รีวิว Earth Defense Force: Iron Rain – สมรภูมิรบกับหญ้า ฆ่ากับมด

***ทีมงาน Online Station ต้องขอขอบคุณทางบริษัท Bandai Namco Entertainment ที่เอื้อเฟื้อโค้ดเกมเพื่อใช้ในการรีวิวมา ณ ที่นี้ด้วยครับ***

แพลตฟอร์ม: PS4
ผู้พัฒนา: Yuke’s

เกม Earth Defense Force (EDF) ค่อนข้างที่จะเป็นซีรีส์ที่ได้รับความนิยมค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม โดยในไทยนั้นมีผู้รู้จักซีรีส์กันค่อนข้างน้อย แต่ถึงกระนั้น บรรดาเกมเมอร์ในไทยต่างก็เคยมีตั้งฉายาให้กับซีรีส์นี้ว่า “เกมยิงมด” ครับ ซึ่งเป็นเกมยิงมุมมองบุคคลที่ 3 แรกเริ่มเดิมทีภาคแรกของเกมนี้เคยลงให้กับเครื่อง PS2 ด้วยคอนเซ็ปต์และภาพลักษณ์ที่เป็นเกมทุนต่ำ เน้นขายราคาถูก อีกทั้งคุณภาพของเกมก็ตามสภาพครับ พร้อมกับนำเสนอว่าเป็นเกมที่ขายความเรียบง่าย กราฟิกอยู่ในเกณฑ์พอดูได้และโครงสร้างของเกมเพลย์แทบจะไม่มีอะไรซับซ้อนเลย แต่ก็ดูเหมือนว่า Earth Defense Force จะมียอดขายอยู่ในระดับที่น่าพอใจ จนสามารถทำภาคต่อออกมาได้เรื่อยๆ และภาค Iron Rain นี่ก็จัดว่าเป็นภาคสปินออฟ คล้ายกับภาค Insect Armageddon ที่เคยวางจำหน่ายเมื่อปี 2011 นั่นเอง


เนื้อเรื่อง

พล็อตของเกม EDF ภาคนี้เรียกได้ว่าเบาบางมาก ไม่ค่อยมีอะไรจริงๆ ถ้าให้นึกภาพตามก็เหมือนหนังไคจูแบบโบราณในยุค 50 กว่าสิบปีก่อน ตัวเอกของเกมจะเป็นทหารของหน่อยป้องกันโลกที่ชื่อ Earth Defense Force (EDF) ซึ่งโลกนั้นกำลังถูกมนุษย์ต่างดาวเข้ารุกราน โดยกำลังรบหลักของฝ่ายมนุษย์ต่างดาวก็คือเหล่าแมลงบนโลกที่ถูกขยายร่างเป็นไซส์ยักษ์ หน่วย EDF จึงต้องออกไปต่อสู้กวาดล้างพวกมัน ขณะเดียวกันก็ต้องเก็บรวมรวมวัตถุดิบเพื่อพัฒนาอาวุธชนิดใหม่ไปต่อสู้ด้วย เรื่องราวทั้งหมดก็มีเพียงเท่านี้จริงๆ ตามสไตล์ฮีโร่กู้โลกครับ


เกมเพลย์

Iron Rain จะเป็นเกมยิงแนวมุมมองบุคคลที่ 3 ที่สามารถปรับมุมมองใน Option ได้ 2 แบบ คือเห็นด้านหลังตัวละครแบบซูมใกล้เห็นแผ่นหลัง กับอีกแบบคือซูมออกจนเห็นด้านหลังของตัวละครเราทั้งตัว ซึ่งศัตรูภายในเกมจะไม่จำกัดวงแค่เพียงมดหรือแมลงยักษ์นะครับ หากแต่ยังมีหุ่นยนต์, จานบิน UFO หรือแม้แต่สัตว์ประหลาดระดับไคจูตัวโตเท่าตึกระฟ้า ราวกับหลุดมาจากหนังเรื่อง Pacific Rim ก็ว่าได้

นอกจากนั้นแล้ว เกมนี้ยังมีจำแนกประเภทของยูนิตที่เราใช้อยู่ 4 แบบคือ Trooper ที่เป็นทหารราบธรรมดาไม่มีอะไรเด่น แต่ดีตรงแบกไอเทมได้เยอะ ต่อมาคือ Jet Lifter เป็นทหารติดเจ็ตแพ็คไว้ที่หลัง สามารถใช้ลอยตัวหรือพุ่งตัวได้ชั่วขณะนึง ตามมาด้วย Heavy Striker ที่เป็นทหารติดเกราะหนัก เคลื่อนตัวได้ช้า สามารถเปิดบาเรียป้องกันได้ชั่วขณะและถืออาวุธแบบจับสองมือ ทำให้มีพลังโจมตีแรงกว่าคลาสอื่นเป็นเท่าตัว แต่ก็มีข้อเสียคือรีโหลดกระสุนนานกว่าคลาสอื่นเช่นกัน และสุดท้ายคือ Prowl Rider ที่เพิ่งจะเพิ่มมาในภาคนี้ โดยจะมีปืนยิงสลิงใช้สำหรับโหนตัวไปได้ทุกทิศทาง

