Watch Dogs Legion คุยให้รู้เรื่องกับภาคต่อลำดับ 3 ที่เปิดโอกาสให้คุณเล่นเป็นใครก็ได้!

Watch Dogs Legion คุยให้รู้เรื่องกับภาคต่อลำดับ 3 ที่เปิดโอกาสให้คุณเล่นเป็นใครก็ได้!

 

 

Watch Dogs Legion Interview

ในการไปญี่ปุ่นรอบนี้อีกหนึ่งเกมที่หลายๆ คนให้ความสนใจในฐานะชิ้นงานไม้เอกของ Ubisoft ช่วงต้นปีหน้าอย่าง Watch Dogs Legion ตัวผมเองก็มีโอกาสได้เข้าสัมภาษณ์ทีมพัฒนาเช่นกัน ชายคนนั้นคือคุณ Clint Hocking ผู้รั้งตำแหน่ง Game director นั่นเองครับ

 

Q: ช่วยอธิบายถึงคอนเซปต์แรกเริ่มในการพัฒนา Watch Dogs Legion หน่อยครับ

A: อ่า ครับ ต้องบอกว่าแรกเริ่มเดิมทีโปรเจคนี้เริ่มต้นจากคนไม่กี่คน มีผมกับอีก 2-3 คนที่สตาร์ทกัน โดยเราเริ่มจากการมองย้อนกลับไปยังเกมภาค 1 กับภาค 2 ว่าอะไรคือสิ่งสำคัญหรืออะไรที่ตัวเกมได้ให้คำมั่นไว้ รวมถึงมองหาจุดที่สามารถพัฒนาต่อยอดได้ อย่างหนึ่งที่ติดค้างอยู่ในใจเราก็คือโปรไฟล์ที่เฉพาะตัวของ NPC รอบข้าง จำได้ว่าตอนเห็นมันครั้งแรกมันน่าตื่นตามาก เช่นนักฟุตบอลที่ใจสลายเพราะอาการบาดเจ็บ มันดูจริงสุดๆ และโลกของเกมก็เต็มไปด้วยองค์ประกอบเหล่านี้ แต่ว่าในตัวเกมทั้ง 2 ภาค ความเจ๋งของเอเลเมนต์ข้างต้นก็ราวกับภาพลวงตาที่ถูกใช้แค่ให้โลกในเกมดูสมบูรณ์ขึ้นเท่านั้น มันจึงเกิดคำถามในใจเราว่าหากเราลงลึกในเรื่องนี้ และทำให้มันดูจริงขึ้น เห็นภาพมากขึ้นด้วยการจำลองพาร์ทนี้ขึ้นมาจะเป็นอย่างไร เราอยากเห็นผู้คนเหล่านี้มีที่มาที่ไปและมีปฏิสัมพันธ์กันอย่างเป็นเรื่องเป็นราว และเราอยากให้ผู้เล่นได้จำลองการเป็น “พวกเขา” คือเล่นเป็นใครก็ได้ที่อยากเล่น อีกเรื่องที่สำคัญคือคำถามที่ว่าเราอยากจะเซ็ตตัวเกมให้เกิดขึ้นที่ใด ในภาค 1 และ 2 เรื่องเกิดขึ้นในอเมริกา แต่คราวนี้เราอยากลองเปลี่ยนดูบ้าง คืออเมริกาก็ไม่ผิดอะไรหรอก เพียงแต่เราอยากขยายเรื่องราวว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในเกมมันไม่ได้ส่งผลต่อแค่ประเทศเดียว ดังนั้นเราจึงเริ่มมองหาเมืองที่เราต้องการ คุณรู้ไหมตอนแรกเราลิสต์ไว้ถึง 60 เมือง ก่อนจะคัดมาเหลือแค่ 12 และตัดออกเพิ่มเพราะข้อจำกัดเฉพาะอีกจำนวนหนึ่ง ด้านลอนดอนเองก็เป็นตัวเลือกระดับเกือบท็อปในลิสต์ของเรา เมื่อคิดถี่ถ้วนแล้วเราจึงตัดสินใจอย่างรวดเร็วว่าต้องเป็นลอนดอนนี่แหละครับ 

 

Watch Dogs

 

