รีวิวนิยาย 86 – Eighty Six – ไลต์โนเวลของดีระดับรางวัล ที่ผู้อ่านห้ามพลาด!

ช่วงขวบปีที่ผ่านมา หลายๆ คนอาจเคยได้ยินชื่ออนิเมะแปลกๆ สั้นๆ ดูจับใจความไม่ออกอยู่บ้าง แต่เรื่องชื่อสุดห้วนก็คงไม่ได้เป็นประเด็นอะไรนัก เพราะจะอย่างไรเสียนี่ก็คืออนิเมะคุณภาพมากๆ เรื่องหนึ่ง ซึ่งทำให้ผู้ชม สนุกสนาน ลุ้นระทึก และร้องไห้มานักต่อนัก

เรื่องที่ว่านั่นก็คือ 86 หรือ Eighty Six อนิเมะสงครามและการเมืองในโลกสมมติ เล่าถึงเรื่องของกลุ่มพลขับเดนตายเด็กวัยรุ่นชายขอบซึ่งต้องสู้ถวายชีวิตเพื่อปกป้องประชากรและประเทศที่คอยขับไสไล่ส่งพวกเขา โดยพวกเขาจะต้องขึ้นขับหุ่นรบทรงแมงมุมติดอาวุธออกรบกับจักรกลที่มีจำนวนล้นโลก และคอยรับคำสั่งจากผู้บัญชาการยศสูงที่นั่งกินนอนกินอยู่ในเมืองชนิดที่แทบไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันด้วยซ้ำไป

ความน่าสนใจนอกจากการต้องลุ้นว่าจะมีใครรอดในซีนสงครามได้ไหม ก็คือการติดตามความสัมพันธ์ระหว่าง “ชิน” พระเอกของเรื่อง หัวหน้าหน่วยรบสเปียร์เฮดที่ต้องคอยรับคำสั่งจากผู้บัญชาการสาวไฟแรงแต่อ่อนต่อโลกอย่าง “เลน่า” ซึ่งเราจะค่อยๆ เห็นการพูดคุยและเติบโตไปพร้อมกันของทั้งคู่ผ่านการสนทนาทางไกลเท่านั้น ชนิดที่แม้ไม่เคยเห็นหน้ากันแต่ก็ยังอดจิ้นไม่ได้

แน่นอนว่าตัวเรื่องดังขนาดนี้ส่วนหนึ่งก็เพราะ 23 ตอนของอนิเมะนั้นถูกดัดแปลงมาจากต้นฉบับมาได้ดีมากๆ แต่อย่างไรเสียอนิเมะก็ยังไม่ถือว่าเป็นต้นฉบับ หลายๆ คนก็คงจะรู้กันมาก่อนแล้วว่าแรกเริ่มเดิมทีนั้น 86 เป็นไลต์โนเวลระดับรางวัลมาก่อน และแน่นอนว่าถ้าพูดถึงเรื่องของ Canon หรือความสมบูรณ์ เวอร์ชั่นนิยายย่อมมีให้คุณอย่างครบถ้วน ดังนั้นแล้วหากใครเกิดดูอนิเมะแล้วประทับใจมากๆ และไม่เกี่ยงการอ่านตัวหนังสือเยอะๆ หรืออดใจติดตามเนื้อเรื่องบทถัดจากอนิเมะไม่ไหวแล้ว วันนี้ผมจะมารีวิวกึ่งแนะนำไลต์โนเวล 86 – Eighty Six – กันครับ

***บทความนี้ไม่มีสปอยล์

จริงจังระดับรางวัล

ไลต์โนเวล 86 – Eighty Six – มีผู้ร่วมสร้างสรรค์ผลงาน 3 คนด้วยกันคือ อ. อาซาโตะ อาซาโตะ ผู้เขียน, อ. ชิราบิ, ภาพประกอบ และ I-IV เป็นผู้ออกแบบจักรกล เคยได้รับรางวัลชนะเลิศในเวทีของเด็งเกคิโนเวลไพรซ์ครั้งที่ 23 ซึ่งจัดเป็นหนึ่งในรางวัลที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ดังนั้นการันตีได้ตั้งแต่ยังไม่แกะซีลพลาสติกเล่มออกเลยว่าของดีแน่นอน

