไม่หาของที่มีค่าเท่ากันไปแลก ยิ่งไปกว่านั้นการ "สร้าง" มนุษย์ ก็เป็นเรื่องต้องห้าม การ์ตูนเรื่องนี้กำหนดลงไปตรงๆ ว่านั่นคือภารกิจของพระเจ้าเท่านั้น  เมื่ออัลฟองเซทักท้วงพี่ชาย เอ็ดเวิร์ดก็อ้างว่าเขาห้ามเพราะเขายังทำกันไม่สำเร็จต่างหาก ทำนองว่ากีดกัน

แล้วทั้งสองก็เริ่มทำงานของพระเจ้า

 (ตรงนี้เหมือนสถานการณ์การโคลนนิ่งมนุษย์ในปัจจุบัน เมื่อฝ่ายต่อต้านการโคลนนิ่งมนุษย์อ้างว่านักวิทยาศาสตร์กำลังทำงานของพระ เจ้า นักวิทยาศาสตร์บางหน่วยงานจะบอกว่าเขาห้ามเพราะกลัวเราทำสำเร็จก่อน …) เมื่ออัลฟองเซถามว่าจะเอาอะไรไปแลก "วิญญาณ" แม่ เอ็ดเวิร์ดก็เอามีดกรีดนิ้วของตนเองและของน้องหยดลงบนกอง "สารเคมี" ที่ชั่งตวงวัดมาแล้วว่าคือส่วน ประกอบของมนุษย์ผู้ใหญ่ 1 คน!

แต่ผลสุดท้ายการทดลองการคืนชีพแม่ของเอ็ดก็ล้มเหลว แถมทั้งสองก็สูญเสียร่างกายอีก เมื่ออัลถามเอ็ดว่ายังคิดจะเอาแม่คืนมาอีกมั้ย เอ็ดจึงกล่าวประโยคข้างต้น

"ชั้นคิดว่าไม่มีอะไรในโลกนี้ที่สามารถแลกเอาแม่กลับมาได้" เอ็ดเวิร์ดพูด

…สิ่งที่น่าสนใจในแขนกลคือการเอา ตำนานโบราณ และทฏษฎีร่วมสมัยมาผสมกับการ์ตูนแอ็คชั่น ทำให้การ์ตูนนี้ไม่ใช้แอ็คชั่นไร้สมองเหมือนการ์ตูนเรื่องอื่นๆ ซึ่งแต่ละเรื่องล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตและคติประจำใจในด้าน ต่างๆ ไม่มากก็น้อย เมื่อดูแล้วเราจะเห็นว่าการเล่นแร่แปร ธาตุมีประโยชน์ และในขณะเดียวกันมันก็นำมาซึ่งหายนะเช่นกัน เช่นการสร้างทองคำ, คิไมล่า, อาวุธทางการทหาร ฯลฯ

มนุษย์เราถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความ โลภมากกว่าที่สุดในโลก และความโลภสูงสุดหนึ่งของมนุษย์ที่ต่างปรารถนาคือ “อมตะ”  ซึ่งมนุษย์ทำทุกวิถีทางในการค้นหาอมตะ หินนักปราชญ์, คิไมร่า ถือเป็นสุดยอดของวิชาเล่นแร่แปรธาตุ แต่จุดประสงค์ของมันนั้นเพียงแค่สนองความต้องการที่ไม่สิ้นสุดของคนเราเท่า นั้น

                   
ปมอิดิปุส

 

สิ่งที่ชอบแขนกลอย่างหนึ่งคือความสัมพันธ์ของพ่อของเอ็ดและตัว ของเอ็ด เอ็ดเกลียดพ่อมาก แต่ในขณะเดียวก็รักแม่ ซึ่งคล้ายๆ กับลักษณะอาการของปมอิดิปุส  เคยอดคิดไม่ได้ว่าถ้าเอ็ดพบพ่ออีกครั้งอาจเกิดโศกนาฏกรรมแบบอิดิปุสบ้าง

