งบน้อยก็มา! ประกอบคอมพิวเตอร์มือสองในราคาสี่พันกลางๆ เล่นเกมสุดเพลิน

เราได้เห็นการประกอบคอมพ์ในชุดระดับเกมมมิ่งแบบที่ว่าเล่นได้ทุกเกมในราคาหลักหลายหมื่นก็มีแล้ว หรือว่าจะงบในราคาหมื่นกลางๆ สำหรับคนงบพอมีบ้างเล็กน้อยเอาไว้สำหรับเล่นเกมก็มีแล้วเช่นกัน ซึ่งทั้งหมดแล้วล้วนเป็นแต่เครื่องใหม่ๆ กันทั้งนั้น แต่สำหรับในบทความนี้ จะเป็นการประกอบเครื่องเช่นกัน แต่เป็นการประกอบเครื่องคอมพ์มือสอง ซึ่งราคาเพียงแค่สี่พันกลางๆ เท่านั้นเอง!! มันจะเป็นแบบไหนยังไง เรามาดูกันเถอะ

 

ทำไมต้องมือสองล่ะ?

ผมก็เข้าใจนะว่าบางทีคนอยากได้สเปกใหม่ ของใหม่ที่เล่นเกมได้สบายๆ ไหลลื่น แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการเสียเงินที่ต้องจ่ายเงินเต็มจำนวนเพื่อให้ได้มา แต่สำหรับบางคนที่งบมีไม่มากแต่อยากได้เครื่องดีๆ เอาไว้ใช้งานสักหน่อย หรือกลับกันถ้าในงบที่เท่าๆ กันน้องๆ อาจจะได้เครื่องรุ่นใหม่ในรุ่น Core i3 แต่ถ้าเป็นมือสองก็อาจจะได้ Core i5 ในรุ่นที่เก่ากว่าหรือไล่ๆ กันแถมยังได้ประสิทธิภาพดีกว่า ซึ่งแลกมาด้วยประกันที่ลดลงหรืออาจจะไม่มี ทั้งนี้ก็ต้องเลือกเอาล่ะคร้าบ แต่สำหรับผมขอจัดเป็นเซ็ตเล็กๆ สำหรับน้องๆ มือใหม่ที่อยากเล่นในงบแสนประหยัดก็แล้วกันครับ

 

ทำความเข้าใจกันก่อน

สำหรับการประกอบคอมพ์พิวเตอร์มือสอง ขอแนะนำว่าอาจจะต้องใช้ความรู้บ้างในระดับหนึ่งสำหรับการประกอบ รวมถึงกระทั่งการทำความเข้าใจของฮาร์ดแวร์แต่ละตัว ที่สำคัญคือสินค้าทุกชิ้นที่หามามือสองนั้น บางชิ้นส่วนอาจจะยังมีประกันอยู่ บางรายการประกันอาจหมดแล้วหรือไม่มีการรับประกัน ดังนั้นควรตรวจเช็คให้ดี หรือมีการรับประกันสินค้าจากผู้ขายอย่างน้อย 5-7 วัน สำหรับในเรื่องของราคาที่จะถูกหรือแพงนั้น ขึ้นอยู่กับช่วงจังหวะที่เราหาสินค้านั้นได้ด้วยนั่นเองครับ สำหรับแหล่งที่หาส่วนมากผมจะเป็นเว็บขายของมือสองออนไลน์เช่น Overclockzone.com, Kaidee.com และ PDAMobiz.com ประมาณนี้

 

Intel® Pentium® Processor G3220 (3M Cache, 3.00 GHz) ราคามือสองได้มา 800 บาท

นับว่าเป็นความโชคดีของผมที่มาเจอสินค้าดีๆ และยังมีประกันเหลืออย่างน้อย 2 เดือนสำหรับเจ้าซีพียูตัวนี้ เพราะเจ้านี่ราคามือสองทั่วไปอยู่ที่ 1,300 บาท มันก็เลยทำให้ผมได้ซีพียูที่คุ้มค่าในราคาถูกกว่าเกือบครึ่ง ซึ่งเจ้าซีพียูตัวนี้สามารถใช้ประโยชน์จากการเล่นเกม ดูหนังในความละเอียด 4K ไหวอยู่แล้ว เพราะมีกราฟิกการ์ดแยกไว้ทำงานต่างหาก รวมถึงการแต่งภาพอย่าง Photoshop ก็รับได้ไม่ใช่ปัญหาครับ

 

 

