Mount & Blade II: Bannerlord – 10 ชั่วโมงแรกของ 10 ปีที่รอคอย
Mount & Blade เป็นเกมที่ม้ามืดมากๆ เมื่อสักราวๆ ทศวรรษที่แล้วด้วยความที่รวมเอา Genre จากหลายๆ เกมมาไว้ในเกมเดียว กลายเป็นเกมที่เราไม่รู้ว่าจะบัญญัติแนวของมันว่าอย่างไรดี อธิบายอย่างง่ายๆ คือมันเป็นเกมที่ในยุคกลางที่ให้เราสร้างเนื้อสร้างตัวตั้งแต่ศูนย์ จากนั้นคือความอิสระที่ผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะดำเนินชีวิตไปตามครรลอง ทำตัวอยู่ในกฎหมาย เลือกเจ้านายเพื่อรับใช้รอวันเป็นใหญ่เป็นโต หรือจะเลือกเป็นอาชญากร เข้าสู่ด้านมืด ปล้นฆ่าชาวบ้านหรือทหารตั้งแต่แรกเลยก็ได้ เหล่านี้เป็นเพียงส่วนเล็กส่วนน้อยจากรายละเอียดที่มากมายของเกม จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือชิ้นงานที่เกิดขึ้นจากทีมสร้างเล็กๆ อย่าง TaleWorlds Entertainment เท่านั้น
ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครและหาใครเหมือนไม่ได้ทำให้เกมได้รับความนิยมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะกับคอสงครามหรือประวัติศาสตร์ยุโรปยุคกลาง ที่แม้เกมจะใช้โลกสมมติ แถมกราฟิกก็ยังตกยุคในสมัยนั้น ก็ยังไม่อาจลดทอนรสชาติอันแสนกลมกล่อมเข้มข้นที่หาได้เพียงเกมนี้เท่านั้น วันนี้ Mount & Blade II: Bannerlord ภาคต่อของ Mount & Blade: Warband ที่แฟนๆ อดรนทนเฝ้ารอคอยมาเกือบ 10 ปีก็ได้เปิดให้่เล่นแล้ว ถึงจะยังไม่เปิดขายเต็มตัวและเป็น Early Access อยู่ก็ตาม
แต่แฟนๆ ที่ไหนจะสนกันล่ะ? แม้จะรู้ว่าต้องเจอปัญหาทางเทคนิครวมถึงคอนเทนต์ต่างๆ ที่อาจจะยังไม่ครบ ทว่าพวกเขาต่างก็พาเหรดกันถล่มเซิร์ฟเวอร์ Steam กันอย่างไม่มีรีรอ และตัวเลขสถิติออนไลน์เกมนี้เกือบ 2 แสนคนพร้อมกันก็ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลย ผมเองแม้ไม่ใช่แฟนเดนตายขนาดนั้นแต่ก็ประทับใจภาค Warband อยู่มาก ยังทนไม่ไหวขอรูดบัตรจัดมาลองในช่วงที่ต้อง Work from Home กันหน่อย ซึ่งหลังจากลองเล่นไป 10 กว่าชั่วโมง… อาจยังไม่ถึงกับรีวิว แต่นี่คือความเห็นของผมที่มีต่อเกมนี้รวมถึงสิ่งที่ประทับใจครับ
เลือกปูมหลังกำหนดค่าสเตตัสเริ่มต้น
