ผู้ปกครองตั้งคำถาม อนิเมะ Dr. Stone เหมาะกับเด็กรึเปล่า? เพราะแม้จะให้ความรู้ แต่แฟนเซอร์วิสก็ไม่เบา

แชร์เรื่องนี้:
ผู้ปกครองตั้งคำถาม อนิเมะ Dr. Stone เหมาะกับเด็กรึเปล่า? เพราะแม้จะให้ความรู้ แต่แฟนเซอร์วิสก็ไม่เบา

แม้อนิเมะ Dr. Stone จะโดดเด่นด้านเนื้อหาแนววิทยาศาสตร์และการเอาตัวรอดในโลกหลังล่มสลาย แต่กลับเกิดกระแสถกเถียงในโซเชียลว่า อนิเมะเรื่องนี้ "เหมาะกับเด็กจริงหรือ?" หลังมีคุณแม่รายหนึ่งออกมาทวีตว่าเธอรู้สึกลังเลจะให้ลูกชายดูเพราะดีไซน์ตัวละครหญิงที่เน้นหน้าอกอย่างเกินจริง แถมยังมีฉาก "กินไอศกรีม" ที่ดูแล้วรู้สึกไม่สบายใจ

"ตอนแรกอยากให้ลูกดู Dr. Stone มากค่ะ แต่มาหยุดตรงหน้าอกตัวละครผู้หญิงที่มันเว่อร์ไป แถมฉากกินไอติมก็รู้สึกแปลก ๆ จนต้องหยุดดู"

ทวีตของคุณแม่คนนี้กลายเป็นจุดเริ่มของบทสนทนาในวงผู้ปกครองที่ดูอนิเมะกับลูก ๆ เพราะแม้ Dr. Stone จะสอดแทรกเนื้อหาวิทยาศาสตร์และการสร้างอารยธรรมขึ้นใหม่หลังโลกล่มสลายได้ดี แต่หลายคนก็อดตั้งคำถามกับ "แฟนเซอร์วิส” ที่แฝงอยู่ไม่ได้

Dr. Stone

คุณแม่อีกรายยกตัวอย่างเรื่อง Mieruko-chan ว่าเธอเคยเจอประสบการณ์คล้ายกัน

"เห็นว่าเป็นอนิเมะหลอน ๆ เลยจะดูกับลูกสาว ปรากฏว่าเจอหน้าอกเด้งใส่จอซะงั้น เป็นแม่ยังเขินแทนเลย แถมคนในบ้านไม่มีใครสะทกสะท้านอีกต่างหาก เขาคงชินกันแล้วสินะ”

Dr. Stone

มีอีกเสียงสะท้อนจากคุณแม่ที่ชมตัวเนื้อหา Dr. Stone ว่าสร้างแรงบันดาลใจได้จริง

"Dr. Stone เป็นอนิเมะที่ดีมากเลยนะ ไม่ได้เน้นเรื่องเพศเลย แต่เน้นการร่วมมือ ความเชื่อใจ และใช้ทักษะของแต่ละคนเพื่อพัฒนาโลกให้ดีขึ้น แต่ใช่ค่ะ...หน้าอกเด้งอยู่ตลอด [หัวเราะ]”

แม้จะหัวเราะปนเข้าใจ แต่ก็ยังรู้สึกขัดแย้งในใจอยู่ดี

"มันรู้สึกลำบากใจนะที่จะแนะนำเรื่องนี้กับเด็ก ๆ น่ะ เพราะถึงจะมีสาระความรู้ที่มีค่า แต่ก็คงไม่เอาไปโชว์ในโรงเรียน แต่อย่างน้อยก็ใช้บางช่วงอธิบายถึงเหตุผลตรรกะ "โลกยุคหิน" ว่าทำไมเขาถึงใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้น แล้วใช้เวลานั้นอธิบายถึงเรื่องภาพแทนหรือบทบาททางเพศได้ ถ้าเด็ก ๆ สนใจ"