ปมอิดิปุส ( Oedipus complex / Oedipus conflict ) เป็นหนึ่งในกระบวนการพัฒนาของเด็ก ที่จะเกิดขึ้นปกติ พร้อมๆกับพัฒนาการทางจิตใจและเพศ เน้นหนักไปที่ฝ่ายชายเมื่ออายุประมาณ 5-6 ปี โดย ที่จะเกิดอาการ รักแม่ ในเชิงอิโรติก และมองเห็นเหมือนเป็นที่ระบายความรู้สึกทางเพศ ทำให้เกิดอาการ อิจฉาพ่อ เกลียดพ่อ อิจฉาพ่อ มีความต้องการครอบครองแม่ไว้เป็นของตัวเองคนเดียว และต้องการที่จะแทนที่ในตำแหน่งของพ่อ …

แน่นอนเวลาเราดูแขนกลไปเรื่อยๆ จะพบเอ็ดเกลียดพ่ออย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันเอ็ดก็เลียนแบบพ่ออย่างไม่รู้ตัว เนื่องจากปมนี้ลูกอยากจะให้แม่คิดว่าตนเหมือนพ่อ เอ็ดจึงพยายามเลียนแบบพฤติกรรมต่างๆของพ่อ ไม่ว่าจะเป็นคำพูด การกระทำ หรือรูปแบบการใช้ชีวิตต่างๆ เพื่อคาดหวังที่จะเป็นตัวแทนของพ่อ และอยู่กับแม่ได้ตลอดไป

ปมอิดิปุสนั้นมีที่มาจากโศกนาฏกรรมเทพนิยายกรีกเรื่อง อิดิปุส (Oedipus) ซึ่งกล่าวถึงตัวเอกอิดิปุส เป็นลูกชายของพระราชาไลอัส และพระราชินีโจคาสตา แห่งเมืองธีบิสของอียิปต์ ซึ่งผู้เป็นพ่อได้รับรู้คำทำนายว่าบุตรของตนจะสังหารตนเอง ครองตำแหน่งแทนตนและแต่งงานกับแม่ของตนเอง (มุกแบบนี้มีอยู่ในการ์ตูนเกือบทุกเรื่อง) พ่อของอิดิปุสกลัวคำทำนายนี้มาก เขาเลยจัดการให้คนนำลูกคนตนเองฆ่า โดยการโยนจากหน้าผา  โชคดีของเด็กนั้นไม่ตาย และมีคนเก็บได้ จนเด็กได้เป็นบุตรบุญธรรมของราชาและราชินีแห่งเมืองโคลินท์

อิดิปุสก็ทราบคำทำนายของตนเอง ว่าตนต้องฆ่าพ่อ และเอาแม่มาเป็นภรรยา ซึ่งเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจมาก และไม่ให้คำทำนายนั้นเป็นจริง เขาเลยออกจากเมืองโคลินท์ และเร่ร่อนแสวงบุญไปทั่ว ระหว่างการเดินทาง ตัวเขาได้พบกับชายผู้กำลังเดินทางแสวงบุญคนหนึ่งบนท้องถนน ทั้งคู่มีปากเสียงกัน และต่อสู้กัน จนนักแสวงบุญคนนั้นตาย โดยอิดิปุสหารู้ไม่ว่าชายที่ตนฆ่านั้น คือราชาไลอัสแห่งธีบิส พ่อแท้ๆของเขานั่นเอง !!

ตัวอิดิปุสไม่รู้ความจริงนั้น เขาได้แต่เดินทางไป จนมาถึงเมืองธีบิสบ้านเกิดของเขาเอง และได้พบเจอกับสัตว์ประหลาดที่เกิดจากไทฟอนและอิคิดน่า มันมีหัวเป็นคน ตัวเป็นสิงโต นามว่า สฟิงซ์ ( Sphinx ) ตัวอิดิปุสตัดสินใจจะเผชิญหน้ากับสฟิงซ์ แต่สฟิงซ์นั้นเป็นสัตว์ประหลาดรักสันติ มันชอบทดสอบนักเดินทางในการถามคำถามมากกว่าจะขย้ำฆ่าแบบไร้ศิลปะ แต่ถ้าใครตอบคำถามมันไม่ได้มันก็ฆ่าเหมือนกัน ดังนั้นเมื่ออิดิปุสมาถึง มันก็ท้าทายด้วยคำถามที่เป็นสุดอมตะว่า

                “What uses four legs in the morning, two in the day, and three at night?”

