รำลึก 17 ปี เกม Resident Evil: Dead Aim ภาคที่หลายคนอาจลืมไปแล้ว

จนถึงตอนนี้เหลืออีกเพียงประมาณ 1 เดือนเศษก็จะครบรอบ 24 ปีของซีรีส์เกมสยองขวัญอย่าง Resident Evil แล้วนะครับ โดยตลอดระยะเวลา 24 ปีที่ผ่านมานี้ Capcom ได้มีการปล่อยเกมภาคหลักและสปินออฟออกมามากมาย ซึ่งก็แน่นอนว่าย่อมมีทั้งภาคที่ปังและแป้กปนเปกันไป ทว่าในบทความนี้เราจะพาเพื่อน ๆ มาย้อนรำลึกความหลังถึงเกม Resident Evil: Dead Aim หนึ่งในภาคสปินออฟที่กำลังจะครบรอบ 17 ปีของการวางจำหน่ายครั้งแรกบนเครื่อง PS2 ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้ครับ

ปกเกมทั้ง 3 เวอร์ชั่น ไล่จากซ้าย (ญี่ปุ่น) / กลาง (อเมริกา) / ขวา (ยุโรป)

อนึ่ง ก่อนที่เราจะไปรำลึกความหลังกัน ต้องขอเกริ่นก่อนว่าเวอร์ชั่นญี่ปุ่นของเกม Resident Evil: Dead Aim ได้ใช้ชื่อว่า Biohazard Gun Survivor 4 – Heroes Never Die ซึ่ง ณ ตอนนั้น Capcom จัดเอาภาคนี้ไปรวมในกลุ่มภาค Gun Survivor ที่เป็นซีรีส์ภาคสปินออฟ โดยมีเพียงภาค Gun Survivor 3 เท่านั้นที่เป็นการเอาเกม Dino Crisis มาร่วมซีรีส์นี้ ในขณะที่ภาค 1, 2 และ 4 ก็คือการนำเกม Resident Evil มาทำเป็นแนว FPS แต่ภาค 4 จะมีการปรับให้ตอนสำรวจฉากเป็นมุมมองแบบบุคคลที่ 3 แทน

พล็อตเรื่อง

เนื้อเรื่องในภาคนี้จะเล่าถึงเรือเดินสมุทรของบริษัท Umbrella ที่ชื่อว่า Spencer Rain ที่ถูกอดีตพนักงานนามว่า มอร์เฟียส ดูวัลล์ นำเชื้อ t-Virus ที่ขโมยจากแล็บของ Umbrella ในกรุงปารีสมาแพร่จนผู้คนบนเรือติดเชื้อกันทั้งลำ พร้อมกันนี้มอร์เฟียสยังขู่เรียกค่าไถ่จากรัฐบาลสหรัฐฯ และจีน เป็นจำนวนเงินถึง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มิเช่นนั้นแล้วมอร์เฟียสจะจัดการยิงจรวดมิสไซล์ที่ติดตั้งเชื้อ t-Virus ไว้ที่หัวรบเข้าสู่เมืองต่าง ๆ บนโลกทันที ด้วยเหตุนี้ทางรัฐบาลสหรัฐฯ จึงต้องส่ง บรู๊ซ แมคกิฟเวิร์น เจ้าหน้าที่จากหน่วย USSTARTCOM มายับยั้งแผนชั่วร้ายของมอร์เฟียส เช่นเดียวกับทางรัฐบาลจีนที่ส่ง ฟงหลิง สายลับสาวเข้ามาปฏิบัติภารกิจเดียวกัน

ความลับในเกม

ถ้าจบเกมในระดับ Easy ด้วย Rank A ขึ้นไป เมื่อเล่นเกมในรอบต่อไปจะมีปืนพกครบทุกชนิด และปืนลูกซองให้ใช้ตั้งแต่เริ่ม
ถ้าจบเกมในระดับ Easy ด้วย Rank S หรือจบระดับ Normal ด้วย Rank A เมื่อเล่นเกมในรอบต่อไปจะมีปืนทุกชนิดให้ใช้ตั้งแต่เริ่ม ยกเว้นปืน Charged Particle Rifle
ถ้าจบเกมในระดับ Normal ด้วย Rank S หรือจบระดับ Hard ด้วย Rank A เมื่อเล่นเกมในรอบต่อไปจะมีปืนทุกชนิดให้ใช้ตั้งแต่เริ่ม พร้อมด้วยกระสุนไม่จำกัดจำนวน ยกเว้นปืน Charged Particle Rifle
ถ้าจบเกมในระดับ Hard ด้วย Rank S เมื่อเล่นเกมในรอบต่อไปจะมีปืนทุกชนิดให้ใช้ตั้งแต่เริ่ม และกระสุนไม่จำกัดจำนวน
หากจบเกมไปแล้วครั้งนึง เมื่อกลับมาหน้าไตเติ้ลอีกครั้ง ให้เลือก New Game โดยเล่นจากเซฟเดิม แล้วตอบ Yes เราจะสามารถเล่นเป็นฟงหลิงแทนได้ แต่เส้นทางการลุยและเนื้อเรื่องจะอิงของบรู๊ซทั้งหมด (ง่าย ๆ ก็คือเปลี่ยนแค่สกิลตัวละครเท่านั้นแหละครับ)

เกร็ดเล็กน้อยของเกม

ภาคนี้ถูกพัฒนาโดยสตูดิโอ Cavia ซึ่งต่อมาทีมนี้ก็มีโอกาสได้ร่วมพัฒนาในภาค Umbrella Chronicles และ Darkside Chronicles ด้วย
เอนจิ้นที่ใช้พัฒนาเกมนี้คือเอนจิ้น id Tech 3 โดยเป็นเอนจิ้นเดียวกับที่ใช้พัฒนาเกม Quake III Arena เช่นกัน
สำหรับผู้เล่นที่ไม่ถนัดการเล็งยิงด้วยอนาล็อกของจอย DualShock 2 ทาง Capcom กับ Namco ก็ได้ร่วมกันออกจอยปืนที่มีชื่อว่า GunCon 2 เพื่อใช้กับเกมยิงมุมมองบุคคลที่ 1 ของค่าย Capcom และ Namco โดยเฉพาะ (แต่ Namco เป็นผู้จัดจำหน่ายและทำการตลาด) ซึ่งสมัย Gun Survivor ภาคแรกบน PS1 ก็สามารถใช้เล่นกับปืน GunCon รุ่นแรกได้ด้วย

(ล่าง) ปืน GunCon เรียงจากซ้ายไปขวา ได้แก่ GunCon / GunCon 2 / GunCon 3