บทสรุป Dead Space Mission 1 : CEC Mission ER529

Mission 1 : CEC Mission ER529

      ในจักรวาลที่เงียบงัน ยานขนส่งขนาดเล็กชื่อว่า USG Kellion กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่เป้าหมายอย่างช้าๆเป้าหมายของมันคือ USG Ishimura ซึ่งเป็นยานขุดเจาะขนาดใหญ่ที่จู่ๆก็ขาดการติดต่อ ภารกิจของเราคือหาสาเหตุที่ทำให้ยานลำนี้ขาดการติดต่อพร้อมกับฟื้นฟูระบบสื่อสารอีกครั้ง แต่อีกไม่นานลูกเรือของยาน Kellion ก็จะได้รู้ว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นบน Ishimura บางสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิด 

       เมื่อเราเข้าไปใกล้จนลูกเรือของยาน Kellion (ประกอบไปด้วยวิศวกรและผู้ดูแลระบบของยาน Isaac Clarke, หัวหน้าฝ่ายคอมพิวเตอร์ Kendra Daniels, หัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัย Zach Hammond และนักบินอีก 2 คน) ได้เห็นเป้าหมายในภารกิจนี้นั่นคือยาน USG Ishimura มันลอยเคว้งคว้างบดบังดาวฤกษ์ที่ส่องแสงอยู่ด้านหลัง จนยานของเราชนเข้ากับก้อนอุกกาบาต ทำให้ระบบการลงจอดอัตโนมัติของยานขัดข้องและด้วยความเร็วขนาดนี้อาจเกิดอันตรายร้ายแรงได้ ทุกคนในยานตื่นตระหนกจนในช่วงวินาทีสุดท้ายนักบินจึงตัดสินใจเอายานลงไปจอดใน Ishimura

Out of the Frying Pan

      เมื่อเราได้เริ่มบังคับ Isaac ให้ลองทำความคุ้นเคยกับชุด RIG และระบบต่างๆ ของเกมก่อน ลองกดแผนที่ขึ้นมาดูจะได้เห็นแผนผังทั้งหมดของยาน เดินไปเก็บยาเพิ่มพลังที่อยู่ในยานนี้แล้วตามคนอื่นออกไปโดยให้ออกจากยานนี้แล้วเลี้ยวขวาไปตามทางจนสุดทางเดิน เปิดประตูโดยกดปุ่ม E แล้วเดินตาม Kendra และ Zach เข้าไปใน Waiting Room เข้ามาแล้วเก็บของในช่องใส่ของทางด้านซ้ายบริเวณมุมซ้ายบนของห้องจะมีช่องเล็กๆที่มีรูปกล้องอยู่ช่องนี้คือจุดเซฟระบบการสื่อสารทั้งหมดขัดข้องทำให้ลิฟท์ใช้การไม่ได้พวกเราจึงถูกทิ้งให้ติดอยู่ใน Waiting Room และที่แย่กว่านั้นคือระบบรักษาความปลอดภัยก็ใช้การไม่ได้เช่นกัน ให้เราเดินเข้าประตูที่อยู่ทางด้านขวาของจุดเซฟและเดินไปตามทางที่เป็นรูปตัวแอลจนเจอหน้าจอคอม 

