Mission 12 : Dead Space
Restoration
ลงจากกระสวยมา ใช้ Kinesis ดึงตัวขนของที่อยู่ตรงที่นิโคลยืนอยู่ ดึงไปทางกระสวยจนมันเข้าที่ สำรวจสวิทช์ที่อยู่ทางซ้ายเพื่อเอา Marker มาวางบนตัวขนของ เสร็จแล้วเดินเก็บของให้ทั่ว โดยด้านหลังยานจะมี Node อยู่ด้วย เก็บของหมดแล้ว วิ่งไปยังฝั่งตรงข้ามแล้วเข้าห้อง Control Room Barracks เข้ามาแล้วเซฟที่จุดเซฟด้านซ้าย จากนั้นเดินไปเข้าประตูชื่อ Gravity Tether Control Room เพื่อเก็บของด้านใน เก็บหมดแล้วออกมาเข้าห้อง Gravity Tether Computer Room ด้านในเราจะเจอ Infector 2 ตัว ใช้ stasis เพื่อให้มันช้าแล้วยิงกระสุนแบบที่ 2 ของ Line Gun ใส่มัน จะทำให้มันตายง่ายขึ้น (ตรงนี้ต้องรีบฆ่ามันเพราะถ้าช้ามันจะออกไปห้องด้านนอกเพื่อคืนชีพศพ)
ฆ่าศัตรูหมดแล้ว ให้เปิดประตูห้องนี้ค้างไว้แล้วใช้ Kinesis ดึงเซลล์พลังงานที่อยู่มุมห้องออกมา เปิดประตูที่จะออกไปกระสวย (ต้องวางเซลล์พลังงานก่อน) เราจะได้เจอ Divider กำจัดส่วนต่างๆของร่างมันให้หมดแล้วใช้ Kinesis ดึงเซลล์พลังงานมาอีกครั้งแล้วเอาไปใส่ในช่องที่อยู่ทางซ้ายของประตู (อยู่ด้านนอก) ประตู Gravity Tether Operations A จะเปิดออก กลับไปที่ Marker แล้วดึงมาจนสุดทาง
เข้าประตู Gravity Tether Operations A ที่เพิ่งปลดล็อคไป ใช้ Kinesis ดึง Marker ต่อเข้าไปจนสุดแล้วสำรวจสวิทช์เพื่อปิดประตูด้านนอก เข้าห้องต่อไป ไปทางซ้ายเพื่อเก็บของแล้วเดินเข้าไปด้านใน ระบบจะตรวจจับสิ่งแปลกปลอมในห้องนี้และล็อคประตู ศัตรูกลุ่มใหญ่จะออกมาเล่นงานเรา มีทั้ง Slasher, Lurker และ Exploder พยายามพิงกำแพงไว้จะได้ไม่โดนลอบกัด ฆ่าพวกมันหมดแล้วเก็บไอเทมทั้งหมดที่อยู่ในห้องนี้ ไปที่สะพานใกล้ๆ Marker กดสำรวจที่สวิทช์เพื่อยกสะพานขึ้นแล้วรีบใช้ Stasis ให้สะพานหล่นช้าลง ลาก Marker ผ่านสะพานนี้ไป ที่สะพานต่อไปก็ทำแบบเดิมแต่จะมี Lurker ออกมาเล่นงานเรา 2 ตัว
Tip : มีเครื่องเติม Stasis อยู่รอบๆ ห้อง ใช้ให้เป็นประโยชน์
เมื่อมาถึงสะพานที่ 3 ทำแบบเดิม จะมี Exploder ออกมา 4 ตัว จากนั้นให้เข้าประตู Gravity Tether Core ลาก Marker เข้ามาในห้องนี้แล้วสำรวจสวิทช์เพื่อปิดประตูด้านนอกอีกครั้ง ประตูด้านในจะเปิดออก เข้าไปด้านในจะเจอ Guardian 2 ตัว มันจะอยู่ในระยะที่ค่อนข้างไกลพอสมควรจึงไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่แต่ให้ระวังพวกลูกๆของมันไว้เพราะมันทั้ง 2 ตัวจะปล่อยลูกออกมาเยอะทีเดียว เก็บของในห้องทั้งในล็อคเกอร์และที่หล่นอยู่บนพื้นให้หมด จากนั้นเดินไปเก็บของและซื้อของที่ Store ให้เรียบร้อย
