ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2010 ทางรัฐบาลญี่ปุ่นได้พัฒนานโยบาย "Cool Japan" เพื่อที่จะผลักดันส่งเสริมวัฒนธรรมให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และกระตุ้นให้เศรษฐกิจเติบโตขึ้น ทว่าผ่านมา 14 ปีดูเหมือนนโยบายนี้ดูเหมือนจะไม่ได้ผลมากนัก และถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลา
ทว่าวันนี้ดูเหมือนว่านโยบาย Cool Japan จะถูกหยิบมาปัดฝุ่นและถกกันใหม่เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีโดยสำนักงานยุทธศาสตร์ทรัพย์สินทางปัญญาของญี่ปุ่น ซึ่งคราวนี้นอกจากจะครอบคลุมอาหาร เทคโนโลยี และแฟชั่นแล้ว ร่างนโยบายใหม่นี้จะให้ความสำคัญกับเกมและอนิเมะในฐานะ "อุตสาหกรรมที่เป็นหัวใจหลัก" ของญี่ปุ่นเพิ่มเข้ามาอีกด้วย
เนื่องจากในปัจจุบันปัญหาโรคโควิด-19 นั้นลดน้อยสวนทางกับการท่องเที่ยวที่คึกคักขึ้นเรื่อย ๆ จึงถือเป็นโอกาสอันดีที่รัฐบาลญี่ปุ่นจะทบทวนแก้นโยบาย Cool Japan กันใหม่ เพราะในปี 2022 อุตสาหกรรมเนื้อหาบันเทิง (มังงะ อนิเมะ และเกม) นั้นมีมูลค่าถึง 4.7 ล้านล้านเยน ใกล้เคียงกับอุตสาหกรรมเหล็กกล้าที่มีมูลค่า 5.1 ล้านล้านเยนในปีเดียวกัน รัฐบาลญี่ปุ่นจึงมองว่าสมควรแก่การส่งเสริมผู้พัฒนาเกมและธุรกิจอนิเมชั่นในประเทศให้มากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตามแม้นโยบายดังกล่าวนั้นจะฟังดูดี แต่บางคนก็ยังรู้สึกข้องใจกับนโยบายการโปรโมทเกมและอนิเมะในต่างประเทศอยู่ โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงสภาพแวดล้อมการประกอบอาชีพของผู้ที่ทำงานในอุตสาหกรรมนี้
บางคนเช่น @mazy_3 มองว่าควรจะต้องแก้ปัญหาเรื่องค่าแรงที่ต้ำเตี้ยเรี่ยดิน และปัญหาการทำงานหนักเกินเหตุในสตูดิโออนิเมะเนื่องจากขาดแคลนแรงงาน ก่อนที่อนิเมเตอร์จะพากันล้มตายจากกันทำงานหนักไปเสียก่อน เพราะเป็นที่รู้กันว่าสตูดิโออนิเมชั่นบางแห่งเช่น MAPPA นั้นใช้แรงงานพนักงงานหนักมากจนเป็นที่โจษจันกันไปทั่ว
基幹産業にするって、その前に低賃金+人手不足の超過労働を何とかしないと、アニメーターさんが過労で死んじゃう！
— まじさん (@mazy_3) May 25, 2024
「クールジャパン」を基幹産業に…政府戦略原案、アニメ・ゲームの海外展開支援 : 読売新聞 https://t.co/wj5wa4A3dM
ก็ต้องรอดูร่างนโยบาย Cool Japan ฉบับใหม่ที่จะปรับปรุงในเดือนมิถุนายนนี้จะออกมาอย่างไร ก็ได้แต่หวังว่าจะส่งเสริมและช่วยแก้ไขปัญหาที่อยู่ภายในอุตสาหกรรมเกมและอนิเมชั่นอย่างจริงจัง
แปลและเรียบเรียงจาก
Automaton Media
ติดตามดูอนิเมะถูกลิขสิทธิ์ ได้ที่นี่ Online Station