สาวก Evangelion วิเคราะห์ภาพโปสเตอร์ Evangelion 3.0+1.0 จนพบความลับบางอย่าง

เป็นที่ทราบกันดีว่าภาพยนตร์อนิเมะ Evangelion: 3.0+1.0 Thrice Upon a Time มีกำหนดที่จะเข้าฉายในประเทศญี่ปุ่นภายในปี 2020 แต่เนื่องจากผลกระทบของไวรัส COVID-19 ทำให้ยังไม่อาจทราบได้ว่าจะเริ่มฉายเมื่อไหร่ ซึ่งในช่วงเวลานี้ก็ได้มีการเผยภาพโปสเตอร์ภาพใหม่ออกมา และภาพนี้ก็ได้ถูกแฟนๆนำไปวิเคราะห์จนพบว่ามันคือสถานีรถไฟ Ubeshinkawa Station และนำไปสู่ทฤษฎีใหม่ที่กลายเป็นเรื่องฮือฮากันมาก

โดยจากในภาพโปสเตอร์นั้นเราจะได้เห็น Shinji ยืนอยู่กลางรางรถไฟ และมีคำภาษาญี่ปุ่นเขียนว่า “ลาก่อน Evangelion ทั้งหมด” ซึ่งตัวภาพฉากของรางรถไฟหลายคนเชื่อว่าเป็นภาพที่คุณ Anno Hideaki ถ่ายมาด้วยตัวเอง แล้วนำภาพมาตกแต่งใหม่จนเป็นภาพโปสเตอร์ภาพนี้ และมันก็เป็นภาพที่ดูสวยงามจริงๆ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่แค่ภาพธรรมดา เพราะแฟนๆเชื่อว่าภาพนี้ได้แอบแฝงเรื่องราวของ Evangelion ทั้งซีรีส์ที่รวมภาคเก่าและภาคใหม่เอาไว้ด้วยกัน และแฟนๆก็ได้ร่วมกันวิเคราะห์ตัวภาพออกมาได้ดังนี้

รางรถไฟแสดงถึงเส้นทางแยกของแต่ละภาค

ในภาพโปสเตอร์จะมีรางรถไฟเส้นหลัก และในจุดที่ไกลจากสายตามากที่สุดจะมีเส้นทางแยก 1 เส้น และตรงด้านหน้าอีก 1 เส้น ซึ่ง Shinji จะยืนอยู่ตรงกลาง และกำลังหันหน้ามาทางสถานีรถไฟ Ubeshinkawa Station และถ้าหาก Shinji มุ่งหน้ามาก็จะพบกับทางแยกเส้นแรกที่เปรียบเป็นอนิเมะทีวี Neon Genesis Evangelion และถ้าเขาเลี้ยวไปก็จะเข้าสู่ภาคนั้น

ถ้าเข้าไม่เลี้ยวไปไหนก็จะมาถึง Evangelion: 3.0+1.0

ถ้าเขาเลือกที่จะตรงมาก็จะพบทางแยกที่ 2 ที่เป็นอนิเมะหนังโรงภาคเก่า ( Neon Genesis Evangelion: Death & Rebirth กับ The End of Evangelion ) และถ้าเขาตัดสินในตรงมาเรื่อยๆก็จะมาถึงสถานีรถไฟ Ubeshinkawa Station ซึ่งสถานีรถไฟแห่งนี้น่าจะมีความหมายเปรียบถึง Evangelion: 3.0+1.0

จุดเริ่มต้น Shinji
↓
ทางแยก → อนิเมะทีวี Neon Genesis Evangelion
↓
ทางแยก → ภาพยนตร์อนิเมะภาคเก่า
↓
Evangelion: 3.0+1.0 (สถานีรถไฟ Ubeshinkawa Station)

Evangelion ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับเวลาและวนลูป แต่เป็นการเดินทางบนเส้นรางรถไฟ

Evangelion เป็นซีรีส์ที่ถูกตั้งทฤษฎีเอาไว้ว่ามีความเกี่ยวข้องกับการเดินทางย้อนเวลา หรืออาจจะวนลูป ซึ่งในเรื่องก็มีหลายช่วงที่ทำให้คิดว่าน่าจะเป็นแบบนั้นจริงๆ แต่ก็ดูเหมือนว่ามันอาจจะไม่ได้เกี่ยวกับเวลาไปซะทีเดียวและเมื่อมาดูภาพโปสเตอร์ภาพนี้ก็ทำให้เกิดทฤษฎี “การเดินทางบนเส้นรางรถไฟ” ขึ้น

