และจากเหตุการณ์นี้ก็ทำให้คุณ Nakayama Kohtaro ที่เป็นผู้ดูแลโปรเจคของ G Gundam ออกมาลงข้อความบนทวิตเตอร์ของตัวเองว่า
“เมื่อก่อนตอนที่ฉาย G Gundam เราถูกด่ากันหนักมาก ว่านี่พวกแกเอากันดั้มที่ชั้นรักมาทำแบบนี้ได้ยังไง”
และคุณ Nakayama ยังได้เสริมอีกว่า“ถ้าในยุคนั้นมีเน็ตละก็ G Gundam ได้กลายเป็นดราม่าไปแล้วแน่นอน แต่พอกาลเวลาผ่านไป ไม่นึกไม่ฝันเลยว่ามันจะกลายเป็นอนิเมะที่มีผู้ชมรักกันมากขนาดนี้”
https://twitter.com/nakayamakohtaro/status/1219807695168917504 และคุณ Nakayama ยังได้ตอบความเห็นของผู้ที่เข้ามาพูดคุยบนทวิตเตอร์เกี่ยวกับ G Gundam ด้วย昔、企画担当をした『機動舞闘伝Gガンダム』がMXテレビでの放送の最終回を迎えトレンド入りしたそうで。「俺の好きなガンダムこんなにしやがって」と非難の嵐にさらされた作品がも時を経て、こんなに愛される作品になるとは当時の私には想像もつきませんでした。
— 中山浩太郎 (@nakayamakohtaro) January 22, 2020
คอมเมนท์ของผู้ที่มาแสดงความเห็น
G Gundam เป็นภาคที่ทำลายข้อจำกัดของกันดั้มออกไป ถ้าหากไม่มี G Gundam ในวันนั้น ก็คงไม่มีภาค Build ในวันนี้ และถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้จักรวาลของ G Gundam มีภาคต่อด้วยคอมเมนท์ตอบกลับของคุณ Nakayama
ได้เห็นผู้ชมแสดงมาความยินดีแบบนี้ ทีมงานที่เหนื่อยกันในตอนนั้นก็ไม่เสียแรงเปล่าจริงๆครับhttps://twitter.com/nakayamakohtaro/status/1219842251796312064そういっていただけると、当時、スタッフが苦労した甲斐があります。
— 中山浩太郎 (@nakayamakohtaro) January 22, 2020
คอมเมนท์ของผู้ที่มาแสดงความเห็น
ในตอนนั้นกันดั้มมันกลายเป็นสังคมของคนเฉพาะกลุ่ม พอ G Gundam ได้ฉายมานี่ผมรู้สึกสนุกไปกับมันมาก แล้วสาวกกันดั้มในตอนนั้นที่พูดกันว่า “ถ้าไม่ใช่กันดั้มยุคแรกจะไม่นับมันเป็นกันดั้ม” ก็กลับมาพูดว่า “นอกจากภาคแรกแล้วก็มีภาคนี้แหละที่สนุก”คอมเมนท์ตอบกลับของคุณ Nakayama
ถ้าในยุคนั้นมีเน็ตนี่กลายเป็นดราม่าแน่นอนครับhttps://twitter.com/nakayamakohtaro/status/1219848284392419328当時、ネットがあったら、大炎上だったと思います。楽しんでいただけて何よりです。
— 中山浩太郎 (@nakayamakohtaro) January 22, 2020
คอมเมนท์ของผู้ที่มาแสดงความเห็น
ตอนที่ออกตัวอย่างหลังฉาย V Gundam จบนี่ผมโกรธมาก แต่พอได้ดูจริงๆความคิดเปลี่ยนเลย และยังทำให้รู้ว่า ถึงจะทำกันดั้มให้สุดโต่งแค่ไหนมันก็ยังคือกันดั้มอยู่ดีคอมเมนท์ตอบกลับของคุณ Nakayama
V Gundam มันมาในแนวซีเรียสมาก ก็เลยเกิดความรู้สึกว่ามันต่างกันเกินไปละมังครับhttps://twitter.com/nakayamakohtaro/status/1219988452550135810Vガンダムがシリアスなお話しでしたから、落差は激しかったと思います。
— 中山浩太郎 (@nakayamakohtaro) January 22, 2020
นอกจากนี้คุณ Nakamura Yutaka ที่เป็นอนิเมเตอร์และยังเป็นผู้ที่ทำท่าไม้ตายของ G Gundam ตอนที่ 1 กับตอนที่ 49 ก็ได้มาเผยเบื้องหลังตอนที่สร้างอนิเมะตอนสุดท้ายด้วยว่า
“ช่วงที่ประชุมกันเกี่ยวกับตอนสุดท้าย ที่มุมหนึ่งของสตอรี่บอร์ดมีเขียนเล็กๆว่า 'King จะออก' ตอนแรกผมก็คิดว่าใครมันมาวาดอะไรเล่นตรงนี้ แล้วเค้า(ทีมงาน) ก็บอกผมมาว่า 'King จะได้ออกนะ' ทำเอามองหน้าเค้าไป 3 ที”
https://twitter.com/sekise10/status/1219703852057841664Gガンダムの最終回の話が出てるのでー
打ち合わせのときに、コンテのほんと片隅になんか小さく描いてあって(確か) (王様出る)ってこれ誰かのイタズラ描きかと思ってしまって、 「王様が出ます」って言った 演出さんを三度見くらいしてしまいました(๑•́ω•̀) pic.twitter.com/wr4hTsefF3 — 中村 豊 (@sekise10) January 21, 2020
ฉากที่ King of Hearts ได้ออก
https://twitter.com/Albert11235/status/1219618110950367234これぞGガンダムの最終回に相応しい最高の技、石破ラブラブ天驚拳!
改めて見るととんでもなく恥ずかしい技だけど、その恥ずかしさよりも熱さが100倍くらい勝るから何も問題ないぜ!!#Gガンダム pic.twitter.com/97LDufw9oI — DAI (@Albert11235) January 21, 2020
อนึ่ง Mobile Fighter G Gundam เป็นอนิเมะกันดั้มที่มีเนื้อหาแตกต่างจากกันดั้มภาคก่อนๆโดยสิ้นเชิง และด้วยเหตุนี้ก็ทำให้เกิดกระแสต่อต้านจนในช่วงที่ฉาย 3 เดือนแรก สินค้าต่างๆถึงกับขายไม่ออก แต่หลังจากที่เกิดมิตรภาพขึ้นระหว่างพวกไฟท์เตอร์ และ Domon ที่ไปฝึกจนสามารถเอาชนะ Gundam Fight ได้ ก็ทำให้กลุ่มผู้ชมที่เป็นเด็กชอบภาคนี้กันมาก เพราะมีเนื้อหาเข้าใจง่าย และเนื้อเรื่องที่เริ่มเข้มข้นหลังจากนั้นก็ทำให้สามารถเอาชนะใจแฟนๆของกันดั้มรุ่นแรกได้ด้วย ที่มา http://blog.esuteru.com/archives/9453084.html Arms
