วิธีเล่นการ์ด Cardfight!! Vanguard เบื้องต้น

วิธีเล่นการ์ด Cardfight Vanguard

สำหรับใครที่กำลังก้าวเข้าสู่การเป็นนักสู้หน้าใหม่แห่งวงการ Cardfight!! Vanguard แล้วไม่รู้ว่ามันมีวิธีเล่นอย่างไร บทความนี้จะสอนวิธ๊การเล่นการ์ดเกม Cardfight!! Vanguard ในเบื้องต้นให้ได้รู้จักกันครับ ส่วนวิธีเล่นจะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน

ลักษณะของการ์ด

ตำแหน่งของโซนต่างๆ ในสนามการเล่น

Vanguard Circle – ตำแหน่งวางตัวเริ่มต้นและแวนการ์ดที่เป็นตัวแทนของเรา

Rear-guard Circle – ตำแหน่งวางเรียร์การ์ดมาช่วยต่อสู้ 5 ช่อง สามารถสลับตำแหน่งในแถวด้านหน้าและหลังด้วยกันเองได้

Guardian Circle – ตำแหน่งวางการ์เดี้ยนสำหรับใช้ค่าพลังชิลด์ที่มีไปเพิ่มค่าพาวเวอร์เพื่อป้องกันการโจมตี

Deck Zone – ที่วางกองการ์ดหลักของเรา

Drop Zone – ยูนิทที่โดนทำลายหรือใช้งานแล้วจะวางไว้ที่นี่ในสภาพหงายหน้า

Trigger Zone – ตำแหน่งที่ไว้เปิดกองการ์ดสำหรับทริคเกอร์เช็คหรือดาเมจเช็ค

Damage Zone – ที่วางการ์ดความเสียหาย หลังจากที่แวนการ์ดเราโดนโจมตีสำเร็จ

G Zone – ที่วาง G ยูนิทต่างๆ

วิธีกรเล่น

เงื่อนไขการแพ้ชนะก็คือ หากใครที่มีการ์ดในดาเมจโซนถึง 6 ก่อน หรือถ้าหากไม่มีกองการ์ดเหลืออยู่เลย จะเป็นฝ่ายแพ้

เตรียมพร้อมก่อนเริ่มเล่น

เลือกยูนิทเกรด 0 จากกองการ์ด แล้ววางคว่ำหน้าลงบนช่องแวนการ์ด
สับกองการ์ดแล้ววางคว่ำหน้าไว้ที่กองการ์ด
สุ่มหาผู้เริ่มเล่นก่อน
จั่วการ์ด 5 ใบจากกองการ์ด อย่าให้ฝ่ายตรงข้ามเห็นการ์ดของเรา
ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถเปลี่ยนมือเริ่มต้นได้ 1 ครั้ง โดยเลือกการ์ดที่ไม่ต้องการนำกลับเข้าใต้กองการ์ด จากนั้นจั่วการ์ดจากกองการ์ดตามจำนวนที่เรานำกลับไปไว้ใต้กอง สับกองการ์ดอีกครั้ง (หากไม่เปลี่ยนการ์ดก็ไม่ต้องสับกองการ์ดแล้วครับ)
เริ่มเกมด้วยการหงายแวนการ์ด

ลำดับต่างๆ ในแต่ละเทิร์น

1. สแตนด์เฟส – เปลี่ยนยูนิทที่อยู่ในสภาพ เรส (วางแนวนอน) ให้เป็น สแตนด์ (วางแนวตั้ง)