      กดสำรวจหน้าจอเพื่อทำให้ลิฟท์ใช้การได้ เมื่อเรากดไฟจะดับและระบบเตือนภัยจะทำงาน ประตูที่เราผ่านเข้ามาจะถูกล็อคและไฟห้อง Waiting Room ที่อยู่อีกด้านของกระจกจะดับทันที ไฟฉุกเฉินจะทำงานซึ่งทำให้เราได้เห็นสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งลงจากหลังคามาฆ่านักบินพวกเราที่เหลือด้านนอกจึงเปิดฉากยิงใส่ทันทีแต่ช้าไปแล้วเพราะมันหนีจากห่ากระสุนมาที่ทางเดินด้านข้าง ที่ที่เราอยู่นั่นเอง ตอนนี้เราไม่มีอาวุธอะไรเลยนอกจากมือกับเท้า เก็บมือไว้ก่อนตอนนี้ต้องใช้เท้าเท่านั้น หนีโลด หันมาทางขวาเล็กน้อยเราจะเจอประตูพร้อมกับหน้างต่างที่มีตัวประหลาดกำลังปีนเข้ามา รีบวิ่งเข้าประตูที่อยู่ด้านหน้าเรา วิ่งมาตามทางจะมีศัตรูอีกตัวพังลงมาจากด้านบนแต่มันจะพังลงมาข้างหลังเรา ไม่ต้องสนใจวิ่งต่อไปให้ถึงลิฟท์กดสำรวจลิฟท์แล้วเข้าไปด้านใน หันมาทางด้านซ้ายใกล้กับประตูจะมีปุ่มให้กดเพื่อปิดประตูลิฟท์ เราจะหนีมันพ้นแล้วและกำลังลงไปชั้นล่าง

Lower Level: Weapons, Refuge and Corpses

       ออกจากลิฟท์แล้วไปทางซ้ายมือจะเจอกล่องไอเท็มที่มีไฟสีเขียวอยู่ 2 กล่อง ที่ชั้นยกระดับใกล้ๆกันบริเวณที่มีศพนอนพิงชั้นวางของอยู่ สำรวจจะได้ Plasma Cutterตอนนี้เราจะได้อาวุธแล้ว สำรวจที่ตู้เล็กๆ 2 ตู้ที่อยู่ข้างชั้นวางของเราจะได้ไอเท็ม จากนั้นเดินไปที่ประตูที่ล็อคอยู่ด้านบนของห้อง ใช้ปืนเล็งไปที่สวิทช์ด้านข้างประตูแล้วยิง< ประตูจะปลดล็อคและใช้งานได้อีกครั้ง เปิดประตูแล้วยกปืนเล็งให้พร้อม ยิงศัตรูที่กำลังกินศพอยู่ด้านใน ฆ่ามันตายแล้วเดินไปด้านซ้ายตามทางเดินจนถึงประตูอีกฝั่งให้เก็บ Small Medical Pack เพื่อเพิ่มพลังชีวิต เดินลงทางลาดแล้วไปเก็บเงินที่อยู่บริเวณกองหินจากนั้นให้กลับขึ้นทางลาดมา เดินไปอีกฝั่งของทางเดินจนสุดแล้วเก็บไฟล์เสียง เก็บแล้วเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้า Tram Control
 

อาวุธ Plasma Cutter เป็นปืนชนิดแรกที่ได้ในเกมนี้

      ในห้องนี้จะไม่มีศัตรูและเราจะได้รับการติดต่อจาก Kendra และ Hammond ทั้งคู่จะติดต่อเรามาโดยผ่านไฟล์วีดีโอว่าทั้งคู่ปลอดภัยดีแต่ถ้าเราทั้งหมดต้องการหนีออกไปจากที่นี่เราต้องไปซ่อมระบบ Tram System ตามคำแนะนำของ Kendra เธอบอกว่าแผงวงจรของ Tram (รถราง) พังทำให้รถรางมาขวางอุโมงค์ไว้ พวกเขาจึงผ่านไปไม่ได้แต่เราอยู่ในห้องควบคุมรถรางอยู่แล้วดังนั้นเราเลยต้องรับหน้าที่ในการซ่อมรถราง Hammond จึงให้สัญญากับเราว่าจะตามหานิโคลให้ถ้าเราทำงานนี้สำเร็จ ก่อนจะออกจากห้องนี้ให้สำรวจล็อคเกอร์เพื่อเก็บของและเซฟที่จุดเซฟก่อนออกจากห้อง