                “สัตว์อะไรเอ่ย ตอนเช้าตอนสี่ขา กลางวันเดินสองขา กลางคืนเดินสามขา”

อิดิปุสตอบ คำตอบมนุษย์ไงละ ตอนเด็กคลานสี่ขา ตอนเป็นผุ้ใหญ่เดินสองขา พอแก่มาต้องใช้ไม้เท้าค้ำยันจึงเดินสามขา” สฟิงซ์ ร้องกริ๊ดลั่น เพราะไม่เชื่อว่ามันคนตอบคำถามของมันได้ สุดท้ายมันก็ตรองใจตายในที่สุด และเมื่อสฟิงค์ตาย ชาวเมืองเมืองธีบิสก็ยินดีปรีดา ประจวบที่ตำแหน่งกษัตริย์เมืองนี้ว่างพอดี พวกชาวเมืองเลยตั้งอิดิปุสเป็นกษัตริย์และได้แต่งงาน ราชินีหม้าย โจคาสตา……ซึ่งเธอเป็นแม่แท้ๆของตัวเขา…และอยู่ด้วยกันจนเวลาผ่านหลายปี

และเมื่อความจริงได้เปิด เผย แม่ของอิดิปุสละอายตาบาปนี้มากถึงขั้นฆ่าตัวตาย และอิดิปุสเองก็ทนต่อบาปนี้ไม่ได้เหมือนกันจึงตัดสินใจทำลายดวงตาทั้งสองของ ตัวเอง พร้อมกับสละตำแหน่งราชา และหายสาปสูญ ไม่มีใครพบตัวเขาอีกเลย…………..

แต่ในแขนกลฯนั้นพ้นจากโศกนาฏกรรมนี้ เพราะภายหลังเมือเอ็ดทราบสาเหตุความขุ่นเคืองในตัวพ่อก็ลดน้อยลง (สาเหตุคือคนพ่อนั้นเป็นอีกคนที่ใช้ศิลาย้ายวิญญาณของตัวเองมาไปร่างคนอื่นตลอด จนกระทั่งได้พบกับแม่ของเอ็ดและอัล ซึ่งก็คือTrishaเขาจึงหยุดการย้าย วิญญาณเพื่อที่จะได้ตายในร่างที่ Trisha รัก หลังจากที่อัลเกิดได้ไม่นานร่างกายของเขาก็เริ่มเสื่อมลง เขาจึงออกจากบ้านไปโดยไม่ต้องการให้เอ็ดและอัลรู้ถึงความจริงข้อนี้ เอ็ดจึงเกลียดพ่อของเขามากเนื่องด้วยไม่รู้ความจริง)

 

ภาคมูฟวี่ Conqueror of Shamballa

 

  

เรื่องของโฮมุนครุส

 

สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างในแขนกลฯ คือโฮมุนครุสเพราะแต่ละตัวล้วนมีปมมีที่มา ที่น่ารันทดจนน่าติดตาม แม้กระทั่งในโลกแห่งความ เป็นจริงที่มาของก็น่าสนใจครับ เพราะถูกผู้ให้กำเนิดมันที่แท้จริงคือ โฮเอนไฮม์