ตอนนี้ตัวควบคุมสะพานจะใช้การไม่ได้ เข้าห้องที่อยู่ระหว่าง Guardian ทั้ง 2 ตัว เราจะเข้ามาอยู่ในท่อที่เป็นเขตไร้แรงดึงดูด ทางซ้ายจะมีล็อคเกอร์ให้เก็บของก่อนแล้วเดินเข้าไปด้านในจนถึงทางโค้งจะเจอ Leaper ฆ่ามันแล้วเดินต่อเข้าไป (ระหว่างทางให้เก็บไอเท็มไปด้วย) จะเจอ Lurker อีกตัว เดินไปอีกนิดจะเจอลูกกรงปิดทางเอาไว้ ให้พุ่งลอดรูตรงกลางเข้าไป
เมื่อมาจนสุดทางให้เก็บของในล็อคเกอร์ เติม Stasis ให้เรียบร้อยแล้วใช้ Kinesis ดึงสวิทช์ควบคุมลงมา พัดลมในอุโมงค์นี้จะทำงาน ย้อนกลับไปทางเก่าเราจะเจอพัดลมขนาดใหญ่หมุนอยู่ ใช้ Stasis เพื่อให้มันช้าลงแล้วผ่านเข้าไปจะได้เจอกับ Leaper 1 ตัวและ Lurker 2 ตัว ฆ่ามันให้หมดแล้วย้อนกลับมาจนสุดทาง เราจะออกมาที่ประตูใหญ่ข้าง Guardian อีกครั้ง เราจะเจอกับ Brute สีดำ ใช้ Stasis ยิงมัน แล้วใช้ Line Gun ยิงไปที่ขาจนมันล้มลง ดูให้ดีก่อนว่ามันตายหรือยัง ถ้ายังไม่มีของดรอปให้ยิงกระสุนที่ 2 ของ Line Gun ใส่มันอีกลูกมันก็จะตาย
เมื่อเราฆ่า Brute ได้เรียบร้อยแล้ว กลับมาเลื่อน Marker เข้าไปด้านในต่อ โดยทำแบบเดิมคือให้สำรวจที่สวิทช์เพื่อยกสะพานขึ้นแล้วใช้ Stasis ทำให้มันหล่นช้าลง รีบเลื่อน Marker เข้าไปด้านใน จากนั้นให้เดินไปที่ Control Room ที่อยู่ทางซ้าย สำรวจที่สวิทช์ควบคุมแล้วรอให้ Marker ถูกเคลื่อนย้ายเข้าสู่ห้องถัดไป
ในห้องนี้จะไม่มีศัตรูแต่มีไอเทมเต็มไปหมด เก็บให้เรียบแล้วเลื่อน Marker ไปตามทางต่อจนสุดแล้วสำรวจที่สวิทช์อันสุดท้าย จากนั้นให้วิ่งออกไปด้านนอกอาคาร เก็บของทางซ้ายแล้วเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม ลาก Marker ต่อไปจนสุด (วิ่งไปทางซ้ายเพื่อลาก Marker ต่อจนสุด) ยิงหนวดที่โผล่ขึ้นมาให้ขาด
หลังจากยิงหนวดขาดหมดทุกเส้นแล้วให้หันหลังกลับมาเผชิญหน้ากับฝูงศัตรูที่จะแห่เข้ามาหาเรา ฆ่าพวกมันให้หมดก่อนที่จะถูกรุม จัดการพวกมันหมดแล้วสำรวจสวิทช์ควบคุมตัวขนของที่อยู่ด้านหลังเราเพื่อเอา Marker ไปใส่ที่เดิมที่มันเคยอยู่
Tip : เมื่อเอา Marker กลับไปวางที่เดิมได้แล้วศัตรูทุกตัวจะตายหมด ถ้าเรามีเวลาพอให้รีบเอาไปใส่ในที่ที่มันควรอยู่ซะ เราจะประหยัดกระสุนได้เยอะ
เมื่อเราเอา Marker ไปใส่ที่เดิมแล้ว แสงส้มจะถูกยิงขึ้นไปบนฟ้า ข้างๆ Marker จะเห็นเป็นร่างคนลางๆ นิโคลนี่!!! เธอจะแสดงความยินดีกับเราที่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง แต่ก่อนที่เราจะได้เข้าไปหาเธอ เธอก็กลืนหายไปกับแสงซะเฉยๆ
