Black Rogue : สายการเล่นสุดเทพ และความต่างของ 2 อารยธรรม

          นอกเหนือจากการเลือกฝ่ายที่แบ่งออกเป็น Hunter Rogue, Killer Rogue และ Merchant Rogue แล้วนั้น ความหลากหลายของการเล่นยังอยู่ที่การเลือกใช้อาวุธ และใช้สกิลเพื่อใช้ในการต่อสู้ เนื่องจากเกมนี้ไม่มีระบบอาชีพ ความแตกต่างกันของการเล่นจึงมุ่งไปที่การเลือกอัพ Skill และ Status ดังนั้น สายการเล่นต่างๆ ในเกม Black Rogue จะอยู่ที่ความแตกต่างในการเลือกใช้สกิล และอาวุธเป็นหลัก

อารยธรรมตะวันออก หรือจีน


ตัวละครจีน

        สำหรับเกม Black Rogue เองนั้นตอนนี้แบ่งออกเป็น 2 ทวีป คือ จีน และยุโรป ซึ่งในสายการเล่นของจีน และยุโรปก็ไม่เหมือนกัน เรียกว่าต่างกันโดยสิ้นเชิงเลยทีเดียว หรือจะบอกว่าคนละเกมกันก็ไม่แปลก แต่ความสนุกจะอยู่ที่สามารถนำมาต่อสู้กันได้ ดังนั้นความได้เปรียบเสียเปรียบจะเกิดขึ้นทันทีเมื่อเราเลือกอัพสกิล, อัพสเตตัส และการใช้อาวุธ
        จีนจะเน้นการใช้เคล็ดกระบวนท่าโจมตีต่างๆ ประสานไปกับเคล็ดลมปราณ ซึ่งหมายถึงว่าใช้สกิลโจมตีทางกายภาพคู่ไปกับพลังเวทย์ หรือจะเรียกว่าพลังลมปราณนั้นเอง มันแปลกใช่ไหมล่ะ ..อย่างเช่นว่าใช้สกิล “Killing Heaven Blade Series” (เพลงกระบี่สังหารสวรรค์) โดยใช้กระบวนท่า “Dragon Sore Blade” (เคล็ดวิชาฟ้าสยบมังกร) ควบคู่ไปกับพลังลมปราณน้ำแข็ง “Ice Jade Force” (เคล็ดปราณศิลาเย็น) ก็ทำให้คู่ต่อสู้ติดอาการเชื่องช้าเพราะถูกพิษจากน้ำแข็ง บางโอกาสยังทำให้ศัตรูถูกแช่แข็ง (Freeze) อีกทั้งการโจมตีจะรุนแรงขึ้นกว่าการโจมตีทางกายภาพธรรมดาๆ ตัวอย่างเช่น ใช้สกิล “Dragon Sore Blade” โจมตีเข้า 100 แต่พอใช้คู่กับสกิล Ice Jade Force โจมตีเข้าไป 250 เป็นต้น นี่เป็นเพียงตัวอย่างสกิลพื้นฐานทั่วๆ ไปเท่านั้น
       ดังนั้นถ้าเลือกเล่นฝั่งจีนก็จะต้องเลือกการใช้สกิลอาวุธควบคู่ไปกับการอัพสกิลปราณต่างๆ ไปด้วย จะไปเลือกสกิลอาวุธอย่างเดียว หรือสกิลลมปราณอย่างเดียวดูจะไม่เห็นผล เปรียบเหมือนมีกระบวนท่าแต่ไร้พลังลมปราณ หรือมีพลังลมปราณแต่ไร้กระบวนท่า ก็ไม่อาจเป็นยอดจอมยุทธ์ได้เลย

