Sony, Microsoft และ Nintendo ร่วมต่อต้านนโยบายขึ้นภาษีวิดีโอเกมของสหรัฐฯ

เมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อนๆ คงได้เห็นข่าวที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ได้เผยถึงแผนที่จะเพิ่มอัตราเก็บภาษีสินค้าที่นำเข้าจากประเทศจีน ซึ่งจะส่งผลกระทบกับสินค้าหลายประเภทที่หลายแบรนด์ชั้นนำมีฐานการผลิตส่วนใหญ่อยู่ที่ประเทศจีนกันนะครับ โดย Sony, Microsoft และ Nintendo ที่เป็น 3 บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งวงการเกมคอนโซลก็โดนหางเลขนี้ไปด้วย เนื่องจากทั้ง 3 บริษัทนี้ก็มีฐานการผลิตเครื่องคอนโซลส่วนใหญ่อยู่ในประเทศจีนด้วยนั่นเอง เลยทำให้ทั้ง 3 บริษัทดังกล่าวต้องลุกขึ้นมาต่อต้านกับนโยบายขึ้นภาษีในครั้งนี้ พร้อมทั้งชี้แจงถึงสาเหตุและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นำกลับไปทบทวนก่อนจะอนุมัตินโยบายดังกล่าว

ล่าสุด ทาง Sony, Microsoft และ Nintendo ก็ได้ร่างจดหมายไปยังสำนักงานคณะผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (U.S. Trade Representative) เพื่อเรียกร้องให้ถอดถอนวิดีโอเกมออกจากรายชื่อสินค้าที่จะได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีของรัฐบาลสหรัฐฯ ด้วย

อย่างไรก็ตาม Sony, Microsoft และ Nintendo ไม่ได้เป็นเพียง 3 บริษัทเกมที่ลุกขึ้นมาต่อต้านนโยบายภาษีนี้ครับ หากแต่หน่วยงานดูแลซอฟต์แวร์สื่อบันเทิง (Entertainment Software Association หรือ ESA) ยังหวังด้วยว่านโยบายภาษีนี้จะไม่มีผลบังคับใช้ โดยกล่าวว่าอุตสาหกรรมเกมนั้นเป็นผู้นำในหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นด้านการสร้างงาน, การค้า, นวัตกรรม, การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภค, การคุ้มครองผู้บริโภค ฯลฯ ซึ่งทาง ESA ยังกล่าวเสริมอีกว่า นโยบายภาษีนี้รังแต่จะกัดกร่อนการสร้างนวัตกรรม, และเพิ่มปัญหาการว่างงานแก่ชาวอเมริกัน อีกทั้งยังไปเพิ่มราคาสินค้าแก่ผู้บริโภคโดยไม่จำเป็นด้วย

คงปฏิเสธไม่ได้ว่า หากมีการอนุมัตินโยบายนี้ขึ้นมาจริงๆ ย่อมต้องส่งผลกระทบกับเครื่องเกมเจเนอเรชั่นใหม่ของ PlayStation และ Xbox อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ รวมถึงเครื่อง Switch รุ่นโมเดลใหม่ที่ Nintendo กำลังพัฒนาอยู่ด้วยเช่นกัน งานนี้ได้แต่หวังว่าโดนัลด์ ทรัมป์ และรัฐบาลสหรัฐฯ จะยอมฟังเสียงเหล่าบุคลากรจากวงการเกมกันบ้างนะครับ

เครดิต: Glitched / Polygon

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้