Q: ในการพัฒนาเกมนี้ อะไรคือสิ่งที่ท้าทายที่สุด

A: ความท้าทายที่สุดในการพัฒนาเกมนี้คือการพยายามลองทำอะไรบางอย่างที่ผู้คนส่วนมากเคยสัมผัสกับมันมาบ้างแล้ว ดังนั้นในการรังสรรค์มันขึ้นมาจึงไม่ใช่แค่สร้างให้มีศักยภาพและปรับแต่งให้ผู้คนสามารถเล่นได้ในทุกระดับเลเวล แต่มันต้องคำนึงถึงความสนุก ความรู้สึกดีๆ ที่ได้เล่น หรือก่อเกิดความต้องการในการทดลองเล่นเกมในแนวทางใหม่ๆ เสริมสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ผมมองว่านี่แหละคือส่วนที่ท้าทายที่สุด น่าจะท้าทายที่สุดในชีวิตการทำงานผมเลยล่ะ

 

Q: คุณย่ามหาภัยที่เราได้เห็นจากการเปิดตัวเกมเพลย์ในงาน E3 2019 ที่ผ่านมา ดูจะได้รับการตอบรับที่ดีมากๆ เราสามารถคาดหวังถึงอะไรที่เจ๋งพอๆ กันหรือมากกว่านี้จากตัวละครอื่นๆ ได้ไหม

A: แน่นอนครับ เราพยายามอย่างมากที่จะสร้างความประหลาดใจและความน่าสนใจต่อผู้คนเสมอ โดยสิ่งที่พวกเราเรียกว่า quirks ยกตัวอย่างเช่นตัวละครที่อายุมากอาจจะป่วยง่าย หรือบาดเจ็บง่ายกว่าทั่วไป ในบางครั้งก็จะมีการสุ่ม “ตาย” จากอาการป่วยรุนแรงเกิดขึ้นด้วย นอกจากนี้บางตัวละครก็อาจจะมี quirks ที่ไม่ปกติ เช่นว่ามีอาการสะอึกอยู่ตลอดเวลา, กลัวความสูงจนไม่กล้าขึ้นโดรน, เมามึนเมื่อขึ้นยานพาหนะ เป็นต้น ดังนั้นแล้วก็พูดได้ว่าเราพยายามสร้างความน่าสนใจบนความหลากหลายแตกต่าง ซึ่งจะทำให้เกมสนุกขึ้นอย่างแน่นอน

 

 

Q: แบ่งเป็นหลายสายขนาดนี้ ฉากจบจะมีกี่แบบกัน

A: เรามีเส้นเรื่องหลักอยู่ราวๆ 5 เส้นด้วยกัน แต่ละเส้นก็จะมีฉากจบในแบบของตัวเอง ซึ่งในแต่ละฉากจบก็จะแตกต่างกันอีก ขึ้นอยู่กับว่าคุณเก็บของบางอย่างครบไหม หรือได้ทำมิชชั่นลับอะไรรึเปล่า ดังนั้นแล้วเอาเข้าจริงผมไม่อยากพูดว่าเกมเรามีฉากจบหลายแบบ แต่มันควรจะเป็นแบบว่ามีปลายทางที่แตกต่างในแต่ละฉากจบ แต่ละเส้นเรื่องมากกว่าครับ

 

Watch Dogs

 

Q: เมื่อวานที่งาน UBIday 2019 เราได้รับชมตัวเดโมเกมเวอร์ชั่น Alpha Built ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจอะไรที่ตัวเกมจะยังดูมีปัญหาบางอย่างอยู่ไม่น้อย เพราะฉะนั้นอยากให้พูดถึงตัวเกมเวอร์ชั่นปัจจุบันกันสักหน่อยครับว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้างแล้ว

