Sekiro: Shadows Die Twice คะแนนความยากบอสทั้ง 12 ตัว ในการทำ No Damage

     เกือบจะครบเดือนกันแล้วสำหรับเกม Sekiro: Shadows Die Twice หลายคนทยอยเล่นจบกันไปหลายรอบแล้วเช่นกัน ซึ่งทางผมก็เคยเขียนบทความว่าการเล่น New Game+ ของ Sekiro นั้นไม่ค่อยน่าดึงดูดเท่าไหร่เพราะท่าบอสต่างๆ ของต่างๆ ก็อยู่ที่เดิมหมด หากเราเล่นรอบแรกแล้วเก็บของหมดแล้วก็แทบจะไม่เหลืออะไรน่าตื่นเต้นในการเล่น NG+ เลย ดังนั้นเมื่อจบ NG+ อีกครั้งทางผู้เขียนจึงได้ตัดสินใจว่า “จะผ่านบอสทุกตัวแบบ No Damage ให้ได้” และนั่นก็ทำให้เกิดความตื่นเต้นในการเล่นอีกครั้ง และหลายๆ บอสก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากการเล่นแบบปกติมากเลยทีเดียว ตรงนี้เรามาดูความยากง่ายของแต่ละตัวกันดีกว่าว่าบอสในการทำ No Damage นั้น ยากง่ายขนาดไหน?

ปล. ในการสู้บอสแต่ละตัวนั้นจะเน้นการฟันแบบปกติเป็นหลัก และใช้วิชาท่าหรือแขนกลน้อยที่สุดหากไม่จำเป็นจะไม่ใช้เลยนะครับ


บอสตัวแรก โอนิเกียวบุ (Gyoubu)

     สำหรับเกียวบุนั้นนับได้ว่าเป็นบอสตัวแรกและบอสที่ง่ายที่สุดในเกม (หากคุณไม่ไปปราสาทฮิราตะก่อน) โดยเป็นบอสที่หลายคนสามารถเอาชนะได้ในการเล่นครั้งเดียว ซึ่งการทำ No Damage ของบอสตัวนี้ก็เรียกได้ว่าง่ายมากๆ แค่ยืนบล็อคไว้เฉยๆ ก็แทบจะไม่เสียเลือดแล้ว แถมท่าแดงทะลุการ์ดก็มีน้อยและรับมือได้ง่าย จะมีจุดที่ชวนพลาดก็คือจังหวะที่เกียวบุควงหอกด้วยเชือกซึ่งเป็นจังหวะที่เราสามารถใช้สลิงกระโดดไปหาเขาได้และเป็นจังหวะที่สามารถพลาดท่าโดนหอกตรงนั้นได้เช่นกัน ส่วนท่าอื่นๆ หากเราใจเย็นแล้วยืนบล็อครอสวนไปเรื่อยๆ (ถ้าแพรี่ได้ก็จะยิ่งดีเพราะหลอด Posture ของเกียวบุขึ้นเร็วมาก) แค่นี้ก็สามารถเก็บ No Damage ได้ไม่ยาก

ให้คะแนนความยากการทำ No Damage : 6/10


บอสตัวที่สอง ป้าโอโจ้ (Lady Butterfly)

     สำหรับป้าโอโจ้นับได้ว่าเป็นตัวสอนมวยผู้เล่นชั้นดี ส่วนมากพอผ่านมาได้แล้วกลับมาเจออีกครั้งก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าง่ายขึ้นกว่าเดิมมากๆ ซึ่งท่าของป้าก็ไม่ได้มีหลากหลายเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะท่าแดงที่เห็นได้ชัดและมีแค่สองท่า หากใช้บนพื้นก็ให้กระโดดหลบเหยียบหัว หากเป็นท่าแดงเวลาป้าเดินบนเส้นเอ็นเหนือหัวก็ให้แดชถอยหลังก็สามารถแทงฟรีได้ 1 ที แม้เฟดแรกกับเฟดสองท่าจะไม่ต่างกันมาก แต่ปัญหานั้นก็คือเฟด 2 ป้าจะปล่อยผีเสื้อที่ไม่สามารถบล็อคหรือแพรี่ได้ และนั่นเป็นอุปสรรคอย่างมากในการทำ No Damage เพราะบางทีฟันๆ อยู่ ป้าอยากจะปล่อยก็ปล่อยออกมาซะเฉย! ทำให้ต้องเปลี่ยนสไตล์จากแพรี่ล้วนในเฟดแรก มาคอยวิ่งหนีดูจังหวะมากขึ้นเพื่อหลบผีเสื้อ ส่วนวิชาลวงตาที่ปล่อยเด็กเงามา แม้จริงๆ จะวิ่งวนรอป้าสลายเป็นผีเสื้อพุ่งใส่เราก็ได้ แต่เพื่อไม่ให้เสียเวลาจึงขอใช้ เมล็ดกังวาล (Snap Seed) เพื่อจบเกมไวดีกว่า