นอกจากนี้การที่หน้าปกยังให้เครดิตคนออกแบบจักรกลไว้ด้วย ดังนั้นแล้วทุกเอเลเมนต์จึงมีความจริงจัง เข้มข้น สามารถอ้างอิงหลักการต่างๆ ได้อย่างดี ไม่ใช่แค่สักแต่ว่าอยากให้มีเลยจับมาใส่ 86 – Eighty Six – จึงเป็นไลต์โนเวลที่มีความซีเรียสไม่น้อย และเรียกร้องสมาธิการอ่านจากผู้อ่านระดับหนึ่ง เพราะตัวเรื่องมีศัพท์แสงทั้งที่เฉพาะทางและคิดขึ้นเองอยู่จำนวนมาก ช่วงแรกผู้อ่านอาจต้องทำความเข้าใจและเรียบเรียงข้อมูลกันสักหน่อย กระนั้นก็ไม่ได้ยากเย็นเกินความสามารถอะไร ถ้าต่อติดก็ฉิวยาวๆ

มากกว่าอนิเมะคือนิยาย

คำถามที่ว่าดูอนิเมะมาแล้วยังควรอ่านนิยายอยู่ไหมก็เป็นอะไรที่เลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะกับเรื่องนี้ซึ่งอนิเมะก็ดันทำออกมาได้ดีมากๆ และผู้ชมก็อิ่มเอมไปกับมันจนรู้สึกว่าไม่ต้องการอะไรเพิ่มแล้ว แน่นอนว่าอันนี้ก็แล้วแต่คนเลย ทว่าสำหรับคนที่ชอบความเป็น 86 จริงๆ หรือคนที่อยากเก็บเนื้อเรื่อง Canon ให้ครบ ยังไงผมก็คงต้องแนะนำให้มาอ่านนิยายครับ

เพราะจะอย่างไรเสียทั้งไดอาล็อกคำพูด หรือซีนต่างๆ ก็ย่อมมากกว่าอนิเมะที่ต้องดัดแปลงเพื่อฉายในเวลาจำกัดอยู่แล้ว ซีนสำคัญๆ บางซีนจึงถูกตัดออก ข้อมูลจิปาถะหลายๆ จุดไม่มีใส่เข้ามา หรือบทสนทนารายทางยิบๆ ย่อยๆ ที่อาจทำให้เราเข้าใจตัวละครบางตัวมากขึ้นก็จะมีเพียงแค่ในนิยายเท่านั้น นอกจากนี้หากคุณอดรนทนรออนิเมะซีซั่น 2 ไม่ได้ คุณก็ไม่มีทางเลือกนอกจากหาสอยเล่ม 4 ซึ่งเป็นบทถัดจากอนิเมะจบพอดีไปอ่านกันครับ

หนึ่งในไลต์โนเวลที่ครบเครื่องครบรสที่สุดในตลาด

ชอบวันสต็อปเซอร์วิสไหมครับ? ถ้าใช่ก็เรียนเชิญ เพราะ 86 – Eighty Six – ให้คุณได้ทั้งหมดเลย ตัวเรื่องมีการสำดับและเทคนิคการเล่าที่น่าสนใจ ทั้งในแง่ของมหภาคและจุลภาค และความเจ๋งของมันคือเอาอยู่ได้อย่างสวยงาม คุมสเกลของตัวเองได้เป็นอย่างดี ภาพใหญ่เห็นชัด ภาพเล็กยิ่งดิ่งลึก เซ็ตติ้งโลกในสภาวะสงครามที่มนุษย์ต่างชาติพันธุ์ยังต้องห้ำหั่นกันในด้านแนวคิด ต้องต่อสู้หรือจำยอมกับการกดขี่เพื่อแลกมาซึ่งบางอย่าง ขณะที่ปลายกระบอกปืนก็ยังต้องหันหาศัตรูที่ไม่รู้ว่าจะมีวันที่เอาชนะได้ไหม

ในแง่ของการเล่าเรื่องสิ่งที่ผมชอบและรู้สึกได้ว่ายูนีคมากๆ หาได้ยากยิ่งจากนิยายเรื่องอื่นๆ คือการดึงเช็งการได้พบเจอหน้ากันครั้งแรกของคู่พระนางอย่างมีชั้นเชิง เพราะว่าฝั่งหนึ่งคือคนที่บัญชาการกองรบจากในเมือง ขณะที่อีกคนคอยรับคำสั่งออกบวกศัตรูอยู่หน้างาน ผู้อ่านก็รอลุ้นไปสิว่าจะได้เจอกันตอนไหน ทว่าผู้เขียนก็จงใจดึงสุดฤทธิ์ไม่ให้เจอกันง่ายๆ กลายเป็นทั้งคู่ต้องผ่านทั้งเรื่องราวสุขสมและเลวร้ายมากมาย กลายเป็นการสะสมพลังอันยาวนาน ส่งให้ฉากการพบเจอกันครั้งแรกของชินและเลน่า เป็นอะไรที่มากกว่าแค่ Boy Meet Girl ทั่วๆ ไป และมันทรงพลังมากจริงๆ

