ประเภท: ACTION ADVENTURE
ผู้พัฒนา: TRAVELLER’S TALES
ผู้ผลิต: DISNEY INTERACTIVE STUDIOS
ผู้จัดจำหน่าย: C-PLUS
เครื่องที่ต้องการ: P4 1.5GHz CPU, 1GB RAM, 256MB 3D CARD
เครื่องที่แนะนำ: DUAL CORE CPU, 1.5GB RAM, 512MB 3D CARD
จำนวนผู้เล่นสูงสุด: 2
ESRB RATING: T
เป็นที่น่าเสียดายที่ Traveller’s Tales ค่ายเกมที่สามารถจับเอาสินค้าลิขสิทธิ์มาทำเป็นเกมดีๆ อย่าง LEGO Star Wars ให้เราได้เล่นกันกลับไม่สามารถทำให้ The Chronicles of Narnia: Prince Caspian ออกมาเป็นเกมที่มาตรฐานเดียวกับเกมที่สร้างชื่อให้กับพวกเขา… แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า Prince Caspian เป็นเกมที่ไม่ดีนะ เพราะจริงๆ แล้วมันดีกว่าเกมที่ทำจากภาพยนตร์ทั่วไปมากนัก เพียงแต่มันยังไม่ถึงระดับที่เราคาดหวังจาก Traveller’s Tales เท่านั้นเอง
เริ่มต้นมาคุณก็ต้องต่อสู้เพื่อปกป้องปราสาทอย่างดุเดือดแล้ว
Prince Caspian มีเนื้อหาตามนิยายสำหรับเด็กเล่มที่สองของ C.S. Lewis แถมยังมีการเสริมเนื้อหาพิเศษเข้าไปอีกเล็กน้อยเพื่อเชื่อมต่อช่วงเวลา 1,300 ปีที่เหล่าฮีโร่น้อยๆ ของเราได้หายตัวไปจาก Narnia ในภาคแรก ในช่วงเวลาระหว่างภาคแรกกับภาคสอง Narnia โดนพวก Telmarine ยึดครอง สัตว์ที่พูดได้ต่างถูกขับไล่กลับเข้าป่า คุณจะได้สวมบทบาทควบคุมตัวละครกว่า 20 ตัวจากภาพยนตร์เพื่อกระชาก King Miraz ลงจากบัลลังก์
คุณจะต้องผจญภัยผ่านฉากอันสวยงามหลากหลายซึ่งตรงกับภาพยนตร์ทั้งหมด 6 ฉาก (ซากปราสาท Caer Paravel, ปราสาทของ Miraz และสมรภูมิ Beruna) การออกแบบฉากเหล่านี้ใช้สีสันที่ฉูดฉาด การให้แสงเงาที่สวยงาม ส่วนเสียงก็คุณภาพเยี่ยม (ซึ่งก็สมควรจะเป็นเช่นนั้นเพราะเป็นเกมที่ทำมาจากภาพยนตร์… เพียงแต่ภาพยนตร์คั่นฉากที่ตัดเอามาจากภาพยนตร์โดยตรงนั้นคุณภาพความคมชัดไม่ค่อยดีเท่าที่ควร)
ในฉากนี้คุณจะต้องเคลียร์พื้นที่เพื่อให้กริฟฟอนสามารถลงจอดได้
โดยรูปแบบการเล่นของ Prince Caspian นั้นแม้จะซ้ำซากจำเจไปบ้าง แต่ปริศนาในเกมนั้นก็มีความหลากหลายพอที่จะมาช่วยให้เรามีอะไรอย่างอื่นทำนอกเหนือจากการระดมกดปุ่มฟาดฟันศัตรู (ตัวละครแต่ละตัวจะมีการโจมตีที่ต่างกัน นอกจากนั้นยังมีความสามารถพิเศษไม่เหมือนกัน บางคนปีนเชือกโรยตัวได้ บางคนมุดรูเล็กๆ ได้ ซึ่งคุณจะต้องเปลี่ยนสับไปสับมาเพื่อแก้ไขปริศนาต่างๆ) แต่ก็ใช่ว่าการลุยแหลกของพลพรรคฮีโร่ของเราจะไม่มีจังหวะน่าประทับใจ การขี่หลังยักษ์ทำลายเครื่องยิงลูกหิน หรือใช้ท่อนไม้ฟาดพวก Telmarine กระเด็นทีละหลายๆ คนก็เป็นประสบการณ์ที่สะใจดีไม่ใช่น้อย
แม้ว่าส่วนของการต่อสู้ที่ซ้ำซากเล็กน้อยจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่สิ่งที่ขาดหายไปคือปัจจัยที่ทำให้ผู้เล่นมีความรู้สึกว่ามีส่วนร่วมกับเกม (นอกเหนือจากเป็นหุ่นยนต์ปั๊มปุ่ม) มันไม่มีการอัพเกรดความสามารถตัวละคร ไม่มีการเปลี่ยนอาวุธหรือชุดเกราะ (แม้จะมีอาวุธเรืองแสงที่มีพลังพิเศษบางชิ้นให้เก็บ) เมื่อผู้เล่นไม่รู้สึกมีส่วนร่วม ความซ้ำซากของการต่อสู้จึงเด่นชัดและน่าเบื่อมากขึ้นในช่วงท้ายเกม ส่วนเจ้าพวกกุญแจที่เก็บไปเพื่อปลดล็อกภาพอาร์ต วิดีโอ หรือมินิเกมนั้นอย่านับเลยเพราะมันไม่ค่อยท้าทาย (แค่ฉากแรกก็เก็บได้พอที่จะปลดล็อกภาพจนครบแล้ว)
ปาร์ตี้ของเหล่าฮีโร่ของเรานั้นจะมีสี่คน โดยคุณจะควบคุมฮีโร่เพียงคนเดียว (สับเปลี่ยนเป็นฮีโร่คนอื่นได้) โดย Prince Caspian จะเปิดโอกาสให้เพื่อนของคุณอีกคนหนึ่งกระโดดเข้ามาเล่นด้วยได้… เพียงแต่มันไม่ใช่เกมออนไลน์ ซึ่งหมายความว่าคุณกับเพื่อนของคุณต้องแชร์คีย์บอร์ดกัน ทำให้ประสบการณ์ “ช่วยกันเล่น” กลายเป็น “ขัดขวางกันเล่น” ไปซะ
จุดเด่นของ The Chronicles of Narnia: Prince Caspian คือฉากสงครามที่ยิ่งใหญ่…
แต่ฉากแบบนี้อาจจะกินสเป็กเล็กน้อยนะ
แม้ว่าฉากสมรภูมิใหญ่ๆ จะเป็นฉากจุดเด่นสำหรับ Prince Caspian แต่มันก็เป็นจุดด้อยของมันในเรื่องของฮาร์ดแวร์ด้วยเช่นกัน เพราะแม้ว่าฉากทั่วๆ ไปจะไม่มีปัญหาบนเครื่องระดับปานกลาง แต่พอถึงฉากสมรภูมิที่มีตัวละครวิ่งกันทั่วฉากแล้วเกมก็มีอาการกระตุกให้เห็นเหมือนกัน
การผจญภัยยาว 6-8 ชั่วโมงนั้นจะเป็นไปตามเนื้อเรื่องของภาพยนตร์ ซึ่งก็เป็นเสมือนการเตือนว่า The Chronicles of Narnia: Prince Caspian เป็นเกมที่ทำมาจากภาพยนตร์ที่ทำมาจากนิทานสำหรับเยาวชน ดังนั้นกลุ่มเป้าหมายของเกมนี้คือเด็กๆ เราคงจะบ่นอะไรมากไม่ได้เกี่ยวกับรูปแบบการเล่นง่ายๆ ไม่ซับซ้อน และมันก็เป็นเกมที่เหมาะกับแฟนๆ ภาพยนตร์ คุณภาพเกมก็เหนือว่าเกมที่ทำจากภาพยนตร์ทั่วไป เพียงแต่ว่ามันไม่ใช่เกมที่นำเสนออะไรนอกเหนือไปจากนั้นเท่านั้นเอง
ใครอยากเล่นขี่ยักษ์ส่งเมืองบ้าง?
เนื้อหาจากภาพยนตร์แฟนตาซีดีในระดับหนึ่ง, มีปริศนาน่าสนใจมาคอยคั่น, กราฟิกสีสันสดใสสวยงาม แต่มีรูปแบบการเล่นที่พื้นๆ เกินไป, การผสมผสานเนื้อเรื่องเข้ากับเกมทำได้สับสนดูราวกับไร้การใส่ใจ, มุมกล้องไม่เอื้อประโยชน์กับผู้เล่น The Chronicles of Narnia: Prince Caspian จึงเป็นเกมจากภาพยนตร์ที่มีคุณภาพกว่าเกมแนวเดียวกันอีกหลายๆ เกม เหมาะกับแฟนๆ Narnia แต่ไม่เหมาะกับคนที่หาเกมที่มีความลุ่มลึก