Movie Game อีกหนึ่งเสน่ห์ของ JRPG ที่กำลังจะหายไป?

Movie Game เป็น Movie หรือ Cutscene ที่ปรากฏอยู่ในเกม ส่วนใหญ่ Movie Game จะถูกใช้ในเกมประเภท RPG หรือ Action กันมากโดยเฉพาะยุค PS1/PS2 ซึ่ง Movie Game จะเป็นฉากเนื้อเรื่องสำคัญที่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกอินกับเกมและเข้าใจเหตุการณ์ของเกมที่กำลังดำเนินอยู่แทนการเล่นเกมแบบปกตินั่นเอง

ช่วงนี้เกมสเกลขนาดใหญ่ในปัจจุบัน จากการพัฒนาของเทคโนโลยีและกราฟฟิคทำให้ ตัวละครสามารถไปไหนก็ได้ตามใจตัวเอง สามารถเล่นออนไลน์หรือร่วมมือกันมันส์ได้ มีแต่เกมที่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกสนุกกับการเคลื่อนไหวตัวละครอย่างอิสระ แน่นอนว่าเกมเหล่านั้นแทบจะไม่มี Movie Game หรือ Cutscene เลย เพราะทุกอย่างถูกลงไปกับระบบการเล่นหมดแล้ว

แน่นอนว่านักเล่นเกมในยุค PS1/PS2 ต่างก็คิดถึง Movie Game ที่ยุคนั้นมีการใส่เข้ามาแทบทุกเกม ครั้งแรกที่ได้ชม Movie Game นั้นน้ำตาแทบไหลกันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นฉากปรากฏตัวของตัวละครสุดเท่และสุดน่ารักในรูปแบบโพลีกอน (ตอนนั้นถือว่าสวยมาก) นอกจากนี้ยังมีเสียงพูด เสียงพากย์ใส่เข้าไปทำให้สัมผัสถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยี แม้ว่าปัจจุบันสิ่งเหล่านั้นจะเป็นสิ่งที่เก่าไปแล้วก็ตาม

ในยุคที่ตัวเกมมีความจุต่ำ Movie ถือว่าเป็นรางวัลต่อคนเล่นกันเลยทีเดียว เมื่อได้รับความนิยม Movie ก็เริ่มมีจำนวนที่มากขึ้น คุณภาพสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในเวลานั้นทุกคนอวยกับ Movie เป็นอย่างมาก ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป Movie Game คงได้สูญพันธ์จริงจัง เพราะคนที่ไม่สนับสนุนการให้มี Movie ในเกมก็มีค่อนข้างเยอะ บริษัท Square Enix ที่มีเทคโนโลยี 3DCG สุดล้ำอยู่ในมือ ถ้าจะทิ้งเอกลักษณ์ Movie Game ไป ก็น่าเสียดายไม่น้อย ความภาคภูมิใจของอุตสาหกรรมเกมญี่ปุ่นก็คือเกม JRPG ที่มีวัฒนธรรมการใส่ Movie Game คั่นระหว่างการเล่นเป็นสิ่งที่ไม่อยากให้หายไปตามกาลเวลาเลยจริงๆ

แต่ทั้งหมดนี้ก็เป็นแค่ความเห็นของนักเล่นเกมชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งเท่านั้น เพราะยังมีอีกหลายคนที่มีความเห็นว่ามันไม่มีทางตายง่ายๆ หรือมองว่าคนเขียนบทความคิดมากเกินไป

“ถ้าเกมมีเนื้อเรื่องยังไงก็ต้องมี Movie Game อยู่แล้ว ไม่หายง่าย ๆ หรอก”

“ที่คนไม่สนับสนุน Movie Game เพราะถึงใส่ไปคนก็ไม่ซื้อมาเล่น เปิดดู Youtubeเอาก็ได้”

“ถ้ามีเยอะเกินไปแบบ KH3 ก็ไม่สนุกนะ มูฟวี่ มูฟวี่ มูฟวี่ แล้วก็ มูฟวี่”

“Days Gone นี่ก็เยอะนะ คิดว่าตายจริงเหรอ”

“ชอบ Movie Game ขนาดนั้นดู Movie เลยดีกว่าไหม?”

“แต่หนังที่ทำจากเกมนี่แป้กเยอะนะ (หัวเราะ)”

แต่สำหรับตัวผู้เขียนแล้วยังไม่คิดว่า Movie Game จะตายง่ายๆ อย่างที่ว่าไปตราบใดที่ยังมีเกมเนื้อเรื่องหรือ RPG อยู่ยังไง Move Game ก็ยังต้องมีอยู่ดี