โฮเอนไฮม์ หรือพาราเคลซุส Paracelsus (1493 – 1541) มีชื่อเต็มว่า Theophrastus Philippus Aureolus Bombastus von Hohenheim เกิดที่เอนเซย์เดลน์ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เขาสนใจในธรรมชาติเพราะได้รับอิทธิพลจากบิดาที่เป็นนักธรรมชาติศาสตร์ ต่อมาเขาก็ได้ทำงานเป็นนักวิจัยเหมือง เข้าเรียนด้านอายุรกรรมในมหาวิทยาลัยบาเซล เรียนจบยังสาขาแพทย์ศาสตร์เมื่อปี 1515ในเวียนนา มหาวิทยาลัยเฟอร์รา  หลังจาก จบการศึกษา โฮเอนไฮม์ก็เป็นหมอรักษาตามต่างๆ ในยุโรป เช่น เช่นเยอรมัน ฝรั่งเศส ฮังการี เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ค สวีเดน รัสเซีย ฯลฯ ระหว่างการเดินทาง โฮเอนไฮม์ก็ศึกษาการเล่นแร่แปรธาตุและศาสตร์อื่นๆ ด้วย

 

ในไม่ช้า โฮเอนไฮม์ก็ตั้งชื่อให้ตนเองใหม่ใหม่ว่า"พาราเคลซุส" มีความหมายว่า"เท่าเทียมหรือเหนือกว่าเคลซุส" (Aulus Cornelius Celsus ชาวโรมัน 25 ปีก่อนคริสตกาล – ค.ศ. 50) หลังจากนั้น เขาเดินทางไปทั่วยุโรป ในระหว่างนี้ เขาเขียนหนังสือขึ้นเมื่อปี 1536 ชื่อหนังสือว่า Die grosse Wundartzney (The Great Surgery Book)  ระหว่างนี้ว่ากันว่าเขาสามารถสร้างสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าโฮมุนครุสได้สำเร็จ

โฮมุนครุส(Homunculus) รากศัพท์มาจากภาษาลาตินซึ่งมีความหมายว่า"คนตัวเล็ก" ถือเป็นสุดยอดวิชาเล่นแร่แปรธาตุพอๆ กับหินนักปราชญ์

ส่วนวิธีการทำนั้นก็เป็นความลับสุดยอดอีกแหละ แต่หลายๆ แหล่งว่ากันว่า วิธีทำโฮมุนครุสจะต้องนำอสุจิของมนุษย์ สมุนไพรหลายชนิด และมูลม้า มาใส่รวมกันในหลอดทดลองทำจากปรอท สิ่งที่ต้องระมัดระวังที่สุดคือโดยต้องระวังไม่ให้อากาศเข้า และต้องรักษาอุณหภูมิให้มูลม้าเกิดการหมักตัว เมื่อผ่านไป 40 วัน จะเกิดเป็นรูปร่างคนตัวใสๆขึ้นในหลอดแก้ว และหลังจากนั้นเป็นเวลาอีก 40 วัน จะต้องให้เลือดคนทุกวันอย่าให้ขาด รวมทั้งรักษาอุณหภูมิให้เท่ากับในท้องม้า หากหยุดให้เลือด โฮมุงคูลูสก็จะตาย

และเมื่อโฮมุนครุสถือกำเนิดขึ้นมามันจะมีลักษณะเหมือนมนุษย์หาก มีขนาดเล็กกว่า ว่ากันว่ามันฉลาดกว่ามนุษย์ แต่ชีวิตของมันอยู่ได้เฉพาะในหลอดแก้วเท่านั้น แต่น่าเสียดายเรื่องโฮมุนครุสเป็นเรื่องจริงหรือ ไม่ก็ไม่มีใครทราบได้ และผู้ให้กำเนิดตัวมัน พาราเคลซุสก็เสียชีวิตไปพร้อมกับความลับนั้นในปี 1941

กลับมาที่แขนกลฯ อย่างที่รู้ๆ กันชื่อของโฮมุนครุสแต่ละตัวมาจาก บาป 7 ประการ (seven deadly sins) ของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาธอลิคซึ่งประกอบด้วย

 