ประตูกระจกที่อยู่ทางซ้ายถูกเปิดออกแล้ว เข้าไปในนั้น กำแพงจะเลื่อนขึ้นมาพร้อมกับแก๊สจำนวนมากที่พุ่งออกมากำจัดสิ่งปนเปื้อน เมื่อการตรวจสอบเสร็จเรียบร้อยแล้วกำแพงจะเลื่อนลงพร้อมกับผู้หญิงที่อยู่ด้านนอก นิโคลที่หายไปใช่ไหม??? เปล่าไม่ใช่เลย เธอคือ Kendra เธอจะกลับมาเอา Marker ตอนนี้เราจะทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากยืนดูเธอเอามันไปต่อหน้าต่อตาแถมจะกลับออกไปข้างนอกทางที่เราเข้ามาก็ไม่ได้เพราะทางเข้าถูกล็อคไว้แล้ว เธอจะพูดอะไรกับเราบางอย่างเกี่ยวกับข้อความที่ถูกส่งมาจากนิโคล เมื่อเราได้ดูเราจะได้รู้ความจริงอันน่าตื่นตระหนก
เมื่อดูจบประตูด้านหลังจะเปิดออก ให้เราเข้าประตูแล้วไปตามทางเพื่อย้อนกลับไปที่กระสวย ลืมเรื่องนิโคลไปก่อนเพราะตอนนี้เราต้องเอาตัวรอดและออกไปจากยานนี้ให้ได้ วิ่งไปสักพักให้เก็บ Node จากตู้ที่กำแพงและอย่าลืมเก็บของทุกอย่างที่เจอด้วย จนถึงห้องสุดท้ายก่อนจะออกไปที่ลานจอดยาน ให้เตรียมตัวให้พร้อมที่ Store และเครื่องอัพเกรด ให้เอาที่เพิ่งพลังไปเยอะๆและกระสุนด้วย ตอนนี้พกไปแต่ของเพิ่มพลังกับกระสุนเท่านั้นอย่างอื่นเก็บเข้ากรุให้หมด อัพเกรดและเก็บของเสร็จแล้ว เซฟเกมแล้วออกไปด้านนอก
Tip : ถ้าใครพกปืน Flamethrower หรือ Force Gun อยู่ในตัวให้เก็บเข้า Store ไปด้วยเพราะต่อจากนี้มันแทบจะไม่มีค่าอะไรเลย ปืนที่ควรใช้ต่อจากนี้คือ Plasma Cutter, Pulse Rifle, Line Gun และ Contact Beam เอากระสุนของปืนทั้งหมดนี้ไปให้พร้อมและเอาช่องที่เหลือใส่ของเพิ่มพลังให้หมด ของอย่างอื่นเช่น Stasis Pack ไม่ต้องไปสนใจมันเลย
ออกจากห้องแล้ววิ่งไปทางขวาเพื่อไปขึ้นกระสวยแต่เมื่อเราใกล้จะถึงพื้นกลับสั่นสะเทือนจนเราล้มลง Kendra จึงอาศัยจังหวะนี้วิ่งขึ้นไปบนกระสวยแทนแต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ทำอะไร หนวดขนาดยักษ์ก็ฟาดลงมาที่เธอจนทำให้เธอกระเด็นลงมาที่พื้น มันทุบมาที่เธออีกครั้งแล้วเหวี่ยงเธอไปติดกับด้านข้างของตึก ลาก่อน Kendra
ถึงแม้ว่าเราจะล้มลงและไปขึ้นกระสวยไม่ทันแต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องโชคดีบนความโชคร้ายเพราะ Kendra ที่ขึ้นกระสวยไปก่อนดันไปตายแทนเราแต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าการที่อยู่รอดจะถือเป็นเรื่องโชคดีหรือเปล่าเมื่อสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ที่ฆ่า Kendra โผล่หน้ามาทักทายเราแล้ว มันชื่อว่า Hive Mind มันจะเอาหนวดของมันมาล้อมรอบเราป้องกันไม่ให้เราขึ้นกระสวย
มันจะมีปากขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางและรอบๆจะเป็นตาของมัน มันจะมีตาทั้งหมด 5 ดวง โดยเราจะเห็นตามันเป็นก้อนสีเหลือง ยิงเข้าไปที่ก้อนสีเหลืองนี้ให้หมด จุดสำคัญในการต่อสู้กับมันคืออย่าหยุดเป็นเป้านิ่ง ให้เคลื่อนที่ไปด้านซ้ายหรือด้านขวาตลอดเวลาเพื่อป้องกันการโจมตีของมัน ถ้ายังอยากประหยัดกระสุนให้ใช้ถังระเบิดที่อยู่ข้างๆยิงไปที่ตามันแทนก็ได้ ยิงตามันให้ได้ 3 ดวงแล้วมันจะจับขาเราลากขึ้นไป
บอสตัวสุดท้ายที่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
ตอนนี้เราจะถูกจับห้อยหัวอยู่พร้อมกับเป้าหมายคือตาของมันที่เหลืออีก 2 ดวง การเล็งยิงตอนนี้จะค่อนข้างลำบากสักเล็กน้อยแต่ให้รีบยิงก่อนที่มันจะจับเรายัดเข้าปากมัน
Tip : เมื่อเราถูกจับห้อยหัวทางรอดออกมาเพียงทางเดียวคือยิงตาของมันให้หมด มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากเพราะตัวเราจะถูกมันเขย่าอยู่ตลอดเวลา ปืนที่ใช้ได้ดีในตอนนี้คือ Contact Beam หรือ Plasma Cutter ให้กะระยะที่เราจะต้องถูกเขย่าและระยะทางที่ต้องยิงให้ดี ไม่งั้นเราอาจจะต้องใช้เวลานานในการเล่นฉากนี้ก็ได้
เมื่อเรายิงตามันได้หมดทุกดวงแล้ว มันจะโยนเรากลับมาที่ลานจอดอีกครั้ง ตอนนี้แม้มันจะไม่มีตามามองเราแต่มันก็ยังไม่ตาย เราจะเห็นหน้าอกของมันเปิดออกพร้อมกับเผยให้เห็นลูกกลมๆเหมือนที่ตามันอีก 5 ลูก ทำเหมือนกับตอนที่เรายิงตามันคือให้เล็งให้ดีแล้วยิงให้ลูกๆ ในหน้าอกมันระเบิด ตอนนี้อย่าใช้ถังระเบิดเป็นอันขาดเพราะเมื่อเรายกถึงขึ้นมา ไอ้เจ้า Hive Mind จะเอาหนวดของมันฟาดมาที่เราและทำให้ถังระเบิดก่อนที่เราจะยิงมันออกไป
ให้เคลื่อนตัวไปด้านข้างพร้อมกับยิงที่ลูกกลมๆไปเรื่อยๆ จนหน้าอกมันปิดก็ให้เราวิ่งวนไปบนลานจอดยานเพื่อเก็บของที่หล่นอยู่ รอจนหน้าอกมันเปิดขึ้นอีกครั้งค่อยเปิดฉากยิงต่อถ้ายิงพลาดบ่อยๆมันจะปล่อยศัตรูที่ตั้งท้องออกมาหาเราด้วยรีบฆ่ามัน แล้วยิงไปเรื่อยๆ จนกว่าจะยิงลูกกลมๆ ในหน้าอกมันหมดทั้ง 5 ลูกเราจะเป็นผู้ชนะ
เมื่อเรากำจัด Hive Mind ได้แล้ว หนวดที่กันเราจากกระสวยจะร่วงลงไปพร้อมกับร่างของมัน วิ่งขึ้นไปตามทางลาดเพื่อเข้าไปในกระสวยแล้วเราจะหนีออกไปจากดาวดวงนี้ เมื่อเราลอยออกไปพ้นจากแรงดึงดูดของดาวดวงนี้แล้วเราจะเห็นรอยขุดเจาะของยาน Ishimura ที่มีขนาดใหญ่มาก
สุดท้ายเมื่อเราหนีออกจากดาวและกลับมาอยู่ในจักรวาลที่เงียบงันอีกครั้ง เราจะรู้สึกว้าเหว่ หมดหวังและท้อแท้ หัวใจเราแตกสลายเพราะการจากไปของหญิงที่เป็นคนรัก จนสุดท้ายเราก็ปลงตกกับการจากไปของนิโคลพร้อมกับการเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย…หรือเปล่า!?!
THE END!!!
