ความรู้สึกแรกหลังได้สัมผัส Assassin’s Creed: Valhalla และ Watch Dogs Legion รอชมฟุตเทจเต็ม 13 กรกฎาคมนี้!
ความรู้สึกแรกหลังได้สัมผัส Assassin’s Creed: Valhalla และ Watch Dogs Legion รอชมฟุตเทจเต็ม 13 กรกฎาคมนี้! – เมื่อช่วงต้นอาทิตย์ก่อนราวๆ วันที่ 30 มิถุนายน – 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ต้องบอกว่าเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่ดีของชีวิตผมจริงๆ ที่ได้รับเกียรติเข้าร่วมอีเวนต์หนึ่งของ Ubisoft ในฐานะสื่อฯ จาก Online Station โดยอีเวนต์ที่ว่านี้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของงาน Ubisoft Forward งานเกมคอนเฟอร์เรนซ์ครั้งใหญ่ประจำปีจากทาง Ubisoft ซึ่งปกติแล้วทุกๆ ปีจะถูกจัดขึ้นภายในงาน E3 แต่ด้วยสถานการณ์ของปีนี้อย่างที่รู้ๆ กันทำให้งาน Ubisoft Forward 2020 ต้องถูกปรับมาเป็นรูปแบบออนไลน์ โดยตัวงานคอนเฟอร์เรนซ์หลักๆ สามารถรับชมได้ในวันที่ 13 กรกฎาคมเวลาประมาณ 2.00 น. (และแน่นอนว่า Online Station ของเรามีไลฟ์ด้วย อย่าลืมมาดูเป็นเพื่อนกันล่ะ) ขณะที่งานที่ผมเข้าร่วมนั้นเป็นเซสชั่นย่อยที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาใหม่จากทาง Ubisoft โดยเป็นการเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ร่วมทดสอบ 2 เกมใหม่ของพวกเขา
อีเวนต์นี้ถูกเรียกว่า Capture Event ครับ โดยทาง Ubisoft จะแอคเซสให้เราทำการรีโมทเพลย์เข้าทดสอบเดโมเกมพวกเขาโดยตรง ซึ่งในตอนแรกหลังคนของ Ubisoft พารีโมทเพลย์เข้าไป ผมยังคงมีความกังวลอยู่บ้างว่าคุณภาพการเชื่อมต่อจะเป็นอย่างไร หรือเราจะสามารถเล่นเกมได้ลื่นและเข้าถึงอรรถรสได้มากน้อยขนาดไหน ต่อเมื่อเวลาผ่านไป ผมก็ค่อยๆ ข้างคลายกังวลลงเรื่อยๆ จนสามารถมีสมาธิกับการเล่นเกมได้ในที่สุด เพราะคุณภาพโดยรวมของมันคือทำงานได้ดี ในแง่ของการเล่นเกมก็ไม่มีติดขัดใดๆ จะว่าไปหากระบบนี้ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและสามารถรองรับผู้ใช้งานระดับแมสได้ จะเป็นการปลดล็อคอะไรหลายๆ อย่างเลยครับ เพราะอย่างที่บอกว่าคุณแค่มีไอเทมไม่กี่อย่างก็เล่นเกมได้แล้ว จะว่าไปคอนเซปต์ของมันก็ดูจะคล้ายๆ ผลิตภัณฑ์จากอีกเจ้า ซึ่งตอนยังไม่รู้จักมักจี่มันมากนักก็ยังนึกไม่ออกว่ามันทำงานยังไง แต่พอได้ลองกับตัวจึงค่อยรู้สึกว่าเทคโนโลยีนี้จัดว่าน่าสนใจกว่าที่คิด
