ผมรู้สึกว่าตัวเองเห็นตัวอย่างหรือคลิปโปรโมตของ THUNDERBOLTS* มากมายกว่าหนัง Marvel เรื่องอื่นอย่างมีนัยยะจนหลังๆ ไม่ค่อยอยากจะเห็นอะไรเพิ่มเท่าไหร่ เพราะเอาเข้าจริงความอยากดูมันก็มีอยู่แล้ว แต่หลายๆ ครั้งมันก็เป็นเหมือนพิธีกรรมอยู่เหมือนกันว่าหากมีหนัง Marvel เข้าเราก็ต้องไปดูอยู่แล้ว ไม่ว่าหน้าหนังจะน่าดูหรือไม่ก็ตาม
กับ THUNDERBOLTS* ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ โอเคแหละว่ามันมีความรู้สึกว่าหนังอาจจะดีมากๆ แต่ส่วนตัวเองก็เคยรู้สึกแบบนี้กับหนัง Marvel มาแล้วหลายต่อหลายเรื่อง ก็เป็นไปตามที่คิดบ้าง ไม่ใช่บ้าง ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างหลัง แต่มันก็ใกล้เข้าสู่ช่วง Avengers Doomsday แล้ว เลยอาจรู้สึกเพิ่มเติมว่าทาง Marvel น่าจะต้องเน้นและพิถีพิถันกับตัวภาพยนตร์มากขึ้น และขอแค่มันทำให้ผมเอนจอยได้มากกว่า Captain America: Brave New World ก็ถือว่าโอเคแล้ว
น่าดีใจที่มันทำสำเร็จ และมันยังทำได้เกินคาดหวังไปอีก แม้เรื่องราวในภาพรวมรวมถึงเมสเสจต่างๆ ในหนังมันจะถูกใช้บ่อยและไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร แต่ก็ชัดเจนในความเป็นตัวมันเอง รวมถึงทำหน้าที่ส่งต่อให้หนังเรื่องถัดไปได้อย่างน่าติดตามครับ
THUNDERBOLTS* เล่าเรื่องของอดีตตัวร้ายและฮีโร่เกรดภูธรอย่าง เยเลน่า, โกสต์, ยูเอส เอเจนต์, แทสก์มาสเตอร์, เรด การ์เดี้ยน, บัคกี้ และบ๊อบ ต้องมาแทคทีมกันแบบเฉพาะกิจและเหตุจำเป็นเพื่อรับมือกับเดอะ วอยด์ ฮีโร่ที่มีพลังระดับคอสมิค เพื่อปกป้องชีวิตของผู้คนในนิวยอร์ค แต่อดีตคนมีแผลตัวร้ายเหล่านี้จะปกป้องใครได้หรือไม่ ต้องไปหาคำตอบกันเอาเองครับ
ภาพยนตร์ปูเรื่องได้น่าสนใจและใช้เวลาไม่นานก็ได้ดูซีนบู๊สุดนัวที่ออกแบบมาได้ดีตั้งแต่ช่วง 30 นาทีแรก เมื่อฮีโร่เกรดใกล้ๆ กันต้องมาปะทะกันด้วยความเข้าใจผิด ก๋อนจะรู้ตัวว่าถูกหลอกและต้องหาทางร่วมมือกันฝ่าออกไป ผู้ชมจะเริ่มเห็นเคมีของคนห่ามๆ ที่ค่อยๆ บิดเข้าหากัน อาจจะยังไม่สนิทดีแต่ก็ดูไปด้วยกันได้ ตัวหนังดูพยายามจะเน้นความสัมพันธ์ของตัวละครมากกว่าฉากตูมตามหรือไคลแมกซ์ที่มันอาจไม่ได้เร้าอะไรนัก แต่ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าทีมนี้จบวิกฤตได้ดีกว่าที่คิดไว้ เป็นการเลือกทางลงที่เสริมเมสเสจของหนังให้มันหนักแน่นและรู้สึกถึงมันได้มากขึ้น แม้อาจจะเป็นอะไรที่เดิมๆ ไม่ได้ใหม่ก็ตาม
หนังยังมีส่วนที่พยายามจะลองสำรวจจิตใจของตัวละคร แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ลงลึกอะไรนัก และมีเพียงเยเลน่ากับบ๊อบเท่านั้นที่ถูกเล่ามากกว่าคนอื่น ซึ่งนั่นทำให้ความโดดเด่นไม่ได้ถูกเกลี่ยเท่าที่ควร เรารู้สึกได้ว่าเยเลน่านั้นคือตัวนำของทีมนี้ ซึ่งบางทีก็อาจจะถูกแล้วในการเลือกจะโฟกัสให้ใครสักคนในกลุ่มโดดเด่นกว่าคนอื่น เพราะสามารถเล่าได้ง่ายกว่า และฟลอเรนซ์ พิวจ์ก็มีพลังดาราพอจะแบกคาแรคเตอร์เยเลน่าได้แบบเหลือๆ
สุดท้ายคือหนังสามารถส่งต่อไปยังหนังเรื่องถัดไปได้อย่างน่าสนใจ คือการเลือกจะจบไปแบบนั้น ก็เหมือนหนังจะรู้ตัวว่าคนดูอาจจะยังกังขาจึงดักคอเอาไว้ด้วย เป็นการตอกย้ำว่าหนังจงใจจะมาทางนี้ พร้อมสร้างคอนฟลิกขึ้นมาอีกอย่างเพื่อตั้งคำถามและประเด็นให้ผู้ชมได้ขบคิดพร้อมกระตุ้นอยากให้ไปหาคำตอบในภาพยนตร์เรื่องถัดๆ ไปได้อย่างดี
THUNDERBOLTS* อาจไม่ใช่หนังดีที่สุด ซึ้งที่สุด ทำอะไรได้ถูกต้องที่สุด แต่สุดท้ายมันเป็นหนัง Marvel ไม่กี่เรื่องในช่วงหลังที่เรารู้สึกว่าสัมผัสได้ถึงสาส์นของมัน ดูแล้วได้คิดต่อ ลุ้นต่อ อบอุ่นอยู่ในที และไม่ได้ว่างเปล่าตอนเดินออกจากโรง มันอาจจะยังไม่ถึงขั้นพูดได้ด้วยซ้ำว่า MCU คืนฟอร์มจริงๆ แล้ว แต่อย่างน้อยๆ มันก็เป็นหนังที่ดูมีชีวิตและเนื้อหนังมากที่สุดในช่วงหลังของ MCU ครับ และผมเอนจอยกับมันมากพอสมควรเลยล่ะ
VERDICT
8/10
ดูรอบและสำรองที่นั่งได้ที่ – https://majorcineplex.com/movie/thunderbolts
ขอขอบคุณ Major Cineplex สนับสนุนการรับชม
ติดตามข่าวหนังอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ Online Station