รีวิวเกม Super Robot Wars 30 ครบรอบ 30 ปีกับการเดินหน้าสู่สิ่งใหม่แทนการเติมเต็มความรู้สึกเก่า

Super Robot Taisen หรือ Super Robot Wars เกมยำหุ่นยอดฮิตที่ครองใจแฟน ๆ มานานกว่า 30 ปีตั้งแต่ปี 1991 ที่ได้เปิดตัวครั้งแรกบนเครื่องเกม Gameboy นอกจากจะเป็นเกมรวมซีรีส์หุ่นยนต์ยอดฮิตในสมัยนั้นมาอยู่ในเกมเดียวกันแล้ว ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าระบบเกมที่เป็นแนว RPG Simulation นั้นทำออกมาได้เพลิน สนุกและฟินในเวลาเดียวกันเลยทีเดียว

ซึ่ง Super Robot Wars 30 ที่เพิ่งวางจำหน่ายไปเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2021 ก็เป็นเกมฉลองครบรอบ 30 ปีของซีรีส์เกม Super Robot Wars ที่ว่านี้นั่นเอง

เกมฉลองครบรอบ 30 ปีที่ไม่ค่อยสมกับการเป็นเกมฉลองครบรอบ 30 ปี

หลายคนอาจจะคาดหวังว่าตัวเกมคงมีการทำให้เรานึกถึงความรู้สึกเก่า ๆ ที่เคยได้เล่นมาตลอด 30 ปี อย่างการใส่จุดเด่นและจุดที่น่าจดจำของแต่ละภาคมาอยู่ในเกม รวมถึงซีรีส์เข้าร่วมรบที่ทำให้คิดว่านี่คือการฉลองครบรอบ 30 ปีจริง ๆ แต่ทว่า Super Robot Wars 30 กลับไม่ได้ทำอย่างที่หลายคนคาดหวังไว้ ตัวเกมกลับเป็นเหมือนเกม Standalone ภาคใหม่ทั่วไปอย่าง V, X, T, MX หรืออื่น ๆ ที่เคยออกมาก่อนหน้านี้

สิ่งที่ Super Robot Wars 30 เลือกนำเสนอคือ “ความสดใหม่” ซึ่งนอกจากระบบที่ถูกเพิ่มเข้ามาแล้ว เนื้อเรื่องกับตัวละครก็ยังเน้น Setting ใหม่มากกว่าการเลือกสิ่งที่ทำให้รู้สึกคิดถึงวันวาน อีกทั้งซีรีส์หุ่นยนต์ที่เข้าร่วมรบก็ดูไม่ค่อยมีการกระจายยุคสักเท่าไร ตัวละครกับหุ่นยนต์จากซีรีส์ OG ของเกมที่น่าจะเป็นส่วนร่วมหลักของการฉลองครบรอบ 30 ปีก็กลายเป็นตัวเสริมหรือ DLC มากกว่าซะงั้น

กิมมิก “30”

ถึงข้างต้นจะบอกว่าไม่ค่อยสมกับเป็นเกมฉลองครบรอบ 30 ปี แต่ว่าตัวเกมก็ยังมีการแฝงกิมมิกกับเลข 30 ไว้อยู่ โดย Setting ที่เป็นเนื้อเรื่องออริจินอลของภาคนี้จะเกี่ยวข้องกับตัวเลข 30 ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น Huckebein 30, โรงเรียนเตรียมทหาร 30 รวมถึงอีกหลาย ๆ อย่างในเกม ถ้าหากเป็นผู้เล่นแนวเสพเนื้อเรื่องก็จะเห็นว่าตัวเลข 30 มีการถูกนำมาใช้บ่อยพอสมควรเลย

แต่ก็อาจจะดีกว่านี้ถ้าตัวเลข 30 มีการนำเสนอในเชิงกลิ่นอายของความเป็น Super Robot Wars ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันมากกว่าการเป็นแค่กิมมิกภายในเกมเฉย ๆ

ระบบการเล่นแนวเดิมแต่ไม่รู้สึกจำเจ

แม้ว่า Super Robot Wars 30 จะมีระบบการเล่นแนวคล้าย ๆ เดิม แต่จากการที่เกมแต่ละภาคมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกันก็ทำให้ตัวเกมไม่ดูจำเจหรือน่าเบื่อ แน่นอนว่าภาคนี้ก็มีการเพิ่มระบบการเล่นใหม่ ๆ เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นระบบ Tactical Area Select ที่ให้ผู้เล่นเลือกด่านเล่นเอง, ระบบอัปเกรดยานแม่ที่ส่งผลโดยรวม, ระบบ Auto Battle ที่ทำให้เราโฟกัสกับอย่างอื่นระหว่างเล่นได้

