ไม่นานมานี้ได้มีข่าวสะเทือนวงการเกมครั้งมโหฬารครับ เมื่อทางค่ายเกมยักษ์ใหญ่อย่าง Activision Blizzard ได้เตรียมประกาศเลิกจ้างพนักงานจำนวนหลายร้อยคน หลังประสบปัญหายอดขายเกมที่ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ส่งผลให้หุ้นของบริษัทร่วงลงมา 2.5% จนเหลือมูลค่าหุ้นเพียง 42.88 เหรียญสหรัฐฯ เท่านั้น โดยการเลิกจ้างพนักงานจำนวนมากขนาดนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับโครงสร้างภายในองค์กร และเป็นการเร่งผลกำไรไปในตัว ทั้งๆ ที่เมื่อสิ้นปี 2017 ทาง Activision เพิ่งจะรับคนเพิ่มเข้ามาถึง 9,800 คนด้วยซ้ำ
สำหรับสาเหตุหลักในการเลิกจ้างพนักงานของทาง Activision มีการคาดการณ์ว่าอาจจะสืบเนื่องมาจากยอดขายของเกม Destiny 2: Forsaken ทำได้น่าผิดหวังกว่าที่คิด แถมยังต้องแยกทางกับ Bungie ที่เป็นผู้พัฒนาเกมดังกล่าวด้วย และมีผลทำให้รายได้ประจำปีของ Activision ต้องลดลงมากถึง 400 ล้านเหรียญเลยทีเดียว
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์เพิ่มเติมว่า ยอดขายเกมของทาง Activision จะลดลงไปอีกประมาณ 2% ในปีนี้ และจะเหลือยอดขายรวมราวๆ 7,280 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 225,680 ล้านบาท) เท่านั้น นอกจากนี้ ในรอบปีที่ผ่านมา ทาง Activision ก็เสียบุคลากรฝ่ายบริหารไปหลายคน ซึ่งในจำนวนนั้นก็รวมคุณอีริค เฮิร์ชเบิร์ก ที่เป็น CEO ฝ่ายจัดจำหน่ายของ Activision และ ไมค์ มอร์ไฮม์ ตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของ Blizzard ด้วย
คงได้แต่ลุ้นเอาใจช่วยให้ Activision ผ่านพ้นมรสุมนี้ไป และกลับมาตั้งหลักได้ดังเดิมนะครับ
เครดิต: https://www.bloomberg.com