ให้คะแนนความยากการทำ No Damage : 8/10


บอสตัวที่สาม เก็นอิจิโร่ (Genichiro)

     อีกหนึ่งบอสที่จะมาช่วยฝึกแพรี่เป็นอย่างดี หากใครเคยเล่นจบแล้วมาเจออีกทีใน NG+ (โดยเฉพาะฉากจบที่ไม่ใช่ Shura) ก็คงได้เจอเก็นอิจิโร่ก่อนป๋าอิชชินกันไปหลายรอบ (ไม่ได้ตายกับเก็นอิจิโร่นะ แต่ตายกับอิชชินเนี่ยแหละ ฮา) ซึ่งหากผู้เล่นผ่านจุดนั้นมาได้ การมาเจอกับเก็นจังใน NG+ ก็คงไม่ใช่เรื่องยากสักเท่าไหร่ แต่ถึงอย่างนั้นการเจอกันบนปราสาทอาชินะเพื่อจะทำ No Damage ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนการสู้ปกติ เพราะพี่แกก็มีท่าที่ชวนให้สับสนบ้าง โดยเฉพาะท่าสับดาบที่หากเราแพรี่ได้ก็จะมีท่าแทงสวนมาให้ทำมิกิริได้ง่ายๆ แต่บางทีก็เปลี่ยนจากท่าแทงเป็นท่ากวาดดาบที่ต้องกระโดดหลบซะงั้น ซึ่งบางทีเราชิน Moveset แบบเดิมมากเกินไปก็ชวนพลาดแบบงงๆ ได้เช่นกัน อีกทั้งในเฟด 3 ท่าสายฟ้าที่ปกติอยากให้พี่แกใช้บ่อยๆ เพราะสามารถรับแล้วสะท้อนได้ แต่เมื่อตั้งเป้าจะทำ No Damage ก็เท่ากับว่าเราห้ามไปรับสายฟ้าเด็ดขาด จึงทำได้แค่หลบเพียงอย่างเดียว แต่ถือเป็นเรื่องโชคดีที่ท่าสายฟ้านั้นหลบไม่ยากมากนัก เป็นบอสอีกตัวที่ไม่ว่าจะสู้กี่ครั้งก็ยังรู้สึกสนุกจริงๆ

ให้คะแนนความยากการทำ No Damage : 7/10


บอสตัวที่สี่ วานรราชสีห์ (Guardian Ape)

     เชื่อว่าหลายๆ คนเจอ วานรราชสีห์ ครั้งแรก ก็คงเล่นสไตล์วิ่งหนีเพื่อหาจังหวะฟันกันเสียส่วนใหญ่ เพราะด้วยฉากที่กว้างทำให้มีพื้นที่วิ่งค่อนข้างมาก แถมท่าของเจ้าวานรนี้ก็แอบดูยากพอสมควร ซึ่งพอลองเล่นชนกับมันซึ่งๆ หน้าดู ก็ต้องใช้เวลาค่อนข้างมากทีเดียวกว่าจะจับท่ามันได้หมด แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีท่าที่พลาดได้ง่ายๆ อยู่ดี ทำให้ต้องเล่นใจเย็นเป็นอย่างมาก และในส่วนของเฟดสองนั้น ความยากก็คือท่าที่เปลี่ยนไปจากเฟดแรกโดยสิ้นเชิง ซึ่งในเฟดนี้ต้องเน้นการแพรี่ปัดดาบให้ได้เพื่อให้บอสใช้ท่าใหญ่ที่หากเราปัดดาบได้จะทำให้มันล้มฟันฟรีได้หลายที (หากมันล้มสามารถใช้หอกดึงตะขาบออกมาได้ เพิ่มค่า Posture เยอะมาก) ซึ่งจุดที่ทำ No Damage ยากจริงๆ ก็คือท่าคำรามเพิ่มความหลอนที่ในบางครั้งหากเรามัวแต่ฟันจะทำให้วิ่งหนีออกมาไม่ทันจึงต้องขอใช้ร่มม่วงเพื่อป้องกันสักหน่อย 