นอกจากนี้ตัวเกมยังคงเน้นความเป็นมิตรกับผู้เล่นทุกรูปแบบ ทั้งผู้เล่นที่เป็นแฟนเหนียวแน่นหนึบ ผู้เล่นขาจรที่เล่นบ้างไม่เล่นบ้าง รวมถึงผู้เล่นใหม่ที่ไม่เคยเล่นซีรีส์ Super Robot Wars มาก่อน ไม่ใช่แค่การปรับระดับความยากง่าย ตัวเกมยังมีการช่วยเหลือผู้เล่นเกี่ยวกับการได้ยูนิตใหม่จากการบอกเงื่อนไขของการเข้าด่านย่อยที่ปรากฎอยู่บนหน้าจอภารกิจ ต่างจากภาคเก่าที่ถ้าไม่มีบทสรุปก็จะไม่รู้เลยว่าเงื่อนไขมีอะไรบ้าง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีความลับแบบเก่า ๆ เลย

หุ่นออริจินอลที่เสน่ห์ถดถอยลงเรื่อย ๆ

เอกลักษณ์อีกหนึ่งอย่างของเกม Super Robot Wars ตั้งแต่ภาค 2nd คือหุ่นยนต์ออริจินอลประจำเกม จากยุคที่เคยสร้างความน่าสนใจให้กับแฟนเกม อย่างการเลือกสาย Real หรือ Super รวมถึงมีการอัปเกรดหุ่นในช่วงหลังของเกมที่สร้างความว้าวให้กับแฟน ๆ จนทำให้มีแฟนคลับหุ่นออริจินอลของเกมมากขึ้น กลายเป็นเหลือหุ่นออริจินอลเพียงแค่ตัวเดียว แถมร่างอัปเกรดก็ขาดเสน่ห์ของความเป็นหุ่นอัปเกรดไปพอสมควร (แต่ความสามารถก็อยู่ในระดับเก่งนะ!)

ถึงจะมีการนำ Huckebein ที่เป็นหุ่นออริจินอลยอดนิยมยุคแรกมาทำเป็นเวอร์ชั่น 30 เพื่อให้สมกับเป็นภาคฉลองครบรอบ 30 ปี แต่จากการออกแบบที่ดูไม่สดใหม่หรือไม่น่าสนใจเพราะดันมีความคล้ายกับหุ่นตัวเก่า ก็ทำให้ Huckebein 30 ของภาคนี้กลายเป็นสิ่งที่น่าผิดหวังสำหรับแฟนคลับ Super Robot Wars ที่ชื่นชอบในตัวหุ่นออริจินอลของแต่ละภาค

แต่หุ่นตัวร้ายเท่อยู่นะเนี่ย!

เนื้อเรื่องยำที่ทำออกมาได้สนุกเกิดคาด

สิ่งที่ดีงามจดน่าจดจำของ Super Robot Wars 30 ก็น่าจะเป็นเนื้อเรื่องที่มีการยำอย่างมีคุณภาพ ถึงระบบ Tactical Area Select จะทำให้เราสามารถเลือกลำดับด่านเพื่อเล่นได้ แต่ตัวเกมก็ยังคงมีความขยันในการทำเนื้อเรื่องให้ดูสอดคล้องและต่อเนื่องกันอยู่ แน่นอนว่ามุกล้อเลียนพล็อตโฮลของแต่ละซีรีส์ที่เข้าร่วม หรือสิ่งที่เป็นกระแสพูดคุยในกลุ่มแฟนคลับก็ยังมีการใส่เข้ามาในภาคนี้

นอกจากนี้ตัวเอกของเกมอย่าง Edge ก็มีความเป็นคุณ Gin จากอนิเมะ Gintama พอสมควร ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะใช้นักพากย์อย่างคุณ Sugita Tomokazu หรือเปล่า แต่ทั้งนี้ จังหวะการใส่มุกกับการเดินเรื่องแบบจริงจังก็มีจังหวะที่ลื่นไหลและไม่รู้สึกติดขัด รวมถึงแนวเรื่องที่มีการเติมความเป็นแนว Romantic Comedy เข้ามาในเกมเพื่อทำให้แฟน ๆ ได้จิ้นได้อมยิ้มระหว่างเล่นด้วย

Super Robot Wars ยังคงเป็น Super Robot Wars

สุดท้ายแล้วเกม Super Robot Wars 30 ก็ยังคงเป็นหนึ่งในเกม Super Robot Wars แบบที่เรารู้จักกัน แม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นผลงานที่ฉลองครบรอบ 30 ปีอย่างที่เราคาดหวัง แต่ตัวเกมก็ยังทำออกมาได้ดีตามมาตรฐานและดีกว่าหลาย ๆ ภาคในอดีต กลายเป็นว่าภาค 30 คือจุดเริ่มต้นใหม่ของเกม Super Robot Wars ที่กำลังจะเข้าสู่อีกยุคหนึ่งมากกว่าการโหยหาอดีตในรอบ 30 ปี ก็ทำให้น่าจับตาดูไม่น้อยว่าเกม Super Robot Wars หลังจากนี้จะมุ่งหน้าไปยังทิศทางไหน