                ราคะ (lust) ซึ่งมีปีศาจตัวแทนคือ แอสโมดิวส์ เป็นปีศาจที่หลงรักมนุษย์หญิงสาวคนอื่นและฆ่าชายที่จะแต่งงานกับนางทุกคน เมื่อมันปรากฏต่อ มวลมนุษย์ มันจะมีรูปร่างเป็นสัตว์ประหลาดสามหัว ขี่มังกร พร้อมอาวุธหอก หัวทั้งสามของมันเป็น วัว แพะ และคน เพราะว่า สัตว์พวกนี้ถือว่าเป็นสัตว์ที่ที่ลุ่มหลงในตัณหา เท้าของมัน ถ้าคนจะสังเกตจะเป็นของไก่ ในการ์ตูนแขนกลฯ ฉบับอมิเนชั่นเกิดจากความผิดพลาดการชุปชีวิตแฟนของพี่ชายสการ์ ซึ่งเธอต้องการหินนักปราชญ์เพื่อเป็นคน ซึ่งในพระคัมภีร์บอกถึงบทลงโทษของผู้ที่เป็นราคะคือถูกรมด้วยสารกำมะถันและ ไฟ

                ตะกละ (gluttony) มีปีศาจตัวแทนคือ เบลเซบับ เป็นเจ้าชายแห่งนรกหรือเจ้าแห่งหมู่แมลงวัน ในการ์ตูนแขนกลฯ ฉบับอมิเนชั่นเกิดจากการทดลองของหัวหน้าใหญ่ ภายหลังก็ได้ฆ่าผู้สร้างและกลายเป็นบ้าในที่สุด ซึ่งในพระคัมภีร์บอกถึงบทลงโทษของผู้ที่ตะกละในนรกคือการที่ถูกกินทั้งเป็น โดยหนู คางคก และงู

                โลภะ (greed/avarice) มีปีศาจตัวแทนคือ แมมมอน ปีศาจแห่งความมั่งคั่งที่ไม่เป็นธรรม ฉบับอมิเนชั่นเกิดจากการทดลองของหัวหน้าใหญ่ แต่ด้วยความทะเยอทะยานและความโลภเลยหลบหนีออกมา ต่อมาถูกจับได้ และถูกฆ่าโดยแช่ในน้ำมันเดือดตาย ซึ่งตายเหมือนพระคัมภีร์บอก

                เกียจคร้าน (sloth/laziness) มีปีศาจตัวแทนคือเบลฟีเกอร์ ปีศาจผู้ไม่ยอมทำอะไรเพียงแต่บอกให้มนุษย์คอยทำสิ่งเหล่านั้น ในการ์ตูนแขนกลฯ ฉบับอมิเนชั่นเกิดจากเกิดจากการทดลองคืนชีพแม่ผิดพลาดของเอ็ด(แต่ในหนังสือ จะเป็นคนละตัว)  บทลงโทษของผู้เกียจคร้านคือการถูก โยนลงไปในบ่องูพิษ

                โทสะ (wrath) มีปีศาจตัวแทนคือซาตาน ปีศาจแห่งความมืด มีปมกำเนิดที่สับสนไงไม่ถูกคือเกิดจากการทดลองคืนชีพลูกผิดพลาดของอาจารย์ เอ็ด(Izumi Curtis)และตายก่อนที่จะคืนชีพอีกที่จากการทดลองคืนชีพแม่ของเอ็ด

                ริษยา (envy) มีปีศาจตัวแทนคือ ลิวาธาน ปีศาจอสรพิษทะเลแห่งนรก มีรูปร่างเป็นสัตว์ เลื้อยคลาน รูปร่างคล้ายมังกร ผู้อาศัยในทะเลลึก ปรกติจะจัดให้มันเป็นเพศเมีย  ผู้เป็น สัญลักษณ์แห่งการต่อต้านพระเจ้า  ในบางตำรากล่าวไว้ ว่า อดีดเคยเป็นเทวฑูตองค์หนึ่งในสวรรค์ เทวฑูตแห่งยุคกำเนิดโลก ร่วมกับ เบเฮมอธ กล่าวไว้ว่า ลีเวียธาณ และ เบเฮมอธ ถือกำเนิดในวันที่ 5 ของการ สร้างโลก โดยในอมิเนชั่นเกิดจากการทดลองของโฮเอนไฮ ม์ ทำให้มันมีความแค้นพิเศษ ผลสุดท้ายก็กลายร่างเป็นลิวาธานตามล่าผู้สร้างที่โลกคู่ขนานและตายเพื่อ สังเวยเพื่อให้ประตูเปิด โดยบทลงโทษผู้ที่มีความอิจฉาคือถูกเย็บตาอย่างทรมาน

