รวม 5 เกมซีรีส์สยองขวัญที่เราอาจไม่ได้เห็นการทำภาคต่ออีกแล้ว

รวม 5 เกมซีรีส์สยองขวัญที่เราอาจไม่ได้เห็นการทำภาคต่ออีกแล้ว

โดยทั่วไปแล้ว ซีรีส์เกมสยองขวัญจะเป็นแนวเกมที่มักจะมีอายุไม่ค่อยยืนด้วยหลายๆ ประการครับ ซึ่งปัญหาหลัก ๆ ก็จะคล้าย ๆ กับหนังสยองขวัญที่ผู้สร้างมักเจอปัญหาหมดไอเดียหรือหมดมุกไปเสียก่อน หรือไม่ก็ด้วยความที่แนวเกมเป็นแนวเฉพาะทาง กลุ่มผู้เล่นเลยถูกตีวงแคบลงมาจากแนวที่เป็นความต้องการตลาด เช่น แนวแอ็กชั่น เป็นต้น ทำให้เราไม่ค่อยได้เห็นเกมสยองขวัญหลาย ๆ ซีรีส์ที่เคยโด่งดังในอดีตถูกปลุกชีพให้กลับมาได้รับความนิยมอีกเลย

และรอบนี้ทีมงาน Online Station จึงขอแนะนำบทความรวม 5 ซีรีส์เกมสยองขวัญชื่อดังในอดีตที่เราอาจจะไม่ได้เห็นภาคต่ออีกแล้ว จนชักไม่แน่ใจแล้วว่าภาคต่อเกมสยองขวัญเหล่านี้ กับเกม Half-Life 3 อะไรจะเกิดขึ้นก่อนกันแน่


Silent Hill

รวม 5 เกมซีรีส์สยองขวัญที่เราอาจไม่ได้เห็นการทำภาคต่ออีกแล้ว

ซีรีส์เมืองหมอกเป็นเกมที่ประสบภาวะขาลงด้วยเหตุผลหลายปัจจัยครับ แต่ถ้าให้จำแนกเฉพาะสาเหตุใหญ่ ๆ อย่างแรกก็คือปัญหาด้านบุคลากรทีมพัฒนาที่บุกเบิกมาตั้งแต่ภาคแรก ๆ ได้ออกจาก Konami ไปเกือบหมดแล้ว จนภาคหลัง ๆ ทาง Konami ต้องโอนโปรเจ็กต์ไปให้สตูดิโอจากต่างประเทศช่วยพัฒนาให้ ปัญหาต่อมาก็คือความหมดมุกในการต่อยอดครับ ซึ่งประเด็นนี้เคยเหมือนจะเริ่มมีความหวังมากขึ้นในภาค Homecoming ที่นักวิจารณ์หลายคนมองว่าเป็นการแตกไลน์เนื้อเรื่องได้น่าสนใจ แต่กลับไม่ได้เป็นที่พอใจของเหล่าเกมเมอร์เท่าไหร่นัก

ตบท้ายด้วยปัญหาใหญ่ระดับบิ๊กที่สืบเนื่องมาจากดราม่าระหว่างฮิเดโอะ โคจิม่า กับทาง Konami ซึ่งตอนแรกโคจิม่ามีโครงการจะทำเกม Silent Hill ภาคใหม่ พร้อมกับปล่อย Playable Teaser (P.T.) ให้ชาว PS4 ได้ลองเล่นจนขนหัวลุกไปแล้ว แต่พอมีดราม่าปุ๊บ Konami ก็ยกเลิกโปรเจ็กต์ดังกล่าวทันที พร้อมกับถอนไฟล์เดโม P.T. ออกจาก PlayStation Store จนเรียบ ชนิดที่ว่า PS4 ของใครยังมี P.T. อยู่ในเครื่องนี่แทบกลายเป็นแรร์ไอเทมได้เลย จนถึงบัดนี้ ความหวังในการทำภาคต่อของซีรีส์ Silent Hill คงมีแต่จะเลือนลางลงไปทุกที เว้นเสียแต่จะมีค่ายเกมไหนใจป้ำ กล้าทุ่มเงินซื้อสิทธิ์ในตัวเกม Silent Hill ออกมาจากอ้อมอกของ Konami (และก็ไม่รู้ว่า Konami จะยอมขายให้รึเปล่านะ)

