รวมเกมสยองขวัญชื่อดังที่น่าถูกนำมาทำเป็นภาพยนตร์บ้าง

ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ได้มีข่าวดังเกิดขึ้นในวงการเกมครับ เมื่อมีรายงานว่าเกม Fatal Frame และ Silent Hill ซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดาซีรีส์เกมสยองขวัญชื่อดังนั้นกำลังมีโปรเจ็กต์ที่จะนำมาทำเป็นภาพยนตร์อยู่ ซึ่งกรณีของ Silent Hill นั้นเคยมีการทำเป็นภาพยนตร์มาก่อนแล้ว ในขณะที่ Fatal Frame นั้นกำลังจะได้ทำภาพยนตร์เป็นครั้งแรก หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยเป็นเกมมาแล้วหลายภาค

ทว่าในบทความที่เรากำลังจะนำเสนอต่อไปนี้จะไม่ได้พูดถึง 2 เกมนั้นครับ หากแต่เราได้รวบรวมลิสต์เกมสยองขวัญซีรีส์อื่น ๆ ที่น่าจะถูกหยิบมาทำเป็นภาพยนตร์บ้าง โดยจะมีซีรีส์อะไรบ้างนั้น มาดูกันเลยดีกว่า

Dead Space

จะว่าไปแล้ว ภาพยนตร์สยองขวัญกึ่งไซไฟและมีธีมอยู่นอกอวกาศที่ทำแล้วปังก็มีอยู่ไม่มากนักครับ หนึ่งในนั้นก็น่าจะเป็น Alien ที่เหล่าตัวเอกต้องหนีตายในสถานีอวกาศ ซึ่งธีมนี้ก็ดูจะมีความคล้ายเกม Dead Space อยู่พอสมควรครับ ถ้าลองเฟ้นหานักแสดงที่จะมารับบทเป็นไอแซ็คแบบดี ๆ หน่อย บางทีอาจจะหวังผลพลอยได้ให้ตัวเกมมีลุ้นทำภาคต่อไปด้วยก็ได้เหมือนกัน

The Evil Within

พล็อตของ The Evil Within มีจุดที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เพราะมีการผสมผสานระหว่างปมเรื่องจิตประสาทและการทดลองที่เหนือจินตนาการ ทว่ากลวิธีการนำเสนออาจจะต้องมีชั้นเชิงกว่าหนังสยองขวัญทั่วไปพอสมควร ตรงจุดนี้ถ้าได้ผู้กำกับมือดีก็อาจจะช่วยให้คนดูเสพง่ายขึ้น หรือลุ้นเจาะตลาดใหม่ ๆ ของแนวสยองขวัญได้สบาย

Siren

ผีญี่ปุ่นยังเป็นอะไรที่ขายได้อยู่เรื่อย ๆ ครับ แม้ว่ากลุ่มคนดูจะค่อนข้างจำกัดวงก็ตาม ซึ่ง Siren เองก็มีพล็อตเรื่องที่น่าสนใจอยู่แล้ว โดยการจับเอาปมของผีแต่ละตัวมาเล่าในเชิงภาพยนตร์ พ่วงฉากเล่นซ่อนหากับผี เคล้าดราม่าอีกสักหน่อย คงพอไปวัดไปวาได้ แต่ว่ากันตามตรง สถานการณ์ตอนนี้ลุ้นเกมภาคใหม่ยังเหนื่อยไม่แพ้กันเลยครับ

Outlast

อารมณ์ของเกม Outlast ในหลาย ๆ ช่วงจะชวนให้คิดถึงหนังเรื่อง Saw ครับ เพราะจะมีฉากหวาดเสียวให้ดูกันเพียบ โดยเฉพาะฉากที่ตัวเอกโดนทรมานสารพัดจนแทบเอาชีวิตไม่รอด บรรยากาศก็แนวจิต ๆ ความดาร์คนี่มาเต็ม ถ้าจะมีการนำเกมมาทำเป็นหนังให้ได้ฟีลลุ้นให้ตัวเอกหนีตาย ด้วยความหวาดกลัวสุดขีด Outlast ควรต้องอยู่ในตัวเลือกแรก ๆ เลย

Alan Wake

จุดเด่นของ Alan Wake จะเน้นไปทางเนื้อหาที่มีจุดหักมุม และชวนตื่นเต้นตลอดเวลา แถมยังมีประเด็นคาบเกี่ยวกับเรื่องเหนือธรรมชาติเข้ามาร่วมด้วย นอกจากนี้รูปแบบการเล่าเรื่องของเกมยังสามารถพลิกแพลงได้ว่าจะทำในลักษณะซีรีส์เป็นตอน ๆ หรือจะทำเป็นภาพยนตร์ก็ย่อมได้ แค่คิดก็อยากให้โปรเจ็กต์เกิดขึ้นมาล๊าววว!