Dr. Stone

สำหรับคนที่ไม่เคยดู Dr. Stone นั้นเป็นเรื่องราวของโลกหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ปริศนา ทำให้มนุษย์ทุกคนกลายเป็นหิน ก่อนที่เวลาผ่านไปหลายพันปีและมีมนุษย์บางส่วนคืนชีพอีกครั้ง แต่เนื่องจากวิทยาการต่าง ๆ สูญสิ้น มนุษยชาติจึงต้องเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่ 0 ทำให้ตัวละครจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้หญิง สวมใส่เสื้อผ้าสไตล์ "ดึกดำบรรพ์” ที่บางครั้งก็สั้นจนน่าเอะใจ

อย่างไรก็ตาม ประเด็นถกเถียงในหมู่พ่อแม่ก็มักจะวนกลับมาอยู่ที่คำถามเดิมว่า "ถ้าเด็กยังไม่เข้าใจเรื่องเพศ คนก็มักจะบอกว่า ‘ไม่เป็นไร’ แต่กับเรื่องอื่นกลับเร่งให้สอนตั้งแต่เด็ก ไม่มีใครติดใจกับเนื้อหาวิทยาศาสตร์หรือการเอาตัวรอดเลย แต่พอเป็นประเด็นเรื่องเพศปั๊บเมื่อไหร่ กลับมีคนรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันที"

เมื่อคำถามนี้ถูกนำไปแชร์ในโลกออนไลน์ ก็มีคอมเมนต์มากมาย ทั้งเห็นด้วยและมองอีกแง่มุม

”ยุคหินก็ต้องโชว์เนื้อหนังสิ”

”คุณแม่อยากให้ลูกได้อะไรจากอนิเมะล่ะ?”

”นางเอกก็มีหน้าอกใหญ่ ใส่เสื้อผ้ารัด มันก็ต้องแบบนั้นแหละ”

”One Piece คนก็ยอมรับได้นี่ ต่อให้มีแฟนเซอร์วิส”

”Fujiko Mine จากลูแปงก็เหมือนกัน แต่นางเป็นตัวละครขึ้นหิ้งไปแล้ว คนเลยไม่บ่นกัน"

”จริง ๆ ผู้ชายในเรื่องโชว์เนื้อหนังมากกว่าอีกนะ”

”ถ้าอยากให้ลูกดู ก็เปิดดูเลย เด็กคือเงาสะท้อนของพ่อแม่นี่นา”

Dr. Stone

แม้ว่า Dr. Stone จะไม่ใช่อนิเมะที่ตั้งใจให้มีความเป็น 18+ แต่ก็อาจไม่ได้รู้สึก "ปลอดภัย" สำหรับเด็กอย่างที่ผู้ปกครองบางคนคาดหวัง แม้จะแฝงสาระความรู้ทางวิทยาศาสตร์และแรงบันดาลใจด้านการฟื้นฟูโลกก็ตาม เพราะการออกแบบตัวละครและแฟนเซอร์วิสอาจทำให้ผู้ปกครองบางคนรู้สึกลำบากใจที่จะให้เด็ก ๆ ดูด้วย

สุดท้ายแล้ว แทนที่จะห้ามดูเด็ดขาด ผู้ปกครองอาจใช้โอกาสนี้นั่งดูไปพร้อมกับลูก ชวนพูดคุย อธิบาย และให้คำแนะนำอย่างเหมาะสม เพื่อเปลี่ยนความกังวลให้กลายเป็นบทเรียนร่วมกันได้

แปลและเรียบเรียงจาก
Crazy for Anime Trivia


ติดตามดูอนิเมะถูกลิขสิทธิ์ ได้ที่ Online Station แหล่งรวมอนิเมะที่คุณไม่ควรพลาด

แชร์เรื่องนี้:
Shirosaki-han
About the Author

Shirosaki-han

นักเขียนอิสระผู้ชื่นชอบเกมและอนิเมะ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