ขณะเดียวกัน ภาคนี้เรายังสามารถเรียกแมลงยักษ์นานาชนิดมาใช้ขี่ต่อสู้ได้ในระหว่างโอเวอร์ไดรฟ์ โดยโอเวอร์ไดรฟ์จะเป็นระบบใหม่ของภาคนี้ ที่เป็นการเร่งพลังชั่วขณะ ทำให้มีความสามารถในการต่อสู้สูงขึ้น จำกัดการใช้ได้แค่เพียงฉากละหนึ่งครั้ง ถ้าอยากใช้มากครั้งกว่านั้น จำเป็นจะต้องติดตั้งไอเทมเสริมที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเสียก่อน

อาวุธหลักของตัวละครเราจะถือได้ 2 ชนิด ในตอนแรกจะมีแต่ปืนกลกับปืนไรเฟิลแบบที่มนุษย์ธรรมดาเขาใช้กัน แต่เมื่อผ่านด่านไปเรื่อยๆ เราจะได้อาวุธที่ล้ำยุคอย่างดาบพลังงานหรือปืนเลเซอร์ โดยความยากของเกมที่เลือกจะมีผลกับการปลดล็อคด้วย ถ้าผ่านด่านในระดับความยากสูงสุดก็จะได้อาวุธที่ดีกว่ามาใช้ ส่วนการเลือกอาวุธหลักนั้นจะต้องดูที่ประเภทของกระสุนเป็นสำคัญ โดยจะมีแบบที่กดรีโหลดกระสุนได้ไม่จำกัด, แบบที่ต้องรอให้พลังงานฟื้นคืนก่อน หรือแบบที่มีกระสุนให้มาเยอะแต่หมดแล้วหมดเลยไม่เพิ่มให้อีกจนกว่าจะจบด่าน จุดนี้จึงทำให้การเลือกอาวุธดูมีข้อจำกัดพอสมควร ถ้าเลือกอาวุธที่มีจำนวนจำกัด หรืออาวุธที่มีระยะยิงสั้น จะไม่สามารถผ่านบางฉากได้เลย เพราะนอกจากอาวุธจะมีไม่พอใช้แล้ว บางทีเราจะเจอปัญหาที่ยิงบอสที่บินๆ อยู่ไม่ถึงด้วย กลายเป็นว่าถ้าอยากผ่านด่านไหนแบบรอบเดียว ไม่ต้องวนซ้ำ ก็จำเป็นต้องเลือกใช้อาวุธที่รีโหลดกระสุนได้ไม่จำกัดและมีระยะยิงไกลไว้ก่อน

ในการกำจัดศัตรูแต่ละชนิด จะมีอัญมณีพลังงาน (Energy Gems) สีต่างๆ ตกลงมา ซึ่ง Gem เหล่านี้จำเป็นต้องใช้ในการพัฒนาอาวุธและไอเทมต่างๆ ยกเว้น Gems สีเขียวที่เมื่อเก็บแล้วจะฟื้นพลังชีวิตในฉากแทน ผู้เล่นจะต้องเดินเก็บ Gem ด้วยเองก่อนจะผ่านฉาก เพราะถ้าหลังจากกำจัดบอสปุ๊บ เวลาจะเริ่มนับถอยหลังเพื่อผ่านฉาก เราจะเสีย Gem ที่ไม่ได้เก็บก่อนปราบบอสทันที และจำนวนที่เก็บได้ก็มีผลกับ Ranking ในการผ่านฉากด้วย ตรงจุดนี้ก็น่าหงุดหงิดอยู่เพราะเวลานับถอยหลังค่อนข้างสั้น ถ้าเลือกเล่นเกราะที่ไม่มีระบบการเคลื่อนไหวพิเศษหรือเกราะหนักที่เคลื่อนที่ช้าอย่าง Heavy Striker จะเก็บครบได้ยากมาก