ผมจำไม่ได้ว่าภาคแรกๆ ลึกประมาณนี้ไหมหรือหลังๆ ไปจะมีผลอะไรมากขึ้นรึเปล่า แต่ก็ยอมรับว่าค่อนข้างว้าวกับตอนสร้างตัวละครเล็กน้อยครับ คือในแง่การปรับรูปร่างทางกายภาพมันอาจไม่ได้หลากหลายนัก แต่ตอนให้เลือกปูมหลังเพื่อกำหนดค่าพลังเริ่มต้นเนี่ย ผมว่ามันเพิ่มความอินได้ประมาณหนึ่งเลยล่ะ คือมันจะเริ่มจากการให้เราเลือกชาติกำเนิดก่อน จากนั้นก็เลือกเพศปรับหน้าตา กำหนดว่าคุณเป็นลูกของครอบครัวแบบไหน วัยเด็กเป็นอย่างไร โตขึ้นมาทำอะไร สมัยวัยรุ่นเคยทำอะไรมาบ้าง แล้วเคยทำงานอะไรมาก่อน แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะมีจุดบรรจบที่คล้ายๆ กันคือครอบครัวคุณตายกันหมด เพื่อจะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้เลือกทางเดินชีวิตเองในตอนเริ่มเกมกันแบบไม่ต้องรอนาน
อิสระเสรีที่ก็ยังคงไม่เป็นมิตรกับมือใหม่นัก
เมื่อคุณสร้างตัวละครเสร็จ ก็จะเจอ Tutorial ที่จะสอนระบบหลักๆ อย่างการใช้อาวุธ หรือการต่อสู้ รวมไปถึงยกพวกถล่มรังโจร และการรับเควสต์อยู่ครู่หนึ่ง แล้วจากนั้นก็จะปล่อยคุณไว้กับโลกอันไพศาลใบนี้ สำหรับมือเก๋าหรือคนที่เคยผ่านมือภาคแรกมาบ้างก็อาจจะใช้เวลาไม่นานนักในการทำความเข้าใจ เพราะเอาจริงๆ UI รวมถึงระบบพื้นฐานต่างๆ ก็ยังคงคล้ายๆ ภาคก่อนหน้าอยู่ ปรับตัวไม่เยอะครับ แต่กับมือใหม่นี่น่าจะต้องใช้เวลาพอสมควรในการเรียนรู้รายละเอียดต่างๆ และลองผิดลองถูก เพราะถ้าให้พูดจริงๆ ก็คือ Tutorial เกมนี้ค่อนข้างผิวเผินมากๆ
สงครามที่สวยงามขึ้นและยังคงเน้นจังหวะเช่นเคย
หนึ่งในไฮไลต์ของเกมคือการยกสมัครพรรคพวกเข้าโรมรันพันตูกันในสงครามใหญ่ครับ ภาคนี้รองรับได้สูงสุด 1,000 ยูนิตต่อสนามรบ บอกเลยว่าเครื่องผมไม่ไหว ยิ่งฉากตีปราสาทแล้วทหารเกือบพันนี่คือกระตุกจนเกือบเล่นไม่ได้เลย ซึ่งคุณสามารถลดสเกลสงครามลงได้เพื่อไม่ไห้เครื่องน็อคไปซะก่อน แต่เพื่อความอลังบนจอมินิเตอร์ผมยอมกัดฟัน ฮ่า~ แรกๆ ก็เช่นเคยว่าคุณอาจจะง่วนกับการปราบแก็งค์โจรเล็กๆ ตามรายทาง กระทั่งคุณเริ่มตั้งตัวได้ มีทหารติดตามมากขึ้น หรือไปปวรณาตัวรับใช้ใครแล้วเข้าร่วมกองทัพไปด้วย เมื่อนั้นก็จะพบกับอีกหนึ่งความบันเทิงของเกมที่พลาดไม่ได้ครับ