Kingston 4GB 1600MHz DDR3 ราคามือสองได้มา 750 บาท

ใจจริงอยากให้มันได้สัก 8GB ไปเลยแต่ดูเงินในกระเป๋าแล้วมันจะทำให้งบเกินไปอยู่ที่ 5,000 บาทก็เป็นได้ ดังนั้นเพื่อการจำกัดงบผมจริงใช้แรมเพียง 4GB เท่านั้นครับซึ่งนั่นก็นับว่าเพียงพอกับการใช้งานและการเล่นเกมในระดับพื้นฐาน แต่ถ้าคิดว่ามีงบเหลือพอก็ให้จัดเป็น 8GB ไปเลยครับ ทั้งนี้ลองให้หาเป็น 4GB x 2 เพื่อให้ทำงานในแบบ Dual Channel ได้ ทั้งนี้ไม่ต้องกลัวว่าเดี๋ยวจะไม่มีสล็อตแรมให้อัพเกรดเพิ่มนะ เพราะเมนบอร์ดนั้นมีสล็อตให้ใส่แรม 4 แถว ได้สบายๆ เลยครับ

 

 

Western Digital WD5000AAKX ความจุ 500 กิ๊กกะไบต์ ราคามือสองได้มา 750 บาท

สำหรับฮาร์ดดิส์ก็ได้ราคาตลาดมือสองทั่วไปเช่นเดียวกับแรม โดยที่เจ้าตัวนี้หมดประกันไปแล้ว แต่การทำงานทุกอย่างยังสามารถทำงานได้อย่างดีครับ จริงๆ แล้วถ้าอยากได้ SSD 120GB มาใส่แทนก็ได้ เพียงเพิ่มงบอีกประมาณ 400 บาท แต่ที่ผมยังเลือกใช้ฮาร์ดดิสก์ก็เพราะว่าตั้งใจโฟกัสเอาพื้นที่เยอะๆ ไว้ลงเกมหลายๆ เกม รวมถึงเอาไว้เก็บข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมครับ แล้วไว้ทีหลังถ้าอยากเร็วขึ้นค่อยซื้อ SSD เพิ่มเอาดีกว่า เพราะในช่วงที่ผมทำบทความและประกอบเจ้าเครื่องนี้ขึ้นมา ราคาของ SSD ขึ้นมาจนแม้แต่มือสองก็ยังไม่ค่อยน่าซื้อ ไว้ใช้พักนึงก่อนแล้วถ้ามีงบอยากแรงใส่ SSD เพิ่มก็ค่อยซื้อเพิ่มเอาทีหลังตอนราคาลดก็ยังไม่สายนะจ๊ะ

 

 

AMD Radeon R5 340X 2GB GDDR3 ราคามือสองได้มา 800 บาท

ด้วยความต้องการที่อยากจะเล่นเกมออนไลน์แบบสบายๆ ไม่หนักมาก และมีงบจำกัด ผมจึงเลือกหยิบเจ้า AMD Radeon R5 340X 2GB GDDR3 มาเป็นตัวเลือกก่อนใครเพื่อน เพราะเป็นกราฟิกตัวที่ค่อนข้างใหม่ ใช้ AMD R5 300 Series ที่ราคาเพียง 800 บาท แถมเจ้าการ์ดตัวนี้เป็นการ์ด OEM แบบ Low Profile ซึ่งเข้าชุดกับตัวเคสที่อยากได้ ทั้งในนี้เรื่องของประสิทธิภาพที่ได้ในการเล่นเกมออนไลน์ไม่ว่าจะเป็น HON, Dota2, LOL, CS:GO, Heroes of the Strom หรือแม้แต่ Overwatch สามารถเล่นได้ในความละเอียดระดับ HD 720p ปรับค่าความละเอียดปานกลางถึงสูง ให้ได้เฟรมเรตเล่นได้ไม่หงุดหงิดลูกกะตา จะดีแค่ไหนเดี๋ยวไปดูผลเทส แต่บอกเลยว่าได้กราฟิกตัวนี้ในราคาแบบนี้ ฟินแล้วล่ะครับท่าน

 

 

HP G800 G1 Series Chassis ราคามือสองได้มา 1,500 บาท

เป็นความโชคดีที่ไม่ได้เจอบ่อยๆ สำหรับของชิ้นนี้ เพราะมันมารวดเดี๋ยวกันเป็นเซ็ต มันคือชุดเคส HP G800 G1 Series ซึ่งไม่ใช่แค่ตัวเคสอย่างเดียว เพราะมันมีทั้งเมนบอร์ด H81 อยู่ด้านใน รองรับ DDR3 ติดตั้งได้ถึง 4 แถวความจุสูงสุด 32GB รวมถึงยังมีฮีตซิงค์เฉพาะของ HP มาให้ในเครื่องด้วย เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีพาวเวอร์ซัพพลายในชุดของตัวเคสขนาด 240 วัตต์ รองรับการจ่ายไฟแบบ 80 Plus ซึ่งถ้าเราติดตั้งการ์ดจอตัวเล็กๆ ก็จ่ายไฟได้เหลือเฟือ แถมตบท้ายด้วย Card Reader และ DVD-RW Drive แบบ Slim มาให้อีก ถ้าเราซื้อแยกชิ้นมาต่างหากมูลค่าของมันอยู่ที่ราวๆ 2,400 บาทเลยล่ะ นอกจากความคุ้มค่าที่ได้จากราคาอันแสนถูกและของแน่นแทบจะครบเครื่อง ผมยังได้ความสดใหม่และความแข็งแรงทนทานของเจ้า HP G800 G1 ตัวนี้ เพราะมันเป็นพีซ๊แบรนด์สำหรับธุรกิจ ซึ่งมีความแข็งแรงและทนทานดีอีกด้วย เพราะกอบกับยังไม่ได้ตกรุ่นมากไปมันจึงเป็นเคสที่ผมได้มาอย่างคุ้มค่าจริงๆ

 

หลังจากที่ได้ของมาทั้งหมด (เว้นแรมหามาได้ที่หลังเลยเอาอันอื่นมาใส่ก่อน) แล้วก็ได้เวลาประกอบร่างรวมเข้าด้วยกัน และนี่คือหน้าตาที่ได้หลังประกอบและทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว 

(หมายเหตุ: ในรูปผมถ่ายใช้แรมของ G.skill เพราะตอนนั้นหาแรมมาได้ทีหลังครับ)

 

สเปกเครื่องมือสอง

ซีพียู: Intel® Pentium® Processor G3220 (3M Cache, 3.00 GHz)

แรม: Kingston 4GB 1600MHz DDR3

ฮาร์ดดิสก์: Western Digital WD5000AAKX ความจุ 500 กิ๊กกะไบต์

การ์ดจอ: AMD Radeon R5 340DX 2GB GDDR3

ฮีตซิงค์: Cooler Master สำหรับ HP G800 G1 Series

เมนบอร์ด: HP G800 G1 Series

พาวเวอร์ ซัพพลาย: HP G800 G1 Series 240 วัตต์

เคส: HP G800 G1 Series

ราคารวมทั้งสิ้น 4,650 บาท

ทั้งนี้ถ้าใครอยากได้จอเพิ่มเติมหากยังไม่มี ซื้อมือหนึ่งในราคาประมาณ 2 พันต้นๆ ก็มีครับ ผมขอแนะนำจอ Viewsonic VA1903A ขนาด 18.5” ความละเอียด 1366×768 พิกเซล ในราคาประมาณ 2,390 บาท สามารถสั่งได้จาก JIB ตามลิงนี้ครับ

 

          เอาล่ะ เมื่อเราได้ของแต่ละชิ้นมาแล้ว เราก็นำมารวมร่างประกอบเครื่องเข้าด้วยกัน และหน้าตาที่ได้ออกมาก็เป็นประมาณนี้ครับ ทั้งนี้เมื่อประกอบเสร็จและรวมร่างแล้วก็ได้เวลาทดสอบ ซึ่งแน่นอนว่าเกมที่เราทดสอบก็เป็นเกมที่ไม่ได้เน้นกราฟิกสูงมากมาย โดยการตั้งค่าหลักเล่นบนความละเอียด 1366×768 พิกเซลและ 1280×720 พิกเซลบ้าง เป็นเกมที่เล่นกันในปัจจุบันครับ เริ่มจาก HON, LOL หรือ DOTA2 เกมยอดฮิตหลักๆ นี้เล่นได้อย่างไรปัญหาเนื่องด้วยความที่ตัวเกมไม่ได้กินสเปกมากอะไร ถัดมายังคงเป็นเกมแนว MOBA อย่าง Heroes of The Storm รอบนี้เราต้องปรับความละเอียดเป็น 720p และตั้งค่ากราฟิกระดับปานกลางก็เล่นได้เฉลี่ย 50-65 fps ทีนี้มาที่ CS:GO กันบ้าง เกมนี้ก็ไม่ได้โฟกัสเรื่องกราฟิกมาก แต่ก็ยังทำได้ดีซึ่งมีเฟรมเรทราวๆ 60fps

          ท้ายสุดกับ Overwatch ผมปรับเป็น 720p ปรับความละเอียดต่ำ และ render ที่ 75% เพื่อให้ได้เฟรมเรตเฉลี่ย 45-65 fps ซึ่งก็นับว่าเล่นเอาสนุกได้เช่นกัน ด้วยงบประมาณที่มีจำกัดแบบนี้ แต่ผลของการประกอบเครื่องมือสองที่ออกมานั้นก็แสดงให้เห็นว่ามันสามารถทำงานได้ดีทั้งในการทำงานทั่วไป ดูหนังแบบ 4K ได้ หรือว่าจะเอาไว้เล่นเกมบนความละเอียดปานกลางหรือต่ำบ้างสำหรับเกมสูงๆ ก็ทำได้ดีด้วยเช่นกัน นับว่าคุ้มค่าแล้วล่ะครับ สำหรับครั้งถัดไปถ้าสนใจอยากให้มีบทความแนวนี้อีก ทางผมขอช่วยคอมเมนต์มาให้ด้วยนะครับ จะพยายามจัดมาให้ได้ชมกันเรื่อยๆ คร้าบ ตอนนี้ขอเอาเครื่องไปส่งต่อให้ชาโม่คุงก่อน เพราะอยากจะเอาของผมไปเล่นแล้วซะงั้น+++

 

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้