เอาล่ะ! ก่อนที่จะลุย เรามาทำความรู้จักกับ Blood Bowl กันสักนิดดีกว่า Blood Bowl คือเกมกีฬายอดฮิตในจักรวาลของ Warhammer ครับ ด้วยเหตุนี้ทำให้ตัวละครส่วนใหญ่ในเกมนั้นล้วนแต่เป็นตัวละครที่เราคุ้นเคยกันดีอย่าง มนุษย์ คนแคระ พราย หรือออร์ค ซึ่งเกมกีฬาที่ว่านี้ก็มีทฤษฎีที่เข้าใจง่ายๆ ครับ ก็คือ “ทำอย่างไรก็ได้เพื่อพาบอลไปให้ถึงยัง End Zone ของอีกฝ่ายโดยที่ผู้ถือยังครบ 32 ดีทุกประการ”
เชียร์ลีดเดอร์คือสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับศึกคนชนคน แต่พวกเธอไม่ได้มาแค่โยกซ้ายโยกขวาเท่านั้น พวกเธอยังมีผลต่อการเล่นด้วยนะเออ
ระบบการเล่นภายในเกมถูกแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ แบบแรกก็คือแบบ Real Time หรือก็คือ RTS นั่นเอง รูปแบบการเล่นนี้ก็คงพอที่จะเล่นได้เพลินๆ ครับ ไม่ได้ดีเยี่ยม แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร แต่ทว่ารูปแบบการเล่นจริงๆ ของเกมนี้ก็คือรูปแบบการเล่นแบบ Turn-Based ตามกฎของเกมกระดาน ซึ่งเป็นต้นแบบของมันครับ แม้อาจจะไม่เหมือนทีเดียว แต่เกมก็ยังคงไว้ซึ่งข้อดีทุกอย่างของเกมกระดานเอาไว้ได้เกือบจะครบถ้วน
ระบบ Turn-Based อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำความเข้าใจ แต่ถ้าคุณทำความเข้าใจกับมันได้สำเร็จ คุณก็จะได้พบว่ามันสมองสำคัญต่อเกมลูกหนังเพียงใด
ผู้เล่นแต่ละคนในเกมนี้ แม้จะมีเผ่าพันธุ์เดียวกัน และตำแหน่งการเล่นเดียวกัน แต่ก็มีโอกาสที่จะไม่เหมือนกัน เพราะทักษะและความสามารถครับ ภายในเกมคุณสามารถที่จะพัฒนาผู้เล่นของคุณไปได้เรื่อยๆ จนกว่าเขาจะตายคาสนาม หรือแก่ตัวจนเล่นไม่ไหวจนต้องเลิกเล่นไป คุณสามารถจะพัฒนาตัวละครของคุณไปในทิศทางใดก็ได้ที่คุณต้องการครับ เป็นการใส่ความเป็น RPG เข้าไปในเกม Sport ส่งผลให้เป็นไปได้ยากมากๆ ที่จะได้พบปะกับฝาแฝดของคุณบนโลกออนไลน์
แผนการเล่นก็คืออีกหนึ่งไม้ตายในเกมนี้ มีแผนดีก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว
ใช่แล้ว! เกมนี้ก็มีระบบ Multiplayer เหมือนกัน ซึ่งก็นับว่ามีความสำคัญอย่างมากเพราะการแข่งขันกับมนุษย์ด้วยกันนั้นสะใจกว่า AI มาก คุณสามารถ Export ทีมที่คุณปั้นมากับมือไปก่อเหตุนองเลือดกับผู้เล่นคนอื่นผ่านทางอินเตอร์เน็ต หรือจะผลัดตากันเล่นบนพีซีเครื่องเดียวในรูปแบบ Turn-Based ก็ได้ หรือจะ LAN หรือ Direct IP ก็มี ไม่บ่อยนักหรอกนะที่เราจะได้เห็นเกมที่มีระบบ Multiplayer ครบครันคุ้มค่าแบบนี้ ปัญหาอย่างเดียวคือระบบ Multiplayer นั้นไม่ค่อยเสถียร คุณจะได้พบปัญหายิบย่อยจุกจิกมากมาย (แต่ทว่าปัญหานี้จะหมดไปเมื่อคุณทำการอัพเดตเกมให้กลายเป็นแพตช์ปัจจุบัน ซึ่งขณะเขียนบทความนี้อยู่ก็คือแพตช์ 1.0.1.7 โดยแพตช์ตัวนี้สามารถแก้ปัญหาออนไลน์ไปได้เรียบร้อยแล้ว… ดังนั้นแนะนำให้เล่น)
"Touch Down!! Touch Down!! Touch! Touch! Tocuh! Touch Down!!"
ต่อไปที่ควรจะพูดถึงสักนิดก็คือในส่วนของเอนจิ้นที่ใช้ภายในเกม ถึงแม้จะไม่ได้งดงามเหมือนกับเกม Next-Gen อื่นๆ แต่ก็จัดได้ว่าไม่ได้เลวร้าย คุณสามารถใช้เครื่องระดับกลางๆ รันเกมนี้ในแบบ High All ได้อย่างราบรื่นสบายตัว โดยไร้อาการสะอึกใดๆ ให้เห็นแม้แต่น้อย (เครื่องระดับกลางที่ผมว่าก็คือเครื่องสำหรับนักเล่นเกมนะครับ ไม่ใช่เครื่องตามออฟฟิศทั่วๆ ไป)
ปัญหาขัดใจอีกอย่างก็คือระบบการเล่นแบบ RTS ของเกม ซึ่งปัญหาก็คือรูปแบบการเล่น RTS ของเกมนั้นจืดชืดไปหน่อย และจะจืดชืดเอามากๆ ถ้าคุณไม่ใช่สาวก RTS พันธุ์แท้ ปัญหาข้อสุดท้ายที่จะไม่ให้พูดถึงเลยคงไม่ได้ก็คือ DRM!! ใช่แล้วครับ เกมนี้มีสิ่งไม่พึงประสงค์สำหรับชาวพีซีติดมาด้วย และเป็นหนึ่งในปัญหาที่แย่ที่สุดที่เจอในเกมนี้ครับ
อาการบาดเจ็บภายในเกมมีมากมาย แค่มึนๆ หมดสติ มีอะไรสักอย่างแตกหัก และเสียชีวิต ช่างเป็นกีฬาที่ใช้ผู้เล่นได้เปลืองดีจริงๆ
สรุปแล้วเมื่อหักลบข้อดีข้อเสียเรียบร้อย เกม Blood Bowl เป็นหนึ่งในเกมที่ดีที่สุดเกมหนึ่งของปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคอกีฬาและจอมวางแผน นี่คืออีกเกมที่คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ
ความเห็นแรก
คะแนน 85
ข้อดี: ระบบ Turn-Based สุดมันส์ ที่มีสมดุลดีเยี่ยม, การกลับสู่โลก Warhammer อีกครั้ง, ระบบการพัฒนาตัวละครที่ออกแบบมาได้ดีมากๆ และระบบ Multiplayer ที่สมบูรณ์แบบ
ข้อด้อย: ระบบ RTS ที่ไม่มีความสมดุลเอาเสียเลย, ระบบการเล่นที่ยากต่อการเข้าใจสำหรับผู้เริ่มต้น และ DRM!!
โดยรวม: เป็นหนึ่งในเกมที่คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ยกเว้นแต่ว่าคุณต้องการซื้อเกมนี้มาเพื่อเล่นในรูปแบบ RTS เท่านั้น
คุณสามารถพัฒนาตัวละครของคุณให้แหวกแนวแค่ไหนก็ได้ แน่นอนรวมไปถึงการกลายพันธุ์ด้วย
ความเห็นที่สอง
คะแนน 70
ส่วนตัวแล้ว ผมไม่ได้รู้เรื่องกฎกติกาของกีฬาคนชนคนเท่าไรนัก และก็ไม่ค่อยได้สนใจเกมกีฬาชนิดนี้เท่าไรอีกด้วย แต่เมื่อได้ยินว่าเกมนี้จำลองมาจากเกมกระดานในโลกของ Warhammer เท่านั้นล่ะ มันอดไม่ได้เลยทีเดียวที่จะต้องหามาเล่น คุณอาจจะต้องทำความเข้าใจกับกติกาต่างๆ อยู่บ้างในช่วงแรก ทั้งการปรับเปลี่ยนแผนการเล่น การวางตัวผู้เล่นให้เหมาะสม ซึ่งตรงนี้อาจจะทำให้นักเล่นชาวไทยถอดใจไปซะก่อน เพราะอเมริกันฟุตบอลมันก็สำหรับอเมริกันชนจริงๆ นั่นล่ะ แต่ถ้าคุณฝ่ากำแพงตรงนี้ไปได้มันก็เป็นเกมที่สนุกมากทีเดียวครับ และจะดีกว่านี้ถ้ามันไม่แถม DRM มาด้วย
