รีวิว ACE COMBAT 7: SKIES UNKNOWN สู่สามัญสงครามแห่งท้องนภา

ACE COMBAT 7: SKIES UNKNOWN

แพลตฟอร์ม: PS4/PC
ผู้พัฒนา: BANDAI NAMCO Studios
ผู้จัดจำหน่าย: BANDAI NAMCO Entertainment

ทีมงาน OS ต้องขอขอบคุณทาง BANDAI NAMCO ที่เอื้อเฟื้อโค้ดเกม ACE COMBAT 7: SKIES UNKNOWN เวอร์ชั่น PS4 เพื่อใช้ในการรีวิวมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

———————————————————————————————-

ในยุคที่เกมแนวเครื่องบินมีให้เหล่านักบินได้เล่นไม่มากนัก ตำนานรุ่นเก๋าก็ได้ประกาศการกลับมาของซีรี่ส์ ACE COMBAT กับภาคที่มีชื่อว่า ACE COMBAT 7: SKIES UNKNOWN ออกมาให้เหล่านักบินได้ใจชื้นและเฝ้ารอคอยการกลับมาครั้งนี้อย่างใจจดใจจ่อกันไม่น้อยเลย หลายคนสงสัยว่ามันจะกลับมามอบประสบการณ์การขับเครื่องบินเจ็ทได้สนุกเหมือนเดิมหรือไม่ ? หลังจากที่ผมได้สัมผัสมาซักระยะหนึ่ง ก็พร้อมที่จะบอกกับเพื่อนๆ แล้วครับว่าภาคนี้มันเป็นอย่างไรบ้าง

ACE COMBAT 7: SKIES UNKNOWN จะพาทุกคนกลับสู่สงคราม 2 ฝ่ายระหว่าง Osean Federation และ Erusea ที่อยู่ในโลกสมมุติดั้งเดิมของซีรี่ส์นี้ โดยเราจะเป็นนักบินฝั่ง Osean Federation ที่มีโค้ดเนมว่า Trigger มีการเล่าเรื่องมุมมองของสงครามสอดแทรกผสมผสานกับดราม่าเป็นระยะ คิดว่าคนที่เป็นแฟนซีรี่ส์น่าจะชื่นชอบกัน ส่วนตัวกราฟิกของเกมเองถือว่าทำออกมาได้สวยสดงดงามมาก ผมค่อนข้างอิ่มเอมกับการที่ได้ขับเครื่องบินซีรี่ส์ F พุ่งทยานสู่ท้องฟ้าตัดกับแสงอาทิตย์ ผ่านกลุ่มเมฆฝนที่มีละอองน้ำกระเซ็นติดกระจก มิซไซล์ที่พุ่งออกจากใต้ท้องเครื่องแหวกอากาศไปปะทะกับเครื่องบินลำอื่นกลางอากาศ ทั้งหมดนี้มันช่างฟินสุดๆ ไปเลย ตัวโหมดเนื้อเรื่องเองก็มีภารกิจที่พยายามจะทำให้มีความหลากหลายมากขึ้น แต่บางอันก็แอบรู้สึกว่า ยังไงมันก็ต้องตายซักรอบนึงก่อนสินะ ถึงจะผ่านได้

โจทย์ที่ยากที่สุดของ ACE COMBAT 7: SKIES UNKNOWN ก็คงจะเป็นเรื่องของเกมเพลย์และการควบคุม ในโหมดการควบคุมแบบ Standard ก็อาจจะพอเข้าใจง่ายหน่อย (แต่ก็ยากสำหรับคนที่ไม่คุ้นชินอยู่ดี) แต่ในโหมด Expert นั้นจะค่อนข้างลำบากพอสมควรเลยทีเดียว แต่ก็แลกมากับการที่เราสามารถควบคุมตัวเครื่องบินได้ละเอียดอ่อนกว่า ถ้าหากคุณไม่ได้เป็นแฟนเกมซีรี่ส์นี้หรือเป็นคนที่เล่นเกมแนวเครื่องบิน ก็อาจจะต้องใช้เวลาฝึกการควบคุมค่อนข้างนานเลยทีเดียว อีกเรื่องที่น่าเป็นห่วงคือคนที่มีปัญหาเรื่อง Motion Sickness แม้ว่าตัวเกมจะดูช้าๆ แต่มันค่อนข้างมึนหัวได้ง่ายเลยทีเดียวครับ แต่!! ถ้าหากชั่วโมงบินเยอะแล้วหล่ะก็ เครื่องบินก็จะบินได้ดุจดั่งแขนขาและสนุกไปกับมันได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว แม้ว่าภาคนี้จะไม่มีการกดเข้าโหมด Dogfight แบบในภาค Horizon แต่มันก็สามารถทำได้ด้วยตัวเองค่อนข้างง่ายเลยครับ

โหมดการเล่นในภาคนี้นอกจากโหมดเนื้อเรื่องหลักแล้ว ก็จะมีโหมดที่น่าสนใจอยู่อีก 2 อย่างด้วยกันได้แก่ โหมดมัลติเพลย์เยอร์ ที่จะให้เราได้ออกสมรภูมิรบวัดฝีมือกับผู้เล่นอื่นแบบ Deathmatch ที่มีทั้งเดี่ยวและทีม ห้องละ 8 คน ซึ่งมันก็มีโหมดแค่นี้แหละครับสำหรับมัลติเพลย์เยอร์ ถ้าเป็นคนที่เบื่อง่าย เล่นไปไม่กี่ทีก็คงเบื่อแล้ว แต่ถ้าหากใครที่เป็นสายนักบินโดยตรงอยู่แล้วคงจะเพลิดเพลินได้เรื่อยๆ แน่นอน ส่วนอีกโหมดที่หลายคนฮือฮาและคาดหวังด้วยก็คือ VR Mission นั่นเองครับ ตัวผมเองก็คาดหวังเช่นกันนะ และมันก็ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียวสำหรับการขับเครื่องบินเจ็ทในรูปแบบ VR ของ ACE COMBAT 7: SKIES UNKNOWN ครั้งแรกที่ผมได้ลอง ผมเล่นจนลืมเวลา ลืมไปเลยว่านี่ผมเล่นเกมในเวลางานอยู่นี่หว่า มุมมองบางอย่างที่ทำให้เราสามารถเล่นได้ง่ายขึ้น ความรู้สึกของการขับไล่ต่างๆ มาเต็ม น่าเสียดายตรงที่ว่ามันเป็นเพียงแค่อาหารทานเล่นเท่านั้น เพราะมันมีให้เราเล่นแค่ 3 ภารกิจเองครับ ที่สำคัญ! ไม่แนะนำให้เล่นติดต่อกันเป็นเวลานาน จากที่ผมลองเล่นดู 20 นาทีก็เพียงพอต่อการที่ทำให้ผมปวดหัวไปครึ่งวันเลยครับ (แต่ไอ้รอบแรกอ่ะ เล่นชั่วโมงกว่าๆ ปวดหัวไปทั้งวัน)

จุดเด่น

– กราฟิกสวยงามมาก
– โหมดเนื้อเรื่องที่มีความพยายามหลากหลายของรูปแบบภารกิจ ทำให้ไม่น่าเบื่อเวลาเล่นเนื้อเรื่อง
– ถ้าเป็น PS4 มีโหมด VR ให้เล่นด้วย ฟินมาก
– การบังคับที่สามารถปรับเปลี่ยนแบบยาก/ง่ายได้ตามความต้องการ

จุดด้อย

– โหมดอื่นที่ไม่ใช่เนื้อเรื่อง แทบไม่มีความหลากหลาย เหมือนเป็นของแถมเฉยๆ
– เกมเพลย์ที่ดูเนิบๆ ทำให้เข้าถึงคนที่ไม่ใช่แฟนเกมแนวนี้ได้ยาก เกมก็เลยเฉพาะทางพอสมควร (ถ้ามี Dogfight เท่ๆ แบบ Horizon ก็อาจจะพอช่วยได้)
– ถ้าคุณเล่นโหมด VR ระวังปวดหัวหากเล่นนานเกินไป

ถ้าหากคุณกำลังหาเกมขับเครื่องบินสนุกๆ เกมเพลย์มันส์ๆ เนื้อเรื่องดีๆ ความสมจริงในด้านการขับแต่ไม่ถึงระดับ Simulator ACE COMBAT 7: SKIES UNKNOWN คือคำตอบที่สุด ณ ตอนนี้แล้ว เอาจริงๆ เรื่องการควบคุมให้เวลากับมันซักพัก พอชินแล้วก็จะง่ายเอง แต่มันจะไม่ได้เอะอะ Dogfight เอะอะบินสวนเท่ๆ สไตล์ Casual นะ มันก็มีความสมจริงของมันอยู่ แต่ที่น่าเสียดายนิดหน่อยก็คือโหมดมัลติเพลย์เยอร์กับ VR Mission ที่มาเป็นเพียงน้ำจิ้มเฉยๆ ถ้าหากมันสามารถเล่นเนื้อเรื่องทั้งหมดแบบ VR ได้คงเพลิดเพลินน่าดู ส่วนใครที่เป็นแฟนซีรี่ส์นี้อยู่แล้ว เล่นเถอะ ไม่ผิดหวัง