สกิลอาวุธฝั่งจีนมีให้เลือก
           • สกิลสาย Bicheon : แบ่งออกเป็น 2 แขนง คือ สกิลกระบี่และโล่ (Sword and Shield) กับ สกิลดาบและโล่ (Blade and Shield) ซึ่งมีความแตกต่างทางด้านพลังโจมตีกายภาพและพลังโจมตีเวทมนตร์ โดยดาบเน้นฟัน ในขณะกระบี่เน้นแทงและฟัน แต่หลักๆ จะมุ่งไปที่การใช้โล่ป้องกันอันหลากหลายด้วยพลังป้องกันอันมหาศาลของโล่
           • สกิลสาย Heuksal แบ่งออกเป็น 2 แขนงเช่นกัน คือ ทวน (Spear) เน้นการโจมตีที่รุนแรงว่องไวจากปลายทวน และง้าว (Glaive) เป็นอาวุธที่พัฒนาขึ้นมาจากหอกโดยติดใบมีดที่ปลายหอกใช้การฟันที่รุนแรง ชาวยุทธ์ที่เน้นลมปราณเป็นหลักนิยมอาวุธนี้กันอย่างมาก เนื่องจากมีพลังโจมตีที่รุนแรงกว่าอาวุธอื่นๆ
           • สกิลสาย Pacheon ใช้อาวุธเดียว คือ ธนู (Bow) เน้นการโจมตีด้วยลูกศรของธนูจากระยะไกล จัดเป็นอาวุธที่ชื่นชอบของกลุ่ม Killer Rogue อย่างมาก

สกิลฝ่ายลมปราณหรือเวทย์
           • ปราณน้ำแข็ง (Cold) : เน้นการป้องกันและจู่โจมด้วยเวทย์น้ำแข็ง อีกทั้งยังทำให้ศัตรูถูกแช่แข็งด้วย
           • ปราณสายฟ้า (Lightning) : เน้นการป้องกันและจู่โจมด้วยเวทย์สายฟ้า และเน้นไปในทางเดินทางและหลบหลีกที่ไวขึ้น
           • ปราณไฟ (Fire) : เน้นการป้องกันและจู่โจมด้วยเวทย์ไฟที่รุนแรงมากๆ อีกทั้งยังตรวจจับศัตรูที่ซ่อนอยู่ได้อีกด้วย
           • ปราณธรรมชาติ (Force) สายที่เป็นความต้องการของเพื่อนๆ คือ ซัพพอร์ตปาร์ตี้ เช่น เพิ่มสถานะต่าง ๆ ให้กับเพื่อนๆ และทำให้ศัตรูติดสถานะแปลก ๆ หรือจะเป็นการรักษาฟื้น HP และชุบชีวิต เป็นต้น

ง้าว

ดาบสองมือ

          จะเห็นว่าเมื่อเราเลือกสายอาวุธอะไร ก็จะสามารถมีปราณเวทย์ต่างออกไปจากสายอาวุธได้ เช่น A เล่นง้าวสายน้ำแข็ง B อาจจะเล่นง้าวสายไฟก็สามารถทำได้ หรือ C เล่นง้าว สายธรรมชาติและสายฟ้าควบคู่ก็สามารถทำได้
          ดังนั้นแนวทางการเล่นสายต่อสู้ของจีน จึงเน้นลมปราณนำ ส่วนอาวุธก็จะเลือกอะไรก็ได้ หากเลือกอาวุธที่ต้องการได้ค่อยไปอัพสกิลอาวุธนั้นๆ ทีหลังจะดีกว่าอัพสกิลอาวุธก่อนอัพสกิลปราณ เรียกว่า จอมยุทธ์สายลมปราณ ส่วนถ้าอยากเชี่ยวชาญกระบวนท่าเคล็ดวิชาต่างๆ จะอัพสายอาวุธไปก่อน ค่อยไปเลือกลมปราณทีหลังก็ได้ หรือจะอัพทั้งสองอย่างคู่ๆ กันไปก็ย่อมได้ แต่จากที่ลองเล่นมา โดยส่วนมากจะเน้นพลังลมปราณเป็นหลักค่ะ

อารยธรรมตะวันตก หรือยุโรป

ตัวละครยุโรป

          ยุโรปจะไม่แบ่งเป็นอาวุธและปราณผสานกัน เพราะไม่ใช่จอมยุทธ์ที่มีลมปราณ แต่จะเป็นความเชี่ยวชาญศาสตร์การใช้อาวุธ และศาสตร์แห่งเวทมนตร์มากกว่าเรียกว่าต่างกันสิ้นเชิงกับจีนเลยก็ว่าได้