ถ้าหากว่าย้อนกลับไปตามรางก็จะเริ่มเรื่องใหม่

สมมติว่า Shinji เลือกที่จะเลี้ยวไปยัง Neon Genesis Evangelion หรือภาคหนังโรงภาคเก่า เพียงแค่เขาถอยหลังกลับตามราง แล้วเริ่มเดินหน้ามาใหม่ก็จะได้เรื่องใหม่ออกมา และถ้าเขาตรงมาเรื่อยๆ ก็จะมาถึง Evangelion: 3.0+1.0

ตัวละครจากภาคเก่ามาโผล่ในภาคใหม่

เมื่อได้ทฤษฎีดังนี้ก็ทำให้พบว่าตัวเส้นรางนั้นน่าจะมีความหมายแฝงอยู่อีกอย่าง นั่นก็คือเมื่อ Shinji เลี้ยวไปยังเส้นทางเส้นอื่น ซึ่งก็คือ Neon Genesis Evangelion เขาสามารถนำผู้คนที่ปรากฏตัวในภาคนั้นๆมาอยู่บนขบวนรถไฟ แล้วพาพวกเขาไปยังจุดเริ่มต้นด้วยได้ ซึ่ง Takao Kouji ที่เป็นตัวละครจากภาคหนังโรงภาคเก่าได้มาปรากฏตัวใน Evangelion: 3.0 ก็ถือว่าเป็นหลักฐานอย่างดี

Kaworu มีหน้าที่เป็นเหมือนพนักงานขับรถไฟ

ในเบื้องต้นเราไม่รู้ว่า Shinji จะสามารถนำความทรงจำกลับไปยังจุดเริ่มต้นได้หรือเปล่า และดูเหมือนว่าเขาไม่สามารถที่จะเลือกกลับไปเองได้ด้วย แต่เมื่อมาลองดูเนื้อหาที่ผ่านมาก็ทำให้พบว่า Kaworu นี่แหละที่น่าจะสามารถเลือกให้ Shinji เลี้ยวไปทางอื่น หรือพากลับไปได้ และนั่นก็ทำให้เราเข้าใจคำพูดของเขาที่พูดว่า “ไว้เจอกันใหม่”, “เรายังแก้ไขได้”

ตำแหน่งหน้าที่ของแต่ละอย่าง

Shinji: ผู้โดยสาร
Kaworu: ผู้ขับเคลื่อนรถไฟ
ทางแยก: ไปยังภาคอื่น
รางเส้นหลัก: ไป Rebuild of Evangelion

แต่จริงๆแล้วเราไม่ต้องมานั่งคิดให้ปวดหัวหรอก Evangelion เป็นซีรีส์ที่มีปริศนาเยอะมาก และเมื่อนำมาคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ อีกทั้งถึงจะเอามาดูกี่รอบก็งงอยู่ดี แต่ถึงจะดูแล้วไม่เข้าใจมันก็ยังเป็นเรื่องที่สนุก ดังนั้นก็ไม่ต้องเอามาขบคิดอะไรดูไปเพลินๆก็พอ

และชาวญี่ปุ่นที่ได้อ่านการวิเคราะห์นี้ก็ร่วมให้ความเห็นกันว่า

なるほど、こういう設定にすれば何度でも作れるな
งี้นี่เอง ถ้ามันมาแนวนี้ก็จะทำให้สร้างใหม่อีกกี่รอบก็ได้สินะ

庵野秀明「そうだったのか！」
Anno Hideaki “มันเป็นแบบนี้เองเหรอเนี่ย!”

宇部シン川駅…そうか監督の出身地宇部市だったな
Ubeshinkawa Station... อ้อผู้กำกับเค้าเป็นคน Ubeshinkawa ใช่ป่ะ

こういった予測の要素が多いからこのアニメは最高
เพราะมีให้มานั่งคิดเยอะนี่แหละถึงชอบเรื่องนี้

コミック版が最終駅でいいよ。
เอามังงะเป็นสถานีสุดท้ายแล้วกัน