รีวิว Mafia: Definitive Edition ย้อนร้อยสงครามมาเฟียที่น่าเล่นกว่าเดิม

ต้องขอบอกก่อนว่า Mafia: Definitive Edition นั้นเป็นการนำเอาเกม Mafia กลับมาทำใหม่อีกครั้ง โดยเสริมในส่วนของภารกิจใหม่บางส่วน มีตัวละครใหม่เพิ่มเข้ามา และที่สำคัญตัวเกมได้มีการปรับปรุงเกมเพลย์และยกระดับระบบกราฟิกให้ทันสมัย สวยงามสมจริงมากยิ่งขึ้น ซึ่งในวันนี้ทางทีมงาน Online Station จะมารีวิว Mafia: Definitive Edition ว่ามีจุดเด่นตรงไหน น่าซื้อหามาเล่นหรือป่าว ถ้าพร้อมแล้วไปดูรายละเอียดพร้อมกันครับ

ตีความเนื้อเรื่องใหม่ แต่จุดหมายคงเดิม

ภายในเกม Mafia: Definitive Edition จะนำเสนอเนื้อเรื่องผ่านตัวละครหลักอย่าง Tommy Angelo ที่โดนโชคชะตาเล่นตลก จากเดิมที่มีอาชีพเป็นคนขับรถเเท็กซี่กลับกลายเป็นสมาชิกมาเฟียตระกูล Salieri ซึ่งต้องขอชมทีมงาน Hangar 13 ที่ออกแบบและวางพล็อตเรื่องได้กระชับ ภายในเกมเราจะได้เห็นความสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ ของตัวละครที่ลุ่มลึก แต่เสียดายตรงที่เนื้อเรื่องภายในเกมนั้นสั้นไปหน่อย โดยส่วนตัวคิดว่าทางผู้พัฒนาน่าจะเพิ่มรายละเอียดเนื้อหาภายในเกมให้มากกว่านี้

เกมพลย์แม้ไม่โดดเด่น แต่เล่นสนุก

Mafia: Definitive Edition จะมีระบบการเล่นที่เป็นแบบโลกเปิดที่ยังยึดกับโครงเรื่องเดิมในภาคต้นฉบับ มีภารกิจให้เลือกทำ บางภารกิจก็มีเนื้อหาที่ยอดเยี่ยม มีหลากหลายวิธีในการทำให้สำเร็จ เรียกว่าใส่รายละเอียดมากขึ้น เช่น ในฉากที่จำเป็นต้องหนีจากการไล่ล่าของศัตรู แน่นอนว่าเราจำเป็นต้องวิ่งหน้าตั้งเหมือนเดิม แต่ใน Mafia: Definitive Edition จะมีให้เราได้ป่ายปีนกำแพงหรืออาคารบ้านเรือนได้อีกด้วย

กระนั้นภารกิจส่วนใหญ่ภายในเกมจะเน้นไปที่ฉากการขับรถไล่ล่าเหล่าแก็งค์มาเฟียคู่อริ ซึ่งแรกๆ มันก็ดูน่าตื่นตา ตื่นใจ แต่พอหลังๆ ไป มันก็รู้สึกว่ามันซ้ำและไร้ซึ่งความท้าทายไปซะงั้น เสียดายน่าจะมีภารกิจหรือกิจกรรมสนุกๆ ให้ได้เล่นบ้าง ส่วนระบบการเล็ง การย่อคลาน หลบหลังกำแพงบังกระสุน ระบบต่างๆ เหล่านี้ยังคงทำได้ออกมากลางๆ ไม่ได้โดดเด่นหรือมีระบบอะไรที่แปลกใหม่แตกต่างจากเกมอื่นๆ มากนัก

แต่ถ้าหากใครที่ต้องการความท้าทายแนะนำว่าให้ลองเล่นในโหมด Classic ซึ่งจะเป็นการเล่นเกมที่สมจริงมากๆ การบังคับรถค่อนข้างยาก ฉากการดวลปืนที่อันตราย ถ้าถูกยิงจะเสียเลือดอย่างรวดเร็ว และฟื้นฟูเลือดให้กลับมาเหมือนเดิมก็ช้ามากบางทีตัวละครของเราอาจจะตายได้ง่ายกว่าที่คิด เรียกว่าเป็นโหมดสำหรับเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ก็คงไม่ผิดนัก

ระบบการขับรถภายในเกมถูกปรับปรุงให้มีการขับขี่ที่ง่ายกว่าเดิม ทำให้เราสามารถเดินทางท่องไปในเมือง Lost Heaven ที่กว้างใหญ่ได้อย่างมีอิสระ และที่ง่ายกว่านั้นคือตอนถึงทางแยกหรือทางเลี้ยวโค้ง ตัวเกมจะมีคล้ายๆ ป้ายบอกเส้นทางและคำนวณการใช้ความเร็วบอกเอาไว้ด้วย แน่นอนว่าหากอยากให้มีการขับขี่ที่สมจริงก็สามารถยกเลิกระบบนี้ได้เช่นกัน รถในภาคนี้ก็มีมากมายหลากหลายรูปแบบและที่สำคัญในภาคนี้ยังมีมอเตอร์ไซต์สุดคูลเพิ่มเข้ามาให้ผู้เล่นได้ลองขับขี่กินลม ชมวิวอีกด้วย

ยกเครื่องระบบกราฟิกให้สวยงามไปอีกขั้น

ต้องขอชมว่าภายในเมือง Lost Heaven นั้นดูมีชีวิตชีวามากกว่าเดิม ผู้คนที่เดินตามทางเท้า อาคารสถานที่ยุค 1930 สุดคลาสสิคที่มีเอกลักษณ์ ทั้งนี้คงต้องขอบคุณสุดยอดเอนจิ้นที่ต่อยอดมาจาก Mafia III ตัวละครและเหล่า NPC ภายในเกมมีการเคลื่อนไหวได้สมจริงกว่าเดิมมากๆ รายละเอียด แสง เงาต่างๆ ภายในเกมถูกออกแบบมาได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ว่าสเป็คเครื่องคอมพิวเตอร์ของเพื่อนๆ จะไม่แรงแต่ก็สามารถเล่นเกม Mafia: Definitive Edition ได้อย่างไหลลื่นแน่นอน อันนี้ผมถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของเกมเลยทีเดียวครับ

เพลงบรรเลงสุดคลาสสิค

อีกหนึ่งอย่างภายในเกม Mafia: Definitive Edition ที่ผมรู้สึกชอบคงหนีไม่พ้นในเรื่องเพลงบรรเลงประกอบเกม ซึ่งมันเป็นเพลงเก่าในยุค 1930 ออกแนว Jazz ยิ่งเวลาขับรถแล้วเปิดเพลงฟังไปด้วยนี่ถึงกับฟินเอามากๆ และถ้าหากบรรยากาศเป็นแบบชานเมือง เห็นภูเขาและต้นไม้สีเขียวชอุ่มบอกเลยว่าโดนใจมากๆ แนะนำให้ลองเล่นในโหมด Free Ride ครับ

สรุปรวมความ

Mafia: Definitive Edition นั้นแม้จะอ้างอิงเนื้อเรื่องเกมดั่งเดิม แต่สิ่งที่โดดเด่นอย่างเห็นได้ชัดคงหนีไม่พ้นในเรื่องของระบบกราฟิกที่สวยงาม สมจริงยิ่งกว่าเดิม ความกว้างใหญ่ของเมือง Lost Heaven ที่เต็มไปด้วยรายละเอียด มันช่วยให้เมืองนี้ดูมีชีวิตชีวา ถึงแม้ว่าเกมเพลย์โดยรวมจะไม่ได้โดดเด่น เนื้อเรื่องสั้นเกินไปหน่อย ภารกิจไล่ล่าซ้ำเดิม

แต่โดยรวมแล้ว Mafia: Definitive Edition ถือเป็นอีกหนึ่งเกมที่เหล่าแฟนๆ เกมในซีรีส์ Mafia ต้องหามาลองเล่น ส่วนเกมเมอร์คนไหนที่ต้องการรับประสบการณ์หรือเรื่องราวการต่อสู้ของเหล่าแก๊งค์มาเฟียในยุค 1930 สุดคลาสสิคก็ไม่ควรพลาดเกมนี้เช่นกัน ด้วยราคาเพียง 969 บาทบน Steam ก็น่าจะกดมาเป็นเจ้าของได้ไม่ยากครับ