แฟนเพจทางการของ Silent Hill – https://www.facebook.com/silenthill/


Alone in the Dark

รวม 5 เกมซีรีส์สยองขวัญที่เราอาจไม่ได้เห็นการทำภาคต่ออีกแล้ว

นี่คือเกมสยองขวัญยุคแรก ๆ ที่พัฒนากราฟิกเป็น 3D โพลีก้อน และค่อนข้างโด่งดังในฝั่ง PC อยู่พอตัว กระทั่งพอได้ออกภาค The New Nightmare ลงเครื่องคอนโซล ความนิยมก็เริ่มแผ่ขยายมากขึ้นเป็นเท่าตัว แต่ดูเหมือนจุดพีคของซีรีส์นี้จะมาได้แค่นั้นครับ เพราะหลังจาก Alone in the Dark ภาครีบูต และภาค Illumination ที่ขายในปี 2008 และ 2015 ตามลำดับได้ถูกปล่อยออกมา ก็ดูท่าว่า 2 ภาคดังกล่าวจะไม่ได้ช่วยสวิงกระแสกลับมาได้เลย ในทางกลับกัน การที่ปล่อยเว้นช่วงภาคต่อที่ค่อนข้างนานเกินไป จึงทำให้แฟน ๆ ที่เคยติดตามภาคเก่า ๆ ได้ล้มหายตายจากไปมากกว่าที่คิด

นอกจากนี้ ตลอดระยะเวลา 26 ปี นับตั้งแต่ภาคแรกวางจำหน่าย ซีรีส์นี้ก็ได้ออกภาคต่อออกมาอีกเพียง 5 ภาคเท่านั้น แถมทีมผู้พัฒนาก็เปลี่ยนมือกันรัว ๆ ถึงเกือบ 10 บริษัท นั่นอาจจะเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ภาพลักษณ์ของเกมสู่สาธารณะเปลี่ยนไปมาก แต่ถึงกระนั้น หากใครอยากจะรู้ว่าเกมที่เป็นต้นแบบให้กับ Resident Evil รวมถึงเกมสยองขวัญอื่น ๆ อีกบางซีรีส์ เราก็ยังสามารถบอกได้เต็มปากครับว่า Alone in the Dark คือหนึ่งในนั้นแน่นอน

แฟนเพจทางการของ Alone in the Dark – https://www.facebook.com/aloneinthedarkgame/


Siren

รวม 5 เกมซีรีส์สยองขวัญที่เราอาจไม่ได้เห็นการทำภาคต่ออีกแล้ว

เกมสยองขวัญที่มีธีมและกลิ่นอายแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ พัฒนาโดยทีม Studio Japan ที่เป็นสตูดิโอในสังกัดของ Sony เอง ด้วยเหตุนี้ Siren จึงเป็นเกม Exclusive ของแพลตฟอร์ม PlayStation เพียว ๆ ซึ่งตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา Siren ได้ออกมาแล้วจำนวน 3 ภาค และหนึ่งในนั้นเป็นก็การหยิบเอาภาคแรกมารีเมคด้วย ปัจจุบันทาง Studio Japan ก็ยังอยู่ดีมีสุข และทยอยป้อนเกมออกมาอยู่เรื่อย ๆ แต่ทว่าโปรเจ็กต์ Siren นั้นก็กลายเป็นคำตอบปริศนาจนบัดนี้ว่าจะมีการทำต่อหรือไม่

ทั้งนี้ สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์อย่างนึงของ Siren ก็คือการแบ่งเนื้อหาของเกมออกเป็นตอน ๆ และแต่ละตอนผู้เล่นก็จะได้บังคับตัวละครที่แตกต่างกันไป แถมระบบการเล่นก็ค่อนข้างน่าสนใจครับ โดยนอกจากความเป็นแนวเล่นซ่อนหากับผีแล้ว ตัวเรายังมีพลังที่สามารถสอดแนมการมองเห็นของพวกผีที่อยู่ใกล้ เพื่อให้เราสามารถรู้ได้ว่าพวกมันอยู่ตรงไหน รวมถึงรู้ที่ซ่อนของไอเทมด้วย ซึ่งในบรรดาเกมที่กล่าวมาทั้งหมด Siren ดูจะมีความเป็นไปได้ในการมีภาคต่อสูงที่สุดแล้วครับ เพราะ Sony เองก็เพิ่งเผยนโยบายที่พยายามจะดึงเกมเก่า ๆ กลับมาพัฒนาอยู่บ้าง