ให้คะแนนความยากการทำ No Damage : 8/10


บอสตัวที่ห้า วานรราชสีห์หัวขาด (Headless Ape)

     สำหรับเจ้าตัวนี้เป็นบอสทางเลือก กับการกลับมาย้ำแค้นอีกครั้งสำหรับเจ้าลิงหัวขาด ซึ่งในเฟดแรกนั้นค่อนข้างง่ายกว่าเดิมมากเพราะพี่แกจะปล่อยท่าใหญ่ค่อนข้างเยอะซึ่งหากแพรี่ได้สำเร็จก็จะทำให้มีจังหวะตีหลายทีมาก แต่ที่หนักหนาที่สุดก็คงเป็นเฟด 2 ที่เจ้าลิงหัวขาดจะคำรามเรียกคู่ขาของมันมารวมสหบาทาตัวเรา เป็นการผสมผสานระหว่างวานรราชสีห์ เฟด1 และเฟด2 แบบพร้อมกัน ซึ่งในตอนแรกพยายามจะสู้แบบปกติหลายรอบมาก แต่บอกตรงๆ เลยว่าทำไม่สำเร็จจริงๆ ครั้นจะสู้บอสตัวเดียว No Damage ก็ยากจะแย่อยู่แล้ว เล่นเจอสองตัวพร้อมกันแบบนี้ยิ่งไม่ต้องพูด เลยต้องขอใช้ประทัดจัดการเจ้าลิงตัวช่วย ก่อนที่จะมาปราบเจ้าหัวขาดอีกครั้ง 

ให้คะแนนความยากการทำ No Damage : 9/10 (ทะลุ 10 หากไม่ใช้ประทัดช่วย)


บอสตัวที่หก นักรบสงฆ์ร่างเงา (Corrupted Monk)

     สำหรับนักรบสงฆ์นั้นก็เป็นอีกหนึ่งบอสที่ในการเจอครั้งแรกค่อนข้างยากพอสมควรโดยเฉพาะร่างเงาที่มีการออกท่าหลากหลายมาก แถมเมื่อจับท่าได้จังหวะแพรี่ในท่าเดียวกันก็สามารถต่างกันหากเรายืนอยู่ตำแหน่งที่ใกล้ไกลต่างจากเดิม (เพราะความยาวของง้าวทำให้เวลาเหวี่ยงระยะใกล้จะโดนด้ามก่อนปลายง้าว) แม้เจ้าตัวนี้จะสามารถใช้ทริคผ่านได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ Snap Seed, ขี้เถ้า และประทัด ผสมกัน แต่หากเล่นเอา No Damage แบบนั้นคงไม่ประทับใจเท่าไหร่ จึงต้องลองขอลุยจังๆ สักตั้ง ซึ่งหากจับท่าได้ตัวมันก็ไม่ได้ยากมากนักและเป็นอีกหนึ่งบอสที่สู้ได้สนุกมากเลยทีเดียว (ส่วนตัวมองว่าผู้ทำเกมต้องการให้ใช้ Snap Seed เล็กน้อยเพื่อลดพลังชีวิตของนักรบสงฆ์ร่างเงา เพื่อทำให้การสู้ช่วงต้นง่ายขึ้น ไม่อย่างนั้นค่า Posture ของมันจะลดเร็วเป็นอย่างมาก)