น่าเสียดายที่เกมควรจะให้ผู้เล่นได้ใช้อาวุธยุโธปกรณ์อย่างสะใจ แต่ในภาคนี้ก็ดันไปเพิ่มระบบหักเงินในกรณีที่เราใช้ไอเทมบางอย่างเข้ามา โดยถ้าเราใช้ไอเทมระหว่างลุยก็จะถูกหักคะแนน ยิ่งใช้เยอะยิ่งโดนหักเยอะ ถ้าคิดจะจัดเต็มด้วยการเรียกหุ่นยนต์ออกมาขับ ใช้โอเวอร์ไดรฟ์เสริม และใช้ไอเทมฟื้นพลังชีวิต รวมๆ ก็จะมีค่าใช้จ่ายเป็นหลักหมื่นแล้ว ในขณะที่เงินรางวัลในการผ่านฉากช่วงแรกๆ จะมีให้แค่หลักพันเท่านั้นเอง เท่ากับว่ายิ่งเล่นยิ่งขาดทุนแน่นอน สรุปว่าเราต้องเล่นเกมแบบพื้นฐานที่ใช้อาวุธ 2 อย่างสลับกันไปมาร่วม 30 ด่าน จากนั้นถึงจะมีรางวัลในการผ่านด่านสูงพอที่จะใช้ไอเทมเสริมได้แบบสบายใจ


กราฟิกและการนำเสนอ

หากวัดกันตามมาตรฐานของเกมตระกูลนี้ ภาค Iron Rain ก็ถือว่ามีการพัฒนามาดีขึ้นมากแล้ว แต่ภาพรวมของเกมยังให้ความรู้สึกไม่ต่างกับเกมในยุค PS3 มากนัก โดยเฉพาะระบบกันเพลย์จะเป็นประเด็นค่อนข้างใหญ่ เอฟเฟ็กต์กระสุนดูไม่ค่อยทรงพลัง เวลายิงแล้วไม่ชวนให้รู้สึกว่ามีแรงกระทบเลย ซากศพศัตรูหรือสิ่งปลูกสร้างก็พังทลายแบบแข็งๆ ไร้ซึ่งความสมูธ ดังนั้นเวลาเล่นเกมนี้จึงควรปล่อยวาง ไม่ต้องไปคาดหวังกับความสวยงามอะไร เพราะตัวเกมจะเน้นแต่การเล่นแบบง่ายๆ สร้างอาวุธแปลกๆ ไอเทม หรือยานรบไว้ขี่ลุยแบบเป็นหลัก


จุดเด่น

– ระบบคลาสทหารที่เลือกใช้ได้อิสระขึ้น แค่เปลี่ยนชุดก็มีผลแล้ว
– ระบบสร้างตัวละครมีความหลากหลายมากขึ้น ผู้เล่นสามารถเลือกเปลี่ยนเพศหรือหน้าตาได้ตลอดเวลา
– การเล่นในภาคนี้สามารถแบ่งจอเล่น 2 คนด้วยเครื่องเดียวได้ (Split Screen)

จุดด้อย

– กราฟิกและโมชั่นการเคลื่อนไหวต่างๆ ช่างดูตกยุคเหลือเกิน
– การเล่นแบบซิงเกิลเพลเยอร์ค่อนข้างน่าเบื่อมาก ฉากต่างๆ ก็รียูส วนใช้ซ้ำๆ รัวๆ
– ระบบการใช้ไอเทมแล้วหักเงิน ทำให้ผู้เล่นต้องเสียเวลาฟาร์มเงินในช่วงแรกของเกมค่อนข้างมาก
– เนื้อเรื่องสุดเบาโหวง ดำเนินตามสูตรธรรมะชนะอธรรม ไม่มีแฝงแง่มุม ไม่มีจุดหักมุม หรือแม้แต่ไคลแม็กซ์ใดๆ ที่ควรแก่การจดจำ

สรุป

แม้ว่าตัวเกมจะมีการปรับปรุงจากภาคก่อนๆ มาเยอะ แต่รวมๆ แล้วก็ยังไม่มีลูกเล่นอะไรที่ทันสมัยเท่าไหร่ ในระดับความยากปกติก็พอจะเล่นได้แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก แค่เดินหน้ายิงล้างผลาญไปให้ผ่านฉาก แต่ถ้าจะเล่นระดับยากขึ้นอาจจะต้องทนเล่นด่านซ้ำๆ เพื่อเก็บเงินซื้อของบ้าง อย่างไรก็ตาม เกมนี้เหมาะกับการเล่นหลายคนมากกว่าเล่นคนเดียวครับ เพราะการเล่นเดียวมันจะพาลเบื่อง่าย หากการหาผู้เล่นมาแจมแบบออนไลน์มันยากเกินกำลังจริงๆ อย่างน้อยการหลอกเพื่อนมาเล่นแบบแบ่งจอด้วยกันก็ยังมีข้อดีมากกว่าการเล่นคนเดียว ทว่าถ้าจะให้ดีสุดก็ควรเล่นออนไลน์แบบ 6 คน (จากเท่าที่ทำการทดสอบหาห้องก็เจอคนญี่ปุ่นเล่นอยู่ตลอดครับ สามารถเข้าไปแจมได้ไม่ยากนัก)

คะแนน 6 / 10

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้