A: อ้อ ใช่ครับ เกมตัว Alpha นั้นเราปิดงานมันตั้งแต่ก่อน E3 เสียอีก เพราะงั้นสิ่งที่ได้เห็นกันไปเมื่อวานก็น่าจะเป็นบิลท์เมื่อราวๆ 6 เดือนที่แล้ว หลายสิ่งเปลี่ยนไปมาก และสิ่งสำคัญที่สุดที่เปลี่ยนไปก็คือกระบวนการเติบโต คือ Deadsec จะมีเลเวล และมันจะมีการเพิ่มทุกๆ ครั้งที่เราจ้างคนใหม่ๆ เข้ามาทำงาน ในตอน Alpha นั้นเราจะสูญเสียเลเวลนี้จำนวนหนึ่งเมื่อคนในทีมตาย แต่กับเวอร์ชั่นปัจจุบันจะไม่เสียแล้ว มันยังมีระบบเลเวลแยกตามเอเจนต์แต่ละคนอีกด้วยครับ ถ้าพวกเขาตายคุณจะไม่สูญเสียค่า… เอ่อ ผมขอเรียกอิทธิพลแล้วกัน ยังมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ อีกหลายเรื่อง แต่ 1 ในนั้นคือเรื่อง Trait ตัวเกมจะมี Trait 2 ประเภท คือแบบเฉพาะตัวกับแบบทีม ในเวอร์ชั่นเก่า เหล่าเอเจนต์จะมี Trait คนละประเภทเท่านั้น แต่ตัวเกมปัจจุบันเราปรับให้มีทั้งคู่เลย นอกจากนี้ก็เป็นการอัพเดตยิบย่อย อย่างพวกอินเตอร์เฟซ หรือแก้บั๊กต่างๆ ซึ่งเราก็พัฒนาและแก้ไขตลอดในระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมานี้

 

Watch Dogs

 

Q: เพราะว่าตัวเกมดูจะมีตัวละครเยอะให้เราเล่นเยอะมากๆ เลยอยากทราบว่าคุณจะจัดการเรื่อง Story Telling อย่างไร

A: ครับ ก็อย่างที่บอกไปว่าตัวเกมจะมี 5 เส้นเรื่องที่แตกต่างกัน แต่มันก็ไม่ได้สิ้นเชิงขนาดนั้น เพราะเรื่องราวของเราไม่ใช่โดดเดี่ยวผู้กู้โลก แต่เป็นเรื่องราวของกลุ่มมวลชนที่ทำงานช่วยกันเพื่อบรรลุเป้าหมายบางอย่าง ซึ่งเอาเข้าจริงโดยหลักๆ การเดินเรื่องก็จะคล้ายๆกับเกม Ubisoft อื่นๆ คุณรับมิชชั่นจากนั้นก็มีคัตซีนโผล่มา เนื้อเรื่องส่วนหนึ่งก็จะดำเนินไป แตกต่างตรงที่เกมเราสามารถเล่นเป็นใครก็ได้ ดังนั้นทุกครั้งที่มีคัตซีนขึ้นภาพในคัตซีนก็จะเปลี่ยนเป็นตัวละครที่คุณเลือกเล่นในขณะนั้นนั่นเองครับ

 

Q: จะมีโหมด Co-op หรือ Multiplayer ไหมครับ

A: ก็… เราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้กันในตอนนี้ จะมีการเปิดเผยอีกทีในช่วงต้นปีหน้าครับ

 

Watch Dogs

 

Q: สุดท้ายอยากให้บอกกับแฟนๆ ถึงตัวเกม Watch Dogs Legion ในมุมมองของคุณหน่อยว่าเป็นอย่างไร หรือพวกคุณกำลังพยายามพาตัวเกมไปยังจุดไหน

A: โอเคครับ จุดประสงค์หลักของเราไม่ใช่แค่ต้องการจะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้เล่นเกมในแบบที่ต้องการอย่างเช่นเกมของ Ubisoft อื่นๆ เรายังอยากให้ผู้เล่นได้ลองเป็นใครก็ได้ที่อยากเป็น เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในแบบที่อยากทำ หากผู้เล่นรู้สึกได้แบบนั้น ผมว่าเราประสบความสำเร็จแล้ว

 

Watch Dogs

 

อีกครั้งที่ต้องขอบคุณทาง Ubisoft ที่เชิญผมและ Online Station ไปร่วมงานครั้งนี้ไกลถึงญี่ปุ่น นอกจากจะได้เห็นภาพคามอบอุ่นของเหล่าเกมเมอร์แฟนๆ Ubisoft ดังเช่นทุกๆ ปี ก็ยังมีโอกาสได้ทำอะไรเอ็กซ์คลูซีฟแบบนี้ด้วย ซึ่งก็ต้องยอมรับตามตรงว่าเป็นประสบการณ์ที่ไม่ใช่หาง่ายๆ แน่นอน ขอบคุณอีกครั้งครับ

 

Watch Dogs

 

สำหรับ Watch Dogs Legion มีกำหนดวางจำหน่ายวันที่ 6 มีนาคม 2020 ครับ

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้