ศาสตร์วิชาการแบ่งเป็น
           • ศาสตร์แห่งนักรบ (Warrior) : มีพลังป้องกันและโจมตีทางกายภาพสูงมาก อาวุธที่เลือกใช้ศาสตร์นี้ได้ คือ ดาบมือเดียวกับโล่, ดาบใหญ่สองมือ และขวานคู่ โดยเมื่อเลือกอาวุธแต่ละอย่างก็จะมีสกิลของสายอาวุธนั้นๆ ไปไม่เหมือนกัน
           • ศาสตร์แห่งโจร (Rogue) : มีความว่องไวและเน้นการโจมตีจากความมืด อาวุธที่เลือกใช้ได้ คือ หน้าไม้ (Crossbow) กับ มีดสั้น (Dagger)
           • ศาสตร์แห่งเวทย์มนต์ควบคุมธาตุ (Wizard) : ใช้เวทย์มนต์จากธรรมชาติแบ่งสายเป็น ดิน,น้ำ, ลม, และไฟ มีพลังทำลายล้างด้วยเวทย์มนต์ที่รุนแรง อาวุธที่ใช้ศาสตร์นี้ได้ คือ คทา (Staff)
           • ศาสตร์แห่งความมืด (Warlock) : ใช้เวทย์มนต์แห่งความมืด ทำให้ศัตรูถูกคำสาป สร้างสถานะแปลกๆ แก่ศัตรู อาวุธที่ใช้ศาสตร์นี้ได้ คือ คทา (Staff) 
           • ศาสตร์แห่งดนตรี (Bard) : หรือสุนทรียศาสตร์ นักศิลปะที่ใช้พิณเป็นอาวุธ เน้นสกิลที่หลากหลาย เช่นศาสตร์การใช้พิณเพื่อป้องกัน, โจมตี หรือสนับสนุนปาร์ตี้ จึงเป็นที่ต้องการของปาร์ตี้อย่างมาก อาวุธที่ใช้ศาสตร์นี้ได้ คือ พิณ (Harp)
           • ศาสตร์แห่งพระเจ้า (Cleric) : เน้นการใช้บทสวดเพื่อขอพรจากพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่ ศาสตร์ต่างๆ จึงเน้นไปในทางรักษาช่วยเหลือ ชุบชีวิต และสนับสนุนในทางรักษาของปาร์ตี้ อาวุธที่ใช้ศาสตร์นี้ได้ คือ ไม้เท้า (Rod)

ดาบมือเดียว

ขวานคู่

          จะเห็นว่าเราสามารถผสมผสานแนวทางการเล่นจากยุโรปนี้ได้ด้วย เช่น อัพสกิลดาบไปคู่กับสกิลเวทย์ แม้จะใช้ได้ไม่สะดวกอย่างฝั่งจีน เพราะสกิลที่ใช้นั้น ขึ้นอยู่กับอาวุธที่เราสวมใส่อยู่ เพราะฉะนั้นจึงต้องเปลี่ยนอาวุธเสมอเมื่อต้องการใช้สกิลในอีกสาย แต่ก็ทำให้เกิดความแปลกใหม่ในการเล่นไม่รู้จบทีเดียว เช่นว่า เบื่อใช้ดาบ ก็ไปเล่นเวทมนตร์โดยไม่ต้องไปสร้างตัวละครใหม่ แต่ต้องหาแต้มสกิลมาอัพเวทมนตร์แทน

         ดังนั้นเกม Black Rogue นี้จึงมีแนวทางการเล่นสายการต่อสู้ที่หลากหลายอย่างมาก ถ้าจะบอกว่ามีอาชีพนั้นอาชีพนี้ ก็จะไม่ถูก ต้องบอกไว้เลยว่าเป็นเกมที่มีอาชีพหรือสายการเล่นที่กว้างและใหญ่มากที่สุดเท่าที่มีเกมออนไลน์ ในโลกเลยทีเดียว
 

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้