2. ดรอว์เฟส – จั่วการ์ด 1 ใบบนสุดจากกองการ์ดขึ้นมือ

3. ไรด์เฟส – เป็นช่วงเพิ่มความสามารถให้กับแวนการ์ดของเรา

ประกาศการไรด์ยูนิท เลือกยูนิทบนมือที่เกรดเท่ากับหรือมากกว่าแวนการ์ดปัจจุบัน 1 ขั้น แล้วนำมาวางทับบนสุดของช่องแวนการ์ด โดยใบเดิมที่อยู่ข้างใต้จะเรียกว่า โซล และสามารถไรด์ได้เทิร์นละ 1 ครั้งเท่านั้น
สไตรด์สเต็ป ประกาศการสไตรด์โดยมีเงื่อนไขว่าแวนการ์ดทั้ง 2 ฝ่ายต้องเป็นเกรด 3 หรือสูงกว่า โดยเงื่อนไขจะต้องทิ้งการ์ดบนมือเราให้เกรดรวมกันเท่ากับหรือมากกว่า 3 หลังจากนั้นเลือก G ยูนิทที่คว่ำหน้าอยู่ใน G โซน 1 ใบมาวางบนช่องแวนการ์ด หากไม่ต้องการสไตรด์ สามารถข้ามเฟสนี้ไปได้

4. เมนเฟส – เฟสที่เอาไว้เรียกยูนิทเพิ่มเติมและใช้ความสามารถต่าง ๆ

คอล เรียร์การ์ด – เลือกยูนิทที่เกรดไม่สูงกว่าแวนการ์ดจากบนมือลงช่องเรียร์การ์ด สามารถสลับตำแหน่งเรียร์การ์ดในแถวเดียวกันด้านหน้า-หลังได้
ใช้ความยูนิทประเภท ACT ได้โดยการจ่ายค่าคอสท์ต่างๆ

5. แบทเทิลเฟส – เฟสต่อสู้ โจมตีศัตรูเพื่อสร้างดาเมจ

เลือกยูนิทโจมตี ยูนิทที่จะโจมตีได้จะต้องอยู่แถวหน้า เรสยูนิทนั้น(เปลี่ยนสภาพจากวางตั้งเป็นวางนอน)เพื่อสั่งโจมตี โดยสามารถเลือกยูนิทแถวหลังที่มีความสามารถบูสท์เพื่อเพิ่มพลังโจมตีให้ยูนิทด้านหน้าได้ หลังจากนั้นให้เลือกยูนิทฝ่ายตรงข้ามที่อยู่ด้านหน้าเพื่อโจมตี
คนที่เป็นฝ่ายตั้งรับจะสามารถ คอล การ์เดี้ยนลงมาช่วยป้องกันได้ โดยเอาพลังจากค่า Shield ไปบวกให้กับพลังของยูนิทที่จะป้องกัน
ถ้ายูนิทที่สั่งโจมตีเป็นแวนการ์ดจะเกิดการ ไดร์ฟเช็ค โดยการเปิดใบบนสุดของกองการ์ดตามจำนวนบนสกิลไอคอน หรือความสามารถของยูนิทนั้น(ตามพื้นฐานเกรด 0 1 2 เช็คได้ 1 ใบ เกรด 3 เช็คได้ 2 ใบ และ G ยูนิทเกรด 4 เช็คได้ 3 ใบ) ถ้าหากหงายได้ยูนิทปกติก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ถ้าได้ทริกเกอร์ก็จะแสดงผลตามสีดังนี้
สีแดง – ยูนิท 1 ใบพลัง + 5000 จนจบเทิร์น และจั่วการ์ดจากกองการ์ด 1 ใบ
สีเหลือง – ยูนิท 1 ใบพลัง + 5000 จนจบเทิร์น และเลือกยูนิท 1 ใบ เพิ่มค่าคริติคอล +1
สีเขียว – ยูนิท 1 ใบพลัง + 5000 จนจบเทิร์น ถ้าดาเมจโซนของเรามีเท่ากับหรือมากกว่าคู่แข่ง นำการ์ดในดาเมจโซนออก 1 ใบไปยังดรอปโซน
สีฟ้า – ยูนิท 1 ใบพลัง + 5000 จนจบเทิร์น และเลือกเรียร์การ์ด 1 ใบ ทำการสแตนด์ยูนิทนั้น
โดยการ์ดที่ไดร์ฟเช็คทั้งหมดจะไปอยู่บนมือ