เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมาทางคณะกรรมาธิการสหประชาชาติได้ผ่านมติเห็นชอบร่างสนธิสัญญาระหว่างประเทศเพื่อต่อต้านอาชญากรรมทางไซเบอร์ ซึ่งดูเผิน ๆ แล้วเหมือนจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับสื่อบันเทิง แต่จริง ๆ แล้วมีการต่อสู้เพื่อไม่ให้สนธิสัญญาดังกล่าวถูกใช้ควบคุมเนื้อหาเหล่านี้อยู่ ซึ่งนักการเมืองชาวญี่ปุ่น Taro Yamada ได้เผยในวันนี้ว่าได้รับชัยชนะในระดับหนึ่ง แต่การต่อสู้ยังไม่สิ้นสุด

ในร่างสนธิสัญญาดังกล่าว ส่วนที่เป็นประเด็นถกเถียงคือประโยคในมาตรา 14 วรรค 3 ซึ่งมีการจำกัดขอบเขตของสนธิสัญญาให้มีผลบังคับใช้ได้เฉพาะเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับคนจริงเท่านั้น ทำให้เนื้อหาที่เป็นเรื่องแต่ง (เช่นอนิเมะ มังงะ และเกม) ไม่ได้รับผลกระทบและไม่ถูกบังคับโดยสนธิสัญญานี้ ซึ่งในการโหวตนั้นมี 51 เสียง เห็นว่าควรยกเลิกข้อความดังกล่าว ขณะที่ 94 เสียง เห็นว่าไม่ควรยกเลิก ทำให้สื่อบันเทิงนั้นรอดไป
เดิมทีสนธิสัญญาดังกล่าวถูกเสนอโดยประเทศรัสเซียในช่วงปลายปี 2019 ซึ่งเกิดความกังวลว่าอาจจะถูกใช้บังคับเกินขอบเขตกับเนื้อหาเรื่องแต่งต่าง ๆ ทั้งภาพ ข้อความ และเสียง เป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก โดยเฉพาะประเทศจีนที่ดูเหมือนจะผลักดันให้เข้มงวดและมีการควบคุมเป็นพิเศษ โดยเพ่งเล็งอุตสาหกรรมมังงะ อนิเมะ และเกมของญี่ปุ่นเป็นหลัก
8月8日新サイバー犯罪条約の草案がアドホック委員会で決定。… pic.twitter.com/dNL9VBNANk
— 山田太郎 ⋈(参議院議員・全国比例) (@yamadataro43) August 16, 2024
ด้วยเหตุนี้ตั้งแต่ปี 2021 ทางกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นจึงเจรจาอย่างแข็งขันเพื่อไม่ให้ถูกลิดรอนเสรีภาพ จนกระทั่งวันที่ 6 สิงหาคม จึงมีการประชุมสมัชชาฯ สหประชาชาติครั้งสุดท้ายก่อนการลงคะแนนเสียง ทางตัวแทนญี่ปุ่นก็ได้มีการผลักดันให้แก้หลายมาตราในร่างสนธิสัญญาอาชญากรรมไซเบอร์
แต่ทั้งนี้คุณ Taro ขอเตือนว่าการต่อสู้นี้ยังไม่จบ เพราะมีความเสี่ยงว่าหากญี่ปุ่นให้สัตยาบันต่อสนธิสัญญานี้ แล้วนำมาใช้เป็นกฏหมายในประเทศ ขั้วอำนาจที่หวังจะเซ็นเซอร์สื่อต่าง ๆ อาจจะฉวยโอกาสดังกล่าาวได้ จึงต้องต่อสู้กันต่อไป
แปลและเรียบเรียงจาก
Crazy for Anime Trivia
ติดตามดูอนิเมะถูกลิขสิทธิ์ ได้ที่นี่ Online Station