Clock Tower

รวม 5 เกมซีรีส์สยองขวัญที่เราอาจไม่ได้เห็นการทำภาคต่ออีกแล้ว

Clock Tower เคยสร้างชื่อในฐานะเกมแนวสยองขวัญที่มีรูปแบบการเล่นเป็นลักษณะ Point and Click ซึ่งผู้เล่นจะต้องเลื่อนลูกศรที่ปรากฏบนฉากไปที่วัตถุต่าง ๆ ภายในห้องเพื่อสำรวจ หรือให้ตัวละครเคลื่อนที่ ทั้งนี้ Clock Tower มีการทำออกมาทั้งหมด 4 ภาค ได้แก่ Clock Tower, Clock Tower 2, Clock Tower: The Struggle Within และ Clock Tower 3 โดยสามภาคแรกได้ถูกพัฒนาโดยบริษัท Human Entertainment กระทั่งพอถึงเดือนมกราคมปี 2000 ทาง Human Entertainment ก็ประสบภาวะขาดทุนหนักจนต้องปิดบริษัทไป ต่อมาบริษัท Sunsoft ก็ได้กลายเป็นเจ้าของสิทธิ์ในตัวเกม Clock Tower แทน แล้วดึง Capcom มาร่วมพัฒนาเกมซีรีส์นี้ต่อจนออกมาเป็น Clock Tower 3 แล้ววางจำหน่ายในปี 2002 ทว่าในภาค 3 นี้เองที่โดนเกมเมอร์และนักวิจารณ์แทบทุกสารทิศสับเละว่าพอเปลี่ยนเกมเพลย์มาเน้นแอ็กชั่นมากขึ้นแล้วกลับไม่ช่วยให้เกมสนุกขึ้นเลย

หลังจากนั้นมา ซีรีส์นี้ก็เงียบหายยาวมาจนถึงปัจจุบัน และก็ไม่มีข่าวความเคลื่อนไหวใดๆ จาก Sunsoft ว่าจะหยิบซีรีส์นี้มาปัดฝุ่นอีก ในขณะที่คุณฮิฟุมิ โคโนะ อดีตผู้กำกับ Clock Tower ภาค 1 และ 2 ก็ได้ออกไปตั้งสตูดิโอใหม่ที่มีชื่อว่า Nude Maker แล้วเปิดโครงการระดมทุนเพื่อพัฒนาเกม NightCry ที่เป็นแนวสยองขวัญสไตล์ Point and Click เหมือนกับ Clock Tower โดยลงให้กับ PC เมื่อต้นปี 2016 แต่เหมือนคุณโคโนะแกคงลืมไปว่าระบบ Point and Click มันล้าสมัยเกินไปแล้วในยุคนี้ พอเกมวางขายปุ๊บ คะแนนรีวิวเลยโดนกดเละไม่มีชิ้นดีอยู่ที่ประมาณ 2 / 10 เท่านั้น ด้วยคำวิจารณ์ส่วนใหญ่ที่บอกว่าเกมเพลย์มันโบราณสุดกู่นั่นเอง


Dead Space

รวม 5 เกมซีรีส์สยองขวัญที่เราอาจไม่ได้เห็นการทำภาคต่ออีกแล้ว

ซีรีส์นี้เป็นผลงานของ Visceral Games ที่เป็นบริษัทลูกของ EA ครับ แต่เมื่อช่วงเดือนตุลาคมปี 2017 ทาง EA ได้มีการปรับผังโครงสร้างภายในองค์กรขนานใหญ่ โดยให้เหตุผลว่าเพื่อให้การทำงานของแต่ละภาคส่วนเป็นไปได้อย่างราบรื่นขึ้น ด้วยเหตุนี้ Visceral Games จึงถูกยุบและกระจายพนักงานให้ไปควบรวมกับหน่วยงาน EA Vancouver และ EA Montreal ของประเทศแคนาดา ส่วน Dead Space ที่เป็นเกมเรือธงของสตูดิโอนี้เคยสร้างปรากฏการณ์เกมสยองขวัญยุคใหม่ ถัดจากที่ Resident Evil 4 เคยปูทางจนประสบความสำเร็จมาก่อนหน้านั้นไม่กี่ปี

ทว่าพอทีมงานได้ทำ Dead Space ภาค 2 และ 3 เพื่อสานต่อความสำเร็จ ปรากฏว่ายอดขายและคำวิจารณ์กลับสวนทางกับภาคแรกอย่างลิบลับ โดยเฉพาะภาค 3 ที่มีการเปลี่ยนแปลงให้ผู้เล่นสามารถลุยแบบ Co-op ได้ สไตล์ของเกมเลยกลายมีกลิ่นอายของเกมแอ็กชั่นมากกว่าเดิม และนั่นเลยทำให้แฟน ๆ Dead Space ที่มีอยู่เดิมรู้สึกไม่ปลื้ม ถึงกระนั้นกาลเวลาก็ล่วงเลยมาไกลจนเกินกว่าที่ Visceral Games จะทำอะไรได้แล้ว (เพราะโดนยุบไปรวมกับ EA แล้วนั่นเอง) ซึ่งหากจะมีภาคต่อหลังจากนี้ ก็ต้องลุ้นให้มีอะไรไปเข้าฝันผู้บริหาร EA ให้ขุดซีรีส์นี้ขึ้นมาจากในหลืบแล้วล่ะ

แฟนเพจทางการของ Dead Space – https://www.facebook.com/deadspace/

True Super Fiber Gamer Pro Pack

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้