[พรีวิว]Brave Frontier: The Last Summoner ภาคต่อเกมชื่อดังกับเรื่องราวอีก 1,000 ปีให้หลัง


ก่อนหน้านี้ gumi ผู้ให้บริการเกมชื่อดังจากญี่ปุ่นได้ปล่อย Brave Frontier ภาคแรกออกมาให้แฟนๆ ประทับใจไปกับเกม RPC บนมือถือกราฟิก 2 มิติแนวการ์ตูนที่สวยงามจนสร้างชื่อเอาไว้และมีแฟนๆ จนกันต่อเนื่องมาจนปัจจุบันนี้ และล่าสุดนี้ก็ได้ปล่อยภาคต่อของ Brave Frontier อย่างแท้จริงออกมาในชื่อเกม Brave Frontier: The Last Summoner เป็นการผจญภัยในเรื่องราวเหตุการณ์หลักจากภาคแรกมา 1000 ปี จะน่าสนุกแค่ไหนไปชมกันเลย

เรื่องราว 1,000 ปีให้หลัง พัฒนาไปแค่ไหนกัน?

อย่างที่บอกไปว่า Brave Frontier: The Last Summoner นั้นเป็นเกมภาคต่อของ Brave Frontier แต่จะเป็นเนื้อที่จบไปแล้วจากภาคแรกผ่านไป 1000 ปี เป็นเรื่องราวหลังจากที่อาณาจักร Grand Gaia ในภาคแรกล่มสลาย และผู้คนก็หันหลังให้กับ Grand Gaia แล้วสร้างอารยธรรมใหม่ ดินแทนใหม่ๆ เกิดเป็นเรื่องราวของเกมในภาคนี้ ให้เพื่อนๆ ลืมภาพตัวละครในภาคแรกไปได้เลยภาคนี้จะไม่หลงเหลือตัวละครเอก ของภาคเก่าเลยสักตัว ด้านตัวเกม Brave Frontier: The Last Summoner ก็มีการพัฒนามากขึ้นอย่างมากมาย แต่ยังคงเอาไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของเกม JRPG ที่ผสานเนื้อเรื่องเกมภาษาเขากับการต่อสู้อย่างดุเดือดและสกิลการโจมตีที่อลังการ ในด้านกราฟิกของเกมยังคงเลือกใช้เป็นกราฟิกแบบ 2 มิติ หรือ 2D แต่จะเป็น 2D HD กราฟิกของเกมจะสวยงามมีความระเอียดมากขึ้นกว่าในภาคแรกอย่างมาก รวมถึงด้านเสียงพากย์ก็ใช้เสียงต้นฉบับญี่ปุ่นเอาไว้สร้างบรรยากาศให้สนุกตื่นเต้นกับเกมเข้าไปอีก

 

สร้างทีมแล้วลุยเลย!

เกม Brave Frontier: The Last Summoner จะให้เราสร้างทีมตัวละครจำนวนสูงสุดทีมละ 5 ตัวละคร จากตัวละครใน Units ที่เรามี ซึ่งก็อย่างที่บอกไปแล้วว่าตัวละครที่มีนั้นจะไม่ใช่ตัวเอกจากภาพแรกอีกแล้วจะเป็นตัวละครใหม่หมด ซึ่งในตอนนี้มามากกว่า 50 ตัวละครแล้ว และตัวละครแต่ละตัวก็จะมีทักษะอาชีพ สกิลที่แตกต่างกัน มีระดับขั้นของสกิล รวมไปถึงสกิลของหัวหน้า สกิลสนับสนุนทีม และรวมไปถึงการใช้อาวุธที่แตกต่างกันกันออกไป ทั้งดาบ มีด ธนู เป็นต้น ตัวละครเหล่านี้ก็จะมีการแบ่งระดับความเก่ง ตามจำนวนดวงดาวของตัวละคร และมีระบบธาตุที่แพ้ชนะกันด้วย



การเล่นหลักของเกมนี้จะอยู่ที่เมนู Quests ที่จะมีโหมดการเล่นปกติตามเนื้อเรื่องและโหมดการเล่นพิเศษอีกมากมาย โดยจุดสำคัญทั้งจะเป็นโหมดเนื้อเรื่องหลักหรือ Story ที่จะเชื่อมโยงและปลดล็อกฟิเจอร์อื่นๆ ของเกม ซึ่งเนื้อเรื่องก็จะแบ่งเป็น Chapter ภายใน Chapter ก็จะมีการแบ่งเป็นด่านย่อยลงไปอีก ถ้าสามารถผ่านได้ทุกด่านย่อยไปได้ก็จะผ่านเนื้อเรื่องใน Chapter นั้นไป ยิ่งเป็น Chapter ที่สูงขึ้นความยากก็จะมากขึ้นตามไปด้วย โหมดเนื้อเรื่องนี้ก่อนเข้าสู้ฉากต่อสู้ก็จะมีเนื้อเรื่องตัดเข้ามาให้เราชม พร้อมกับสนุกไปกับเนื้อเรื่องของเกม โหมดต่อมาก็คล้ายกับเนื้อเรื่องคือโหมด Harvest เป็นดันเจี้ยนเอาไว้รวบรวมทรัพยากรต่างๆ และยังมีอีก 2 ดันเจี้ยนพิเศษคือ Chalenge และ Chalenge+ เป็นดันเจี้ยนที่ยากและมีรางวัลพิเศษ

ภายในฉากการต่อสู้นั้นการโจมตีจะเป็นแบบเทิร์นเบสผลัดกันโจมตีกับศัตรูในแต่ละด่าน สำหรับการควบคุมการโจมตีจะทำได้โดยการแตะที่รูปอาวุธใต้สัญลักษณ์ตัวละคร และสามารถลากนิ้วรูดจากซ้ายไปขวาในทุกตัวละคร ก็จะเป็นการสั่งให้ตัวละครเราทำคอบโบกัน และทุกการโจมตีที่ตัวละครเราทำได้ก็จะทำให้ได้ค่ามานามา ถ้ามีมานาถึงกำหนดสามารถกดลากนิ้วขึ้นที่ใต้ตัวละครนั้นแล้วจะเป็นการใช้สกิลโจมตีของตัวละครนั้น และถ้าเราปัดขึ้นครั้งที่ 2 ก็จะเป็นการใช้สกิลต่อไปได้เช่นกันถ้ามีมานาถึงกำหนด จากนั้นก็สามารถกดรูดนิ้วเพื่อคอมโบการโจมตีได้เช่นกัน

อัพตัวละครให้เก่ง

เกม Brave Frontier: The Last Summoner นั้นตัวละครใน Units ของเราที่จะนำไปเข้าทีมของเรานั้นจำเป็นต้องมีการพัฒนาขึ้น เพราะไม่งั้นเราก็จะไปสู้กับศัตรูที่เก่งๆ ในด่านและดันเจี้ยนต่างๆ ได้ยาก การพัฒนาตัวละครก็เกมนี้มีหลายรูปแบบ อย่างแรกที่ง่ายที่สุดคือคือการเปลี่ยนอาวุธนั้นเอง อาวุธก็จะมีเกรดของอาวุธ และสายอาชัพของตัวละครที่สามารถใช้อาวุธเหล่านั้นได้ ต่อมาก็คือการอัพเลเวลตัวละครสามารถทำได้ 2 รูปแบบคือเลเวลจะอัพตอนที่เราผ่านด้าน และการใช้เมนู Fuse ในหน้าต่างตัวละคร จะเป็นการนำตัวละคร หรือไอเท็มสำหรับอัพเกรดมาให้ตัวละครเรากิน เลเวลก็จะอัพขึ้นมา

ตัวละครของเราจะมีระบบ Roles หรือระดับอาชีพระดับหน้าที่ของตัวละคร ซึ่งยิ่งเราอัพ Roles ให้สูงขึ้นตัวละครเราก็จะหมดล็อกสกิลใหม่ๆ และอื่นๆ เพิ่มขึ้นอีก โดยการเพิ่ม Roles นี้ทำได้ในเมนูนี้ Fuse เช่นกัน แต่ต้องนำตัวละครซ้ำกันนั้นมาให้ตัวละครกินจนอัพ Roles ได้ และการพัฒนาอีกอย่างคือการ อีโว ตัวละคร เมื่อทำการเก็บผลึกได้ครบตามกำหนดในหน้าต่างตัวละครสามารถกดอีโวตัวละครให้มีความสามารถมากขึ้นได้ ระบบสกิลของตัวละครในเกมนี้ก็จะแตกต่างกันตามระดับดาวของตัวละครด้วย ยิ่งตัวละครมีระดับดาวสูงไปจนถึง 5 ดาวก็จะมีสกิละครบทุกสกิลให้เลือกใช้นั้นเอง นอกจากสกิลด้านการต่อสู้แล้วก็ยังมีสกิลด้านการเก็บเกี่ยวที่เรียกว่า Harvest ที่จะช่วยต่อสู้และเก็บเกี่ยวในโหมด Harvest เพื่อที่จะได้วัตถุดิบในการเล่นต่อไป

เกม Brave Frontier: The Last Summoner นั้นพัฒนาขึ้นมากว่าภาคแรกมาก แต่ความสนุกดั่งเดิมที่เคยประทับใจในภาคแรกก็ยังไม่ทิ้งไป ภาพสวยงามมากขึ้น ระบบต่อสู้เร้าใจมากขึ้น แม้จะเป็นตัวละครและเรื่องราวใหม่ๆ แต่เกมนี้ก็ทำได้ดีไม่ลดความสนุกไปเลย ตอนนี้เกมเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษได้ปล่อยออกมาให้เล่นกันแล้วแบบจำกัดบางประเทศเท่านั้นและน่าจะเปิดให้บริการทั่วโลกในเร็วๆ นี้ ทั้งระบบ iOS และ Android เลย

โหลดเกมได้ที่:
Android: https://play.google.com/store/apps/details?id=com.gumieurope.origins
APK: https://apps.qoo-app.com/en/app/6775?

 

บทความโดย ManDate

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้