ให้คะแนนความยากการทำ No Damage : 8/10


บอสตัวที่เจ็ด นักรบสงฆ์ร่างจริง (True Corrupted Monk)

     เอาจริงๆ ตัวนี้เราจะเจอในภายหลัง (อย่างน้อยๆ ต้องสู้กับฟุคุโร่ก่อน) แต่ขอลัดคิวพูดต่อกับตัวร่างเงาเลยจะได้เห็นภาพง่ายๆ แม้นักรบสงฆ์ร่างจริงจะมีถึง 3 เฟดดูเยอะ แต่เอาเข้าจริงๆ แต่ละเฟดนั้นก็ตายไวมากหากเราแพรี่ได้เยอะและดันค่า Posture ได้เร็ว (หากใช้ทริคลอบสังหารในเฟด 1 และ 2 ยิ่งเร็วกว่าเดิม แต่เราไม่ทำ ฮา) โดยในเฟด 1 กับ 2 นั้น มีท่าที่ไม่ต่างกันและเป็นท่าที่สามารถป้องกันได้ง่ายๆ (เฟด 2 แค่เพิ่มท่าหายตัวและร่างเงาเท่านั้น ซึ่งหากเราเอาหลังชิดกำแพงก็สามารถป้องกันได้ไม่ยาก) แต่ที่ป่วนจริงๆ ก็คือเฟด 3 ที่นักรบสงฆ์จะเผยตะขาบออกมาจากปาก ซึ่งท่าที่ชวนพลาดมากที่สุดคือท่าพ่นพิษที่จะทำให้เราติดสถานะหลอน แม้จะสามารถแดชหลบด้านข้างได้ง่ายๆ แต่ด้วยความที่มันมักใช้ตอนทีเผลอ หรือใช้เป็นท่าต่อเนื่องเวลาเรากระโดดหลบท่ากวาด ทำให้ตัวผมพลาดเสียเลือดกับท่านี้เยอะมาก กว่าจะจับท่าได้จริงๆ ก็ทำเอาเหงื่อตกเช่นกัน ยังดีที่คุ้นชินท่าจากร่างเงามาพอสมควร ทำให้สามารถรับมือกับมันได้ง่ายขึ้น

ให้คะแนนความยากการทำ No Damage : 8/10


บอสตัวที่แปด ยอดนินจาฟุคุโร่ (Great Shinobi Owl)

     การกลับมาเจอพ่อบุญธรรมฟุคุโร่ครั้งแรกที่ปราสาทอาชินะนั้น แม้ในการเล่นปกติจะผ่านได้ไม่ยากเย็นมากนัก แต่การจะเล่นเพื่อทำ No Damage นั้นก็อีกเรื่อง เพราะตัวฟุคุโร่เองสามารถปาดาวกระจายที่สามารถป่วนเราได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังมีประทัดที่หากโดนตอนเผลอกระโดดหลบไม่ทันก็เสียเลือดได้ง่ายๆ เช่นกัน แถมหลายๆ ท่า ถ้าเราไม่เสี่ยงก็จะมีโอกาสสวนกลับค่อนข้างยาก แม้ท่าจะไม่หลากหลายแต่ก็ต้องใช้สมาธิในการเล่นอย่างมากเลยทีเดียว อีกทั้งในเฟด 2 จะเปลี่ยนจากการปาดาวกระจายเป็นสาดพิษแทน ซึ่งในบางช่วงก็จะส่งผลจำกัดพื้นที่การวิ่งของเราไปด้วย แต่โดยรวมท่าทั้ง 2 เฟด ก็ไม่แตกต่างกันมากนัก ทำให้หากตั้งสมาธิจริงๆ ก็สามารถทำได้ไม่ยากเย็นเท่าไหร่

ให้คะแนนความยากการทำ No Damage : 8.5/10


บอสตัวที่เก้า ฟุคุโร่พ่อบุญธรรม (Owl Father)

     การเจอกับฟุคุโร่ร่างหนุ่มที่ปราสาทฮิราตะ ซึ่งสามารถเจอได้หากเลือกเส้นทางการทำฉากจบ Purification ที่งานนี้บอกเลยว่าจัดจ้านกว่าตอนเจอครั้งแรกมาก ด้วยท่าหลอกสารพัดไม่ว่าจะเป็นท่ายืนสับที่หอกเราแดชหลบข้างไวไป พี่แกก็จะเปลี่ยนเป็นกวาดดาบรอบตัวทันที รวมไปถึงท่าคอมโบที่จะสาดประทัดก่อนฟันใส่เราซึ่งกว่าจะจับทางได้ก็โดนไปหลายรอบ แถมในเฟด 2 นั้นฟุคุโร่ยังสามารถใช้นกฮูกในการหายตัวและเข้ามากระโดดสับเราทีเผลอได้ และปล่อยนกฮูกไฟพร้อมคอมโบท่าแทงระยะไกลอีกต่างหาก แม้ท่าจะดูไม่เยอะมากหากดูกันจริงๆ แต่ด้วยความเร็วของการใช้แต่ละท่าที่ทำให้ประมาทไม่ได้เลย และท่ายิบย่อยที่ชวนพลาดบ่อยแบบสุดๆ ทำให้กว่าจะทำ No Damage พ่อบุญธรรมตัวนี้ได้ ก็เล่นเอาท้อไปเหมือนกัน

ให้คะแนนความยากการทำ No Damage : 9.5/10


บอสตัวที่สิบ อิชชิน ดาบเทวดา (Isshin The Sword Saint)

     สำหรับตัวนี้กว่าจะจบแบบปกติก็ล่อตายไปเกือบ 30 ครั้งกว่าจะผ่าน แต่เมื่อตั้งมั่นว่าจะทำ No Damage ให้ได้ ก็ต้องลองลุยกันสักตั้ง สำหรับร่างแรกที่เจอเก็นอิจิโร่ ก็ไม่ค่อยมีปัญหาสักเท่าไหร่เพราะท่าจับได้ง่าย แถมท่าใหม่ในร่างนี้ที่เพิ่มมาก็สามารถหลบได้ง่ายๆ แต่ที่ลำบากคือตอนเริ่มสู้กับอิชชินที่มีท่าพลิกแพลงเยอะมาก โดยเฉพาะท่าอิไอเก็บดาบที่หากเรายืนอยู่ไกลจะออกอีกท่านึง แต่หากอยู่ใกล้ก็จะออกอีกท่าแทน ทำให้ต้องคอยสังเกตตลอดเวลาว่าจะรับมือแบบไหน ยิ่งในเฟด 3 ที่พี่แกหยิบหอกเปลี่ยนท่าจากเฟด 2 ไปเยอะพอสมควรก็ทำให้เราต้องปรับตัวกับการรับมือท่าใหม่ๆ เพิ่มไปอีก โชคยังดีที่เฟด 4 สุดท้ายท่าไม่ต่างจากเฟด 3 มากนัก แม้แต่ละท่าของอิชชินหากจำได้ก็จะมีรูปแบบในการรับมือที่ชัดเจน แต่การต้องสู้กับศัตรูที่เปลี่ยน Moveset ถึง 3 ท่าด้วยกันในรอบเดียว และห้ามพลาดเลย ก็ถือได้ว่ายังสมเป็นบอสสุดโหดที่สุดอยู่ดี

ให้คะแนนความยากการทำ No Damage : 10/10


บอสตัวที่สิบเอ็ด อิชชิน อาชินะ (Isshin Ashina) ฉากจบ Shura

     ในส่วนของ อิชชิน ฉากจบ Shura นั้น ตัวผมไม่เคยสู้มาก่อนเลย และมาเจอครั้งแรกใน NG+3 เพื่อจะทำฉากจบ Shura เป็นฉากสุดท้าย แต่ด้วยความคล้ายของท่าเทียบกับอิชชินร่างดาบเทวดาในเฟด 2 ก็ทำให้สามารถอ่านท่าได้ไม่ยากมากนัก ที่รู้สึกติดขัดจริงๆ ก็คือเอมม่าในช่วงแรกที่ท่าไม่เหมือนกับตัวละครไหนเลย (คล้ายๆ กับมินิบอสรินแห่งมุบิบ้าง) ทำให้เสียเวลาจับท่าของเอมม่าค่อนข้างเยอะ แต่ถึงอย่างใน อิชชิน ในเฟดสุดท้ายก็มีท่าสุดป่วน นั่นก็คือท่าพื้นไฟที่อิชชินจะทำการพุ่งอิไอใส่เราแถมฟันดาบรัวๆ รอบตัวด้วยความเร็วแสง ซึ่งเป็นท่าที่ต้องแพรี่ให้เป๊ะและกระโดดหนีให้ทันเพื่อออกจากรัศมีของดาบให้เร็วที่สุด ซึ่งกว่าจะฝึกให้รับมือท่านี้ได้ 100% ก็เป็นเรื่องที่ยากพอสมควรเช่นกัน ส่วนวิธีง่ายๆ ในการรับมือท่านั้นอีกแบบก็คือการสาดประทัดใส่เพื่อหยุดยั้งท่านี้ แต่ในเมื่ออยากจะทำ No Damage แบบเจ๋งๆ แพรี่ปัดได้สวยๆ ก็ดูเท่กว่าอยู่แล้ว ฮา

ให้คะแนนความยากการทำ No Damage : 9/10


บอสตัวที่สิบสอง ปีศาจแห่งความแค้น (Demon of Hatred)

     ไหนๆ ทำมาขนาดนี้ ก็คงจะพลาดไม่ได้กับบอสลับที่ขึ้นชื่อเรื่องความยาก กับปีศาจแห่งความแค้น เอาแค่เล่นให้ผ่านก็ยากแล้ว (ตายมากกว่าเจออิชชินรอบแรกอีก) แต่จะทำ No Damage นี่ต้องบอกจริงๆ ว่า ตายไปเกือบจะ 100 รอบได้ กว่าจะจับท่าได้ทั้งหมดก็ยากแล้ว แต่การจะหลบให้ไม่พลาดเลยก็ยิ่งยากไปอีกขั้น โดยเฉพาะท่าใดๆ ก็ตามที่เป็นท่าไฟ เพราะต่อให้แพรี่ได้ก็จะโดนความเสียหายอยู่ดี งานนี้จึงต้องขอบัฟดาบกับใช้โล่กันไฟสักหน่อย ไม่อย่างนั้นชาตินี้คงเล่นไม่ไหวจริงๆ ฮา เป็นบอสอีกตัวที่พอทำ No Damage ได้แล้วฟินยิ่งกว่าฟิน เหมือนกับความรู้สึกที่เคยเล่นชนะมันครั้งแรกแบบคูณสองกันเลย

ให้คะแนนความยากการทำ No Damage : 10+/10


     ทั้งหมดนี้ก็เป็นการทดลองการทำ No Damage แบบล้วนๆ ดู หากใครที่เล่นจนจบแล้วเริ่มรู้สึกว่าเกมไม่ท้าทาย ส่วนตัวก็แนะนำให้ลองสร้างเงื่อนไขแล้วผ่านในแบบที่ยากขึ้นดู ก็จะทำให้เกมกลับมาสนุกและท้าทายได้มากเลยทีเดียว ยิ่งหากใครที่เข้มๆ อาจจะลองคืนเครื่องรางให้คุโร่ซึ่งคราวนี้ก็จะต้องแพรี่ให้ได้อย่างเดียวถึงจะไม่เสียเลือด ก็เป็นอีกทางเลือกการเล่นที่ท้าทายไม่แพ้กัน งานนี้ใครกลายเป็นผู้ “เสพติดความยาก” แม้มันจะยากแต่อารมณ์หลังทำได้มันฟินสุดๆ นี่แหละ ที่ทำให้เลิกการเล่นแบบนี้ไม่ได้จริงๆ ฮา (ในส่วนของบอสทั้งหมดจะขอตัดบอส 4 ลิง กับบอสมังกรนะครับ เพราะทั้งสองตัวนั้นค่อนข้างง่าย และใช้รูปแบบการเล่นที่เฉพาะทางนะครับ)

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้