อีเวนต์เดโมรีโมทเพลย์ของ Ubisoft นี้มีระยะเวลา 2 วัน แต่ละวันก็จะมีพีเรียดจำกัดอยู่อีกประมาณหนึ่ง ซึ่ง 2 วันนี้ผมได้ทดสอบทั้งหมด 2 เกม วันแรกเป็น Assassin’s Creed: Valhalla และวันที่ 2 เป็น Watch Dogs Legion ทั้งคู่ถือเป็นงานระดับ “หวังผล” ไม่ว่าจะในแง่คุณภาพหรือเม็ดเงินหลังการขาย เพราะเป็นเกมในกลุ่ม IP ใหญ่ที่สุดของค่าย ดังนั้นแล้วปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผมค่อนข้างจะตื่นเต้นมากๆ กับงานครั้งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะแฟน Assassin’s Creed คนหนึ่งก็ยิ่งเนื้อเต้นเป็นพิเศษ
ในส่วนของ Assassin’s Creed ผมได้ทดสอบไปราวๆ 2 ชั่วโมงนิดๆ ในภาพรวมต้องบอกว่ามีความแตกต่างทางบรรยากาศพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนำไปเทียบกับภาคล่าสุดอย่าง Odyssey แทบจะคนละเรื่องเลยดีกว่า อย่างไรก็ดีในแง่ระบบการต่อสู้ก็อย่างข่าวที่ออกๆ มาครับคือระบบจาก 2 ภาคล่าสุดได้ถูกนำมาต่อยอดให้มีความรู้สึกว่ามันท้าทายขึ้นมาก หรือความจริงมันอาจจะเป็นผมที่อ่อนเองก็ได้เพราะไม่แตะซีรี่ส์นี้มาเป็นปีมีลืมคอนโทรลแบบดุษดี คือลืมจัดลืมจริงไม่ติงนังครับ โชว์กากโชว์กาวให้คนคุมเทสต์ได้หัวเราะแห้งๆ อยู่เนืองๆ ฮา~
ขณะที่วันถัดมาผมได้ทดสอบ Watch Dogs Legion ครับ แม้ผมจะไม่ใช่แฟนเกมซีรีส์นี้แบบตัวยง แต่คงต้องบอกว่ารู้สึกสนใจภาคนี้เป็นพิเศษเนื่องจากคอนเซ็ปต์ที่เราสามารถเล่นเป็นใครก็ได้นี่แหละ ซึ่งหลังจากได้ทดสอบไปกว่า 3 ชั่วโมงเต็มๆ ก็ค่อนข้างว้าวในความวาไรตี้ของอาชีพและวิธีการเล่นซึ่งจะแตกต่างกันไป แม้ว่าผมจะโชว์กากอย่างต่อเนื่อง หาความเดือดร้อนมาให้ตัวเองรัวๆ แต่ผมรู้ตัวเลยว่าถ้าได้ใช้เวลากับมันจนช่ำกว่านี้ ผมจะสนุกกับมันได้อย่างแน่นอนครับ แค่ได้สร้างทีมจารชนในแบบฉบับของตัวเองก็เป็นอะไรที่ชวนตื่นเต้นไม่น้อยแล้ว!
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมยังคงไม่อาจพูดอะไรได้มากเกี่ยวกับทั้ง 2 เกม “ในเวลานี้” แต่เพื่อนๆ พี่ๆ สามารถรอดูฟุตเทจเกมเพลย์การเล่นจริงเจ็บจริงแต่ไม่เก่งจริงของผมได้ในวันที่ 13 กรกฎาคมในเวลาราวๆ ตี 2.45 หลังจากจบงาน Ubisoft Forward ซึ่งทาง Online Station ของเราก็จะไลฟ์ไปด้วย และจากนั้นก็จะปล่อยฟุตเทจเดโมที่ผมได้เล่นไว้ให้ได้ชมกันอย่างต่อเนื่องทันทีครับ เรียกว่าดูกันไปพร้อมๆ กันนี่แหละ ถ้าไม่เช้าคือเราไม่นอน!
ยํ้ากันอีกครั้งว่างาน Ubisoft Forward จะเริ่มขึ้นในเวลาราวๆ ตี 2 ของวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ครับ ซึ่งงานนี้ก็จะมีการอัพเดตข่าวคราวเกมต่างๆ รวมถึงประกาศเปิดตัวเกมใหม่ๆ จากทาง Ubisoft มากมาย รวมถึงโชว์เกมเพลย์ฟุตเทจ Assassin’s Creed และ Watch Dogs Legion จากทาง Online Station เราหลังจากงานจบอีกด้วยครับ พลาดไม่ได้จริงๆ นะเออ!
