กลายมาเป็นเกมกระแสไปเสียแล้ว สำหรับเกมสไตล์ Battle Royale ซึ่งนาทีนี้คงหนีไม่พ้น PLAYERUNKNOWN’S BATTLEGROUNDS หรือ PUBG ที่เราๆ รู้จักกัน แต่มีหรือที่เกมดังแล้วจะไม่มีเกมแนวเดียวกันออกมาตีตลาด ซึ่งนาทีนี้คงหนีไม่พ้น Fortnite Battle Rayale หรือ FBR ที่ได้มีดราม่าเรื่องการ copy เกม PUBG มาพอสมควร แถมยังถูกสร้างโดย Epic Games ซึ่งเป็นผู้พัฒนา Unreal Engine โดยตรง ทำให้มีกระแสพูดกันมากมาย แต่ตัดเรื่องดราม่าออกไป วันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่า เกม PUBG กับ FBR นั้นมีข้อแตกต่างกันตรงไหนบ้าง มาดูกันเลย!
ราคาและ Platform ที่เล่น
สำหรับตอนนี้ PUBG จะต้องซื้อเพื่อเข้าเล่น และยังเล่นได้แต่บน PC เท่านั้น บนเครื่อง Console อาจจะมีแนวโน้มให้เล่นในอนาคต ต่างจาก FBR ที่สามารถเข้าไปเล่นได้ฟรีๆ ทั้ง PC, PS4 และ Xbox One และด้วยความเป็นเกมใหม่ทำให้ FBR ตอนนี้มียอดผู้ชมใน Twitch อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
ยอดคนดู FBR ใน Twitch ก็ถึงหลักหมื่นเลยทีเดียว
ความแตกต่างด้านภาพ
สำหรับ PUBG นั้นจะเน้นที่ความสมจริงของฉาก หญ้าสูงที่สามารถให้ผู้เล่นคลานหลบได้ แตกต่างจาก FBR ที่ภาพจะเป็นแนวการ์ตูนสีสดใส ทั้งในส่วนของตัวละครและฉากอื่นๆ นอกจากนี้ในส่วนของ PUBG เวลาเราฆ่าคนได้จะมีศพทิ้งไว้สักพัก และไอเท็มของคนนั้นๆ จะตกไปอยู่ในกล่อง แต่ FBR หากเราฆ่าใครได้ ศัตรูคนนั้นจะถูกวาร์ปออกไปทันทีพร้อมไอเท็มที่หล่นกระจัดกระจายเต็มไปหมด
ความแตกต่างของภาพที่คนละโทน
ขนาดของแผนที่
ในส่วนความใหญ่ของแผนที่นั้น PUBG กินขาดสุดๆ เพราะ FBR ค่อนข้างเล็กกว่าพอสมควร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในส่วนของเมืองหรือบ้านในเกม PUBG จะค่อนข้างซ้ำๆ กัน แต่ FBR จะมีความหลากหลายของบ้านและพื้นที่แปลกๆ อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเขาวงกตหรือโรงงานผลิตส้วม เป็นต้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น FBR ก็ยังไม่มียานพาหนะจำพวกรถ ทำให้แผนที่ที่เล็กกว่า PUBG ก็เป็นเรื่องที่ เข้าใจได้เช่นกัน
ความแตกต่างของแผนที่จากทั้งสองเกม
ระยะเวลาในการเล่น
ด้วยความเล็กของแผนที่ทำให้ตัวเกมของ FBR มีความเร็วมากกว่า PUBG (FBR จนวงสุดท้ายจะอยู่ราวๆ 20 นาที แต่ PUBG จะประมาณ 30 นาที) ซึ่งในความเป็นจริงก็ไม่ได้รู้สึกแตกต่างกันมากนัก แต่ถ้าเทียบความรู้สึกนอกจากเวลา FBR จะรู้สึกเร็วกว่า เพราะด้วยลักษณะตัวเกมที่ทำให้เราต้องเดินฟาร์มอยู่เรื่อยๆ เพื่อไปสร้างฐานช่วงท้ายๆ และไม่มีจุดให้ซุ่มเท่าไหร่ ต่างจาก PUBG ที่จะมีเวลาให้เราแคมป์นานๆ ได้
ระยะเวลาที่แตกต่างกันจนวงสุดท้ายของทั้งสองเกม
ฟีเจอร์ที่ต่างกันของเกม
แม้จะเป็น Battle Royale เหมืิอนกันแต่รูปแบบการเล่นค่อนข้างต่างกันสุดๆ และจุดที่เห็นชัดที่สุดก็คือใน FBR เราสามารถสร้างสิ่งก่อสร้างขึ้นมาได้ ไม่ว่าจะเป็นกำแพง บันไดลาด หลังคา และอื่นๆ ซึ่งทำให้เราสามารถสร้างจุดป้องกันให้กับตัวเองได้ ต่างกับ PUBG ที่ต้องเล่นตามสภาพของฉากนั้นๆ เท่านั้น ทำให้ตรงนี้ FBR มีความหลากหลายมากกว่า เเพราะนอกจากสร้างบ้านเรา เรายังสามารถวางกับดักได้อีกด้วย นอกจากนี้ที่เด่นชัดคือ FBR หากเราตาย เราสามารถดูศัตรูที่ฆ่าเราต่อได้อีกด้วย ต่างจาก PUBG ที่หากเราตายแล้วก็ออกไปเริ่มใหม่อย่างเดียว
PUBG มีรถ แต่ FBR สร้างกำแพงได้
สิ่งก่อสร้างที่สามารถทำลายได้
ใน PUBG นั้นพวกสิ่งก่อสร้างที่สามารถถูกทำลายได้ก็็จะมีแค่ประตู หน้าต่าง กับบ้านไม้ผุๆ เล็กๆ เท่านั้น แต่แตกต่างกับ FBR ซึ่งสามารถทำลายได้หลายอย่างมาก ซึ่งการสู้กันในบ้านผู้เล่นสามารถเจาะกำแพงหนีได้ตลอดเวลา คนที่หลบอยู่หลังต้นไม้เราก็สามารถยิงต้นไม้ให้พังได้ด้วย เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้วระหว่างสองเกม
FBR สามารถพังสิ่งปลูกสร้างได้เกือบทุกอย่าง เหมือน Minecraft เลย
ความหลากหลายของอาวุธ
ใน PUBG จะมีอาวุธปืนและ mod ให้เราเสริมเติมแต่งได้ ปืนบางปืนใน PUBG ได้มาตอนแรกอาจจะธรรมดาแต่เมื่อมาแต่งเพิ่ม mod ต่างๆ ไป ก็ทำให้กลายเป็นอาวุธที่ดีขึ้นได้ แต่ใน FBR นั้น ปืนต่างๆ จะไม่สามารถแต่ง mod ได้ แต่จะมีแบ่งระดับสีถึงความหายากของอาวุธแทน (ยิ่งหายากยิ่งดี) แต่ที่แน่ๆ FBR มี Rocket Launcher ซึ่งใน PUBG นั้นยังไม่มี ฮา
นัดเดียวอยู่
การปรับแต่งตัวละคร
ใน PUBG เพื่อนๆ สามารถเลือกชุดที่จะใส่ได้ รวมไปถึงชุดที่อยู่ภายในเกมหรือของผู้เล่นอื่นๆ ที่เราสามารถเปลี่ยนได้ตลอดเวลา แต่ใน FBR นั้นตัวละครในแต่ละรอบของเราจะเป็นแบบสุ่ม และเราไม่สามารถเปลี่ยนเสื้อตัวละครได้เลย งานนี้สายแฟชั่นอาจจะไม่ค่อยปลื้มสักเท่าไหร่ ในเกม FBR
FBR จะสุ่มทั้งชุดและตัวละครในการเล่นแต่ละครั้ง
รูปแบบการเล่นที่แตกต่างระหว่างสองเกม
ใน PUBG เราสามารถเล่นแบบ Stealth ได้มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการแอบในบ้าน การคลานในหญ้าสูง แตกต่างจาก FBR ที่เราไม่สามารถคลานได้ แถมทุ่งหญ้าของเกมนี้ก็โล่งมากๆ ทำให้เราสามารถมองเห็นผู้เล่นได้จากระยะไกลสุดๆ นอกจากนี้ปืนใน FBR ส่วนใหญ่จะเห็นเส้นกระสุนหลังจากยิง ทำให้เราหาได้ง่ายว่าศัตรูยิงมาจากทางไหน มากกว่า PUBG ที่จะต้องเน้นฟังว่าเสียงมาจากไหนเป็นต้น ส่งผลให้ FBR เน้นการยิงปะทะมากกว่าการแอบเนียนๆ แบบ PUBG
PUBG จะเล่นซุ่มได้มากกว่า ต่างจาก FBR ที่สร้างที่หอคอยป้องกันได้เลย
ก็จบกันไปแล้วสำหรับสิ่งที่แตกต่างกันระหว่างเกม PUBG กับ FBR สรุปสั้นๆ ว่าใครชอบแนวการ์ตูนเน้นยิงมากกว่า ไม่ต้องแอบให้เสียเวลาก็น่าจะลอง FBR แต่ถ้าใครอยากเล่นแนว Tatical มากกว่าๆ พร้อมกับอาวุธที่สมจริงก็ต้อง PUBG แน่นอนๆ ว่าแต่เพื่อนๆ คนไหนที่เคยเล่นทั้งสองเกมมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง มาแชร์พูดคุยกันได้นะครับ
Source : Eurogamer
