ในเกม Clair Obscur: Expedition 33 การเลือกอัปเกรดค่าสถานะ (Attributes) อย่างเหมาะสมกับบทบาทของตัวละครแต่ละคนเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การต่อสู้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีระบบรีเซ็ตค่าสถานะ (Respec) ที่ช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งตัวละครใหม่ได้หากต้องการเปลี่ยนแนวทางการเล่น โดยในบทความนี้จะอธิบายค่าสถานะทั้งหมดที่มีอยู่ในเกม พร้อมแนะนำว่าค่าสถานะไหนควรเน้นอัปเกรดให้แต่ละตัวละครเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้
ในเกม Clair Obscur: Expedition 33 มีค่าสถานะหลักทั้งหมด 5 อย่าง ซึ่งส่งผลโดยรวมต่อสเตตัสต่าง ๆ ดังนี้
- Vitality (พลังชีวิต): ค่าพลังชีวิต (HP) หรือปริมาณความเสียหายที่ตัวละครสามารถรับได้
- Might (พลังโจมตี): พลังโจมตีหรือปริมาณความเสียหายที่ตัวละครสามารถสร้างได้
- Agility (ความเร็ว): ความเร็วหรือความถี่ที่ตัวละครจะได้เทิร์นในการต่อสู้
- Defense (พลังป้องกัน): ความสามารถในการป้องกัน
- Luck (โชค): ส่งผลต่ออัตราคริติคอล หรือความถี่ในการโจมตีติดคริติคอล
ทั้งนี้การอัปค่าสถานะจะส่งผลต่อตัวละครไม่เหมือนกันด้วย เช่น การเพิ่มคะแนนสถานะ Vitality ของตัวละครอย่าง Sciel จะช่วยเพิ่มพลังชีวิตของเธอ แต่การเพิ่มคะแนนสถานะ Vitality ของ Lune จะช่วยเพิ่มทั้งพลังชีวิตและพลังโจมตีของเธอ เป็นต้น
ส่วนการปรับสถานะของตัวละครให้สมดุลในทุก ๆ ด้าน จะทำให้อาวุธใหม่ ๆ ที่คุณพบสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นประเภทใดก็ตาม เช่น ดาบ Medalum ของ Maelle จะสร้างดาเมจเพิ่มตามค่าป้องกัน (Defense) และความคล่องแคล่ว (Agility) ส่วนดาบ Melarum จะสร้างดาเมจเพิ่มตามความทนทาน (Vitality) และโชค (Luck)
แต่ละตัวละครควรอัปเกรดค่า Attributes อย่างไร
Gustave: เน้นไปที่ค่า Luck
การโจมตีบางรูปแบบของ Gustave สามารถโจมตีได้หลายครั้ง ดังนั้นหลักการที่ใช้ก็ง่าย ๆ คือยิ่งค่าโชค (Luck) สูงเท่าไร โอกาสที่การโจมตีแต่ละครั้งจะเกิดคริติคอลก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเท่านั้น (ทุกครั้งที่ติดคริติคอลติด = ความเสียหายรวมเพิ่มขึ้นอย่างมาก, เหมาะกับการใช้ดาบ/อาวุธที่โจมตีเร็วและถี่)
Lune: เน้นไปที่ค่า Defense และ Vitality
Lune เป็นนักเวทย์และเธอจะมีหน้าที่ในการใช้เวทมนตร์การรักษา ดังนั้นการเพิ่มค่า Defense จะช่วยลดความเสียหายที่รับจากศัตรู เมื่อเธอต้องอยู่แนวกลางเพื่อรักษาทีม และ Vitality ที่จะช่วยเพิ่มพลังชีวิต ในกรณีโดนโจมตีหนักก็จะไม่ได้รับความเสียหายมากเท่าไหร่ ส่วนค่า Luck ก็ไม่จำเป็นนัก เพราะการโจมตีคริติคอลไม่ได้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับ Lune
Maelle: เน้นไปที่ค่า Agility และ Luck
สกิลบางอย่างของ Maelle เช่น Degagement สามารถทำให้ศัตรูติดสถานะอ่อนแอต่อธาตุต่าง ๆ ได้ชั่วคราว ถ้าหาก Maelle มีค่า Agility สูง จะให้เธอได้โจมตีก่อนในเทิร์นแรกของการต่อสู้ เปิดช่องให้ Lune ใช้เวทธาตุโจมตีศัตรูได้แรงยิ่งขึ้น ถือว่าเป็นการเพื่อเปิดเกมให้ทีมได้เปรียบตั้งแต่เริ่มการต่อสู้! ส่วนค่า Luck ช่วยเพิ่มโอกาสติดคริติคอลในการโจมตีแบบปกติ
Sciel: เน้นไปที่ค่า Might
เช่นเดียวกับ Gustave ทาง Sciel ถือเป็นตัวละครเน้นสายโจมตี DPS (Pure Damage Dealer) ของทีม ดังนั้นการเน้นไปที่ค่า Might เพื่อพลังโจมตีจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการสร้างความเสียหายอย่างมากให้กับศัตรู เหมาะกับการใช้อาวุธประเภทดาเมจสูง เช่น ดาบใหญ่
Verso: เน้นไปที่ค่า Agility หรือ Vitality
Verso เป็นตัวละครสายซัพพอร์ตที่มีสกิลทั้งในด้านดูดซับความเสียหายหรือช่วยเพิ่มพลังโจมตีให้ทีม และสามารถปรับบทบาทได้ตามสไตล์การเล่นของคุณ เขาจะมีสกิลบางอย่างที่สามารถทำให้ศัตรูตัวนั้นได้รับความเสียหายเพิ่มจากการโจมตีครั้งถัดไป (คล้ายกับดีบัฟธาตุของ Maelle) ดังนั้นหากอยากให้ Verso ใช้สกิลนี้เพื่อเปิดทางให้เพื่อน ๆ ในทีมโจมตีแรงขึ้น ควรเน้นไปที่ค่า Agility ส่วนการเพิ่มค่า Vitality จะช่วยให้เขามีความถึกทนในการแบกรับสถานะผิดปกติต่าง ๆ แทนเพื่อนในทีม
Monoco: แล้วแต่จะอัปเลย
Monoco เป็นตัวละครลึกลับแห่งทีม Expedition 33 ที่มีสกิลความสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามศัตรูที่เคยปราบมาก่อนหน้า ดังนั้นไม่มีแนวทางอัปค่า Attributes ในรูปแบบตายตัว อยากลองอะไร ก็จัดไปเลยครับ!
แปลและเรียบเรียงจาก
https://www.polygon.com
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station