แต่อันที่จริงการรบในสงครามใหญ่ๆ มีพวกเยอะๆ อาจไม่ใช่เรื่องยากนัก โดยเฉพาะถ้ากองทัพของคุณกรำศึกมานานจนกลายเป็นทหารแกร่งกันหมดแล้ว แต่ผมมักจะเจอปัญหาเมื่อต้องทำเควสต์สงครามแก็งค์หรือเข้าดวลใน Arena มากกว่า ด้วยความที่มันมีโอกาสต้องดวลกันสูงมาก ซึ่งต้องอาศัยการควบคุมที่แม่นยำ และต้องมีสติมากๆ เพราะเมื่อต้องดวลกับ AI คุณมีโอกาสนอนได้ทุกเมื่อครับ ถึงแม้โมชั่นการต่อสู้จะดูก๋องแก๋งไปหน่อย (เป็นมาทุกภาค) แต่ก็เป็นเกมหนึ่งที่ต้องใช้สกิลการควบคุมพอสมควรเลย นี่ยังไม่นับเมื่อคุณต้องกลายเป็นคนคุมกองทัพใหญ่ก็ต้องเรียนรู้คำสั่งให้มากขึ้น ลงลึกมาโครมากขึ้น เพื่อการรบที่มีประสิทธิภาพสูงสุดอีกนะ เลิร์นนิ่งเคิร์ฟอย่างกว้างของจริงครับเกมนี้
เมื่อเป็น Early Access ก็ต้องเจอปัญหา
แม้ว่าจะทำใจเรื่องเจอปัญหาทางเทคนิคมาบ้าง แต่พอเจอเข้าจริงๆ แล้วก็แอบรู้สึกว่าบ่อยไปเหมือนกัน อย่างแรกคือดูเหมือนว่าเกมยัง Optimized ไม่ดีสักเท่าไหร่ กราฟิกประมาณนี้แต่กินเครื่องหนักใช้ได้เลย เล่นได้แบบแค่พอลื่น ไม่ใช่ลื่นปรื้ด แต่ปัญหาใหญ่ที่สุดเลยคือเกม Crash บ่อยมาก ส่วนใหญ่จะเจอเวลาเปลี่ยนฉาก หรือหน้าโหลด และแทบทุกครั้งแม้จะโหลดเซฟก่อนหน้ามาลองแต่ก็จะไปติดที่เดิมอยู่ดี หลายๆ ครั้งเลยต้องรอให้เวลาผ่านไปสักระยะ หรือหากมันเกิดขึ้นกับการทำเควสต์ก็มีต้องโยนทิ้งเควสต์นั้นๆ ไปเลยก็มีเพราะจากเกม Crash ผ่านไม่ได้นี่แหละ ก็ได้แต่หวังว่าของจริงจะได้รับการแก้ไขจนเหลือน้อยที่สุดนะครับ
หนี Covid ไปเป็นรากหญ้าสู้ชีวิตในต่างโลก
ผมพูดจริงๆ ว่าเจอเกม Crash บ่อยมากจนต้องเซฟรัวๆ ตลอดการเล่น แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่อาจหยุดเล่น Mount & Blade II: Bannerlord ได้เลย มันอาจเป็นเพราะว่าไม่ได้สัมผัสกับเกมที่มีรสชาติประมาณนี้มานาน อีกอย่างคือมันเป็นเกมที่ต้องใช้เวลา เมื่อคุณเล่นไปประมาณ 5 ชั่วโมง คุณอาจจะคิดว่าเริ่มรู้จักเกมนี้ดีแล้ว แต่เปล่าเลย เพราะเมื่อเล่นต่อไปอีกสักพักคุณจะพบว่ายังมีอีกหลายอย่างมากๆ ให้ลองหรือเรียนรู้ชีวิตของการไต่เต้าจากรากหญ้าไปสู่ชนชั้นศักดินา หรือกระทั่งว่าตั้งอาณาจักรภายใต้นามของคุณเอง หากคุณชื่นชอบบรรยากาศยุโรปยุคกลาง ชอบเกมแนวอิงประวัติศาสตร์, เกมวางแผน, เกมซิมูเลชั่น มีอาการเริ่มเบื่อๆ กับการอยู่บ้านช่วงนี้ หรือไม่มีเครื่อง Switxh เพื่อจะติดเกม Animax Crossinx ล่ะก็ Mount & Blade II: Bannerlord คืออีกหนึ่งตัวเลือกช่วงนี้ที่อยากให้ได้ลองกันครับ