นอกจากเรื่องความสัมพันธ์ของตัวบุคคล 86 – Eighty Six – ยังเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับชั้นเชิงทางการเมือง นัยยะทางสังคม การกระทำที่สะท้อนด้านมืดของจิตใจ สงครามที่เข้มข้น ดุดัน เจ็บจริงตายจริงไม่ค่อยมีอ้อมแอ้ม การประนามหยามเหยียดที่กรีดลึกหัวใจยิ่งกว่า ซึ่งเราสามารถเห็นตัวอย่างการกระทำนี้ได้ชัดแจ้งจากสาธารณรัฐซันแมกโนเลียประเทศของเลน่า ที่แม้จะมีสัญญะของประเทศที่สื่อถึงความเสมอภาคเป็นสำคัญ แต่การเหยียดผู้คนที่สีผิวและสีผมไม่ใช่สีแบบเดียวกันกับพวกตนก็ยังเกิดขึ้นทุกวี่วันเป็นอาจิณ

ความน่ากลัวคือเมื่อมันเป็นแบบนั้นจากสิ่งที่คล้ายจะผิดแผกก็กลายเป็นฉันทามติของมหาชนไปสิ้น ไม่มีที่ยืนในสังคมปกติให้ผู้แตกต่าง หากอยากจะอยู่อาศัยในแผ่นดินนี้ก็ต้องยอมถูกโขกสับกลายเป็นก้อนเนื้อที่สิ้นไร้สิทธิเสรีภาพต้องออกไปตายในสงครามแทนเหล่าทหารชาวซันแมกโนเลียที่อาจจะเมาแอ๋อยู่ที่ไหนสักแห่งในศูนย์บัญชาการ

นั่นคือที่มาของชื่อเรื่อง 86 หรือก็คือเขตรัฐที่ 86 ของสาธารณรัฐซันแมกโนเลียที่มีขึ้นเพื่อเป็นกระโถนรองรับผู้แตกต่างซึ่งพร้อมจะถูกเททิ้งและรองรับคนใหม่ๆ ที่หลั่งไหลมาอยู่เสมอนั่นเอง

อย่างไรก็ตามแม้ในความดาร์คระทมจนน่าตกใจ ตัวนิยายก็ยังเล่าความ(ทำเป็น)สดใสของความสัมพันธ์ชีวิตวัยรุ่นระหว่างผู้บัญชาการสาวไฟแรงไร้เดียงสากับพ่อหนุ่มขรึมหน้านิ่งและแก๊งค์วัยรุ่นสเปียร์เฮดได้อย่างกลมกล่อม น่าลุ้น อบอุ่น สนุกสนาน เฮฮา และบ้อบอ เพื่อที่ตอนท้ายมวลอารมณ์เหล่านี้ก็จะถูกทอจนกลายเป็นดราม่าซีนชั้นดีที่จะใช้บีบหัวใจผู้อ่านจนสั่นสะท้าน และอดไม่ได้ที่จะต้องขอพลิกอ่านต่อไปเรื่อยๆ

งานรูปเล่มคุณภาพน่าสะสมจาก Phoenix

มาถึงตรงนี้คงต้องขอเชียร์อย่างซึ่งๆ หน้าว่าให้ไปซื้อมาหาอ่านกันแม้ว่าคุณจะเคยดูหรือไม่เคยดูอนิเมะมาก่อนก็ตาม เพราะนอกจากมันจะเป็นตัวงานชั้นยอดแล้ว รูปเล่มภาษาไทยก็ยังคุณภาพงานดีมากๆ ไม่ว่าจะกระดาษที่ใช้ หรือหน้าสีที่จุใจ จับมาอ่านแล้วละมุนมือดีมีความพรีเมี่ยมมากๆ

หากสนใจ 86 – Eighty Six – วางจำหน่ายแล้ววันนี้ 8 เล่มที่เว็บไซต์ phoenixnext.com และร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป หาอ่านกันให้ได้ล่ะ!