      ออกจากห้องแล้วจะเจอทางแยกให้ไปตามทางด้านซ้ายมือ(ระหว่างทางให้เก็บของจากกล่องที่มีไฟสีเขียวๆด้วย) เมื่อพ้นหัวมุมเราจะเจอศัตรูอีกตัว ฆ่ามันแล้วเก็บของ(ศัตรูทุกตัวที่เราฆ่าจะมีของหล่นจากตัวมันเสมอ) ใกล้ๆจุดเซฟจะมีของเพิ่มพลังด้วย เก็บของหมดแล้วเดินไปทางด้านซ้ายที่หน้าประตูเข้า Maintenance Bay ที่ล็อคอยู่เราจะเจอไฟล์เสียง เก็บแล้วเดินย้อนกลับมาตรงจุดที่เราเข้ามาในห้องโถงนี้ คราวนี้ให้เดินตรงไป (ทางขวาจากตอนที่เราเข้ามา) จนเจอประตูที่ไม่ได้ล็อคให้เข้าไป เดินไปตามทางจนสุดแล้วเข้าประตูเราจะมาออกที่โถงทางเดิน สำรวจบริเวณนี้ให้ทั่วเราจะได้เงินกับไอเท็มหลายอย่างรวมทั้ง Stasis Moduleที่อยู่หน้าประตูที่เปิดปิดเร็วๆ เมื่อเราเก็บมาเราจะสามารถใช้ความสามารถพิเศษเพิ่มคือทำให้สิ่งของหรือศัตรูช้าลง สำรวจที่ประตูที่เปิดปิดเร็วด้านหน้าแล้วกดยิง Stasis ใส่ จะทำให้ประตูช้าลง วิ่งผ่านประตูเข้าไป

 

Tram Repair

      เดินขึ้นเนินทางซ้ายไปแล้วเก็บ Stasis Pack เมื่อพ้นห้องนี้แล้วให้เลี้ยวขวาเพื่อไปเซฟ เซฟแล้วเดินเข้าไปในตรอกเล็กๆด้านซ้ายก่อนแล้วทำลายกล่องเพื่อเก็บของ สุดทางนี้จะเป็นประตูล็อคเพราะฉะนั้นให้เดินกลับออกมาตามทางเดิมเพื่อมายังจุดเซฟ ทางด้านขวาของจุดเซฟจะเป็นทางเข้าห้องน้ำสำรวจในห้องน้ำจะได้ที่เพิ่มพลังและกระสุนปืน ออกจากห้องน้ำเลี้ยวซ้าย ไปจนสุดทางจะเจอเงิน เก็บแล้วหันหลังกลับเดินตรงไปผ่านจุดเซฟไปที่ประตูที่อยู่ทางเดินเราจะเข้ามาในห้อง Tram Repair Room เดินไปทางขวาเพื่อเก็บ Node ที่ตู้ที่ติดอยู่ที่กำแพงเก็บแล้วหันหลังกลับมาสำรวจที่หน้าจอเพื่อ Activate แท่นยึดอันที่หนึ่งแท่นยึดจะยืดออกไปติดกับรถรางที่ขวางทางอยู่ เมื่อแท่นยึดเข้าที่แล้วไฟที่อยู่ด้านข้างจะกระพริบทั้งหมด 7 ดวง เดินข้ามทางเดินไปอีกฝั่งจนสุดเราจะเจอกับศัตรูอีกตัวออกมาทางหน้าต่างบานเล็กๆ(บนทางข้ามจะเจอกับที่เพิ่มพลัง Stasis Module) ฆ่ามันแล้วสำรวจที่ตู้เล็กๆข้างกระจกที่มันเข้ามาเพื่อเก็บไอเท็ม เดินไปทางซ้ายมือเราจะเจอไอเท็มหล่นอยู่ที่พื้น เมื่อเราเก็บของศัตรูจะพุ่งทะลุหน้าต่างด้านหลังมาอีกตัว รีบหันกลับไปใช้ Stasis เพื่อให้มันช้าลงแล้วใช้ปืนยิงมัน

Tip : ถ้ากระสุนใกล้หมดหรือต้องการประหยