เมื่อวันที่ 3 ที่ผ่านมา ทาง Kadokawa ได้มีการเข้าร่วมงานเทศการภาพยนตร์นานาชาติโตเกียวครั้งที่ 34 (TIFFCOM) วึ่งในอีเวนต์ครั้งนี้ คุณ Kukuchi Takeshi ผู้บริหารและคุณ Kiyohara Seiji ผู้จัดการทั่วไปของฝ่ายอนิเมชั่นของ Kadokawa ก็ได้เข้าร่วมเสวนาถึงแผนธุรกิจของอนิเมะในต่างประเทศที่เน้นกรณีของแนว Isekai หรือแนวต่างโลกด้วย
อย่างที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันนี้ทาง Kadokawa มีความเกี่ยวข้องกับสื่อ Pop Culture หลักทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นนิยาย มังงะ อนิเมะ และเกม ถ้าหากว่าทางบริษัทถือ IP ของเรื่องใดเรื่องหนึ่งไว้แล้ว ก็จะสามารถโปรโมต IP เรื่องนั้นเป็นหลายสื่อพร้อมกันได้ เป็น กลยุทธ์การตลาดที่เรารู้จักกันในชื่อ "มีเดียมิกซ์" ซึ่งคุณ Kikuchi ก็ได้ชี้แจงว่าการทำโปรโมตแบบมีเดียมิกซ์นั้นค่อนข้างได้ผลตอบรับที่ดีในประเทศญี่ปุ่น แต่กับต่างประเทศแล้ว การทำการตลาดแบบมีเดียมิกซ์กลับไม่ได้ผลเลย
ทาง Kadokawa ได้มีการพูดถึงแนว "Isekai" หรือแนวต่างโลก ว่าในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แนว Isekai มีการเติบโตที่ดีมาก โดยส่วนใหญ่แนวนี้จะมีต้นฉบับเป็นนิยายบนเว็บไซต์ ก่อนจะได้รับความนิยมจนมีการตีพิมพ์เป็นรูปเล่มและทำเป็นอนิเมะ รวมถึงสื่ออื่น ๆ อีกมากมาย โดยเรื่องยอดฮิตที่ Kadokawa ยกมาว่าเป็นผลงานแนว ต่างโลกยุคบุกเบิกรุ่นใหม่ได้แก่
- Re:Zero
- Overlord
- Konosuba
- The Saga of Tanya the Evil
- The Rising of the Shield Hero
ซึ่งแนว Isekai ค่อนข้างได้รับความนิยมในรูปแบบสื่ออนิเมะจากต่างประเทศเป็นอย่างมาก แต่ทาง Kadokawa ก็อยากจะทำให้สื่อประเภทหนังสือหรืออื่น ๆ ได้รับความนิยมตามด้วย ทำให้การเลือกพันธมิตรทางธุรกิจในต่างประเทศถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก
และการเลือกจับมือกับทาง Crunchyroll เพื่อทำสื่อของ I'm a Spider, So What? ก็นับว่าเป็นการประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะซีรีส์นี้มียอดชมรวมกว่า 340 ล้านวิวในเอเชียและติด Top10 อนิเมะตลอดกาลของแอปพลิเคชั่น bilibili ของจีน
สำหรับสิ่งที่ทำให้ I'm a Spider, So What? ประสบความสำเร็จในต่างประเทศ เป็นเพราะว่าทาง Kadokawa มีการตอบรับข้อเสนอของพันธมิตรทางธุรกิจที่อยากให้อนิเมะเรื่องนี้มีการฉายพร้อมกับญี่ปุ่นและมีการใช้ IP ต่าง ๆ ของเรื่องนี้โปรโมตได้อย่างเต็มที่ แน่นอนว่ามันก็ได้ผลดีเกินคาดจนทำให้อนิเมะเรื่องต่อมาอย่าง Combatans Will Be Dispatched! ที่มีการตลาดแบบเดียวกันประสบความสำเร็จเหมือนกันด้วย
และนี่ก็อาจจะเป็นการตัดสินใจที่ทำให้ Kadokawa ตัดสินใจร่วมทุนกับทาง Tencent Group จากจีนเพื่อโปรโมตบรรดา IP แนว Isekai ของตัวเองเพื่อทำการตลาดในต่างประเทศ และ ในอนาคตเองทาง Kadokawa ก็จะยังดันสื่อแนว Isekai มากขึ้นกว่าเดิม เพราะคุณ Kiyohara ก็ได้มีการกล่าวในงานเหมือนกับที่เคยประกาศออกมาก่อนหน้านี้ ว่าภายในปี 2022 ทาง Kadokawa จะมีการปล่อยอนิเมะในเครือออกมามากถึง 40 เรื่องเลยทีเดียว
"คำว่า 'ต่างประเทศต้องมาก่อน' มันไม่ใช่แค่สโลแกนเฉย ๆ แต่มันเป็นสิ่งที่เรากำลังทำกันอย่างจริงจังครับ"
"เป็นมูฟเมนต์ที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับ Kadokawa จริงๆ!"
ที่มา: ANN
TrunksTH