                อัตตา (Vanity/pride) อัตตาเป็นยอดแห่งบาปทั้งปวง หมายถึงความต้องการเป็นผู้ที่มีความสำคัญและอำนาจเหนือผู้อื่น (เช่นต้องการเป็นพระราชา) การที่รักตนเองมากจนเกินไป หลงในอำนาจและรูปลักษณ์ของตัวเอง มีปีศาจตัวแทนคือ ลูซิเฟอร์ อดีตเทวดาที่ถูกขับไล่ออกจากสวรรค์ เนื่องจากลูซิเฟอร์เห็นว่าตนมีอำนาจเท่ากับพระเจ้าและสามารถสร้างพรรคพวกของ ตัวเองเพื่อต่อต้านและไม่เคารพพระเจ้า คนที่มีความโอหังจะสนใจเฉพาะตนเองเท่านั้น บทลงโทษของผู้ที่โอหังคือการถูกทรมานบนวงล้อ (มัดกับวงล้อแล้วให้วงล้อหมุนเรื่อยๆ ผู้ถูกทรมานจะถูกบดขยี้กับพื้น)

 

จากบทความใน
มติชน ฉบับวันที่ 05 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 26 ฉบับที่ 1342  โดย นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

เรียบเรียงอีกรอบโดยดึงมาจาก
http://writer.dek-d.com/cammy/writer/viewlongc.php?id=125456&chapter=8

**หมายเหตุ  ฉบับอนิเมชั่นที่บทความพูดถึงจะเป็น Full Metal Alchemist Version เก่านะคะ ซึ่งจะไม่ตรงกับเวอร์ชั่นใหม่ (ฺเวอร์ชั่น Brother Hood) ก็ว่ากันว่าเวอร์ชั่นเก่า เนื้อเรื่องไม่ตรงกับในฉบับคอมิกส์ ทำให้คนที่ไม่เคยดูเวอร์ชั่นเก่าอย่าง por_kk (ดูแต่เวอร์ชั่น Brother Hood –ที่ค่อนข้างตรงกับฉบับคอมิกส์) มา ก็ไม่ค่อยเข้าใจและไม่รู้บางส่วนที่เขาเปรียบเทียบเหมือนกัน

**หมายเหตุ2 บทความนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของท่านผู้เขียนนะคะ แต่ por_kk เห็นว่า บางส่วนก็เป็นความรู้ที่น่าสนใจดีเลยนำมาฝากกันค่ะ

Full Metal Alchemist Brother Hood

Full Metal Alchemist Brother Hood OP 1

Full Metal Alchemist Brother Hood OP 3

ตัว por_kk รู้จักบาปทั้ง 7 แต่เพิ่งรู้ว่า โฮมุนครุสหรือ โฮเอนไฮม์มีประวัติความเป็นมาจริงซะด้วย แต่เรื่องรายละเอียดของประวัติจะจริงหรือเปล่าไม่รู้  แต่จริงแท้ๆ คือ ภาคอนิเมชั่นภาคก่อนๆ ที่อาจจะทำให้หลายคนรู้สึกผิดหวังเพราะมันเนื้อหาเหวี่ยงไปจากทางคอมิกส์มาก  เวอร์ชั่นใหม่ที่มีชื่อเต็มๆ ว่า Full Metal Alchemist Brother Hood น่าจะถูกใจกว่าในหลายๆ ส่วน ซึ่งตอนนี้เวอร์ชั่นนี้ Rose ก็ซื้อลิขสิทธิ์ (และดูเหมือนจะวางขายแล้วด้วย) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลองไปหามาดูกันได้นะคะ

เว็บไซต์ Rose
http://www.rose.co.th/

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้