ถึงแม้ในตอนแรกจะหวั่นๆ อยู่บ้างว่าจะออกมาขายดีหรือเปล่า แต่ตอนนี้สบายหายห่วงได้แล้วครับ เพราะตอนนี้ Halo 3: ODST ขึ้นแท่นฮิตติดชาร์ตไปเรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อเร็วๆ นี้ทาง Microsoft ได้บอกกับหนังสือพิมพ์ USA Today ว่าภาคเสริมภาคนี้ (ซึ่งปราศจากตัวตนของ Master Chief) ได้สร้างยอดขายไปแล้วถึง 2.5 ล้านแผ่น ภายในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ หลังจากวางจำหน่ายไปเมื่อ 22 กันยายน ที่ผ่านมา แต่ทั้งนี้ไม่ได้ระบุว่าจำนวนดังกล่าวเป็นจำนวนทั่วทั้งโลกหรือในสหรัฐอเมริกา ซึ่งตอนนี้ Halo 3 (วางจำหน่ายเมื่อปี ค.ศ. 2007) ทำยอดขายไปได้แล้วกว่า 6.3 ล้านแผ่น จนถึงปัจจุบัน เกมเฟรนไชส์ Halo ทำยอดขายไปได้แล้วทั้งหมด 27 ล้านแผ่น ทั่วโลก
นอกจากนั้น Microsoft ยังบอกอีกว่า Halo 3: ODST ได้สร้างรายได้มหาศาลเข้าบริษัทแผนกความบันเทิงและสื่ออุปกรณ์ถึง $125 ล้าน และอาจจะเพิ่มแรงขับดันทางการเงินให้กับแผนกและชื่อ Microsoft Games Studios ได้อีกในอนาคตเมื่อวางจำหน่าย Forza Motorsport 3 ในวันที่ 27 ตุลาคม นี้ ซึ่งในระหว่างปีงบประมาณ ค.ศ. 2008 แผนกความบันเทิงและสื่ออุปกรณ์ได้เข้าสู่ช่วงที่สองของปีผลกำไรด้วยรายได้สุทธิเพียง $169 ล้าน เท่านั้น
เท่านั้นยังไม่พอ USA Today ยังได้ข้อมูลใหม่ของ Halo: Reach (Halo ภาคที่ 5 จากสตูดิโอ Bungie ผู้ให้กำเนิดเฟรนไชส์ Halo ซึ่งแยกตัวห่างจาก Microsoft มาเมื่อปี ค.ศ. 2007) มาอีกด้วย ว่าเหตุการณ์ภายในเกมจะเกิดขึ้นก่อน Halo ภาคแรกสุด ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่พวกเอเลี่ยน Covenant บุกโจมตี United Nations Space Command (UNSC) ดาวป้อมปราการของ Reach อย่างหนักหน่วง
“มันเป็น Prequel ของ Halo ครับ” นาย Frank O’Connor ไดเร็คเตอร์ฝ่ายสร้างสรรค์ของ 343 Industries สตูดิโอในเครือ Microsoft กล่าวกับหนังสือพิมพ์ USA Today “มันเป็น Prequel ในด้านของวันและเวลา ไม่ใช่ในทิศทางแบบที่ Prequel ของ Star Wars เป็นต่อภาคต้นฉบับ เกมนี้แค่ครอบคลุมเหตุการณ์ภายในและรอบๆ ดาว Reach เท่านั้น” เหตุการณ์ที่ว่ามานั้นยังครอบคลุมถึงนิยายแนวไซไฟชู้ตเตอร์ชิ้นแรกของซีรี่ส์ Halo: The Fall of Reach ผลงานของ Eric Nylund ผู้แต่งและร่วมเขียนบท Gears of War อีกด้วย และในนิยายนี้ยังลำดับเหตุการณ์ของ Master Chief และโปรแกรม SPARTAN ที่ทำให้เขาต้องเป็นซูเปอร์โซลเยอร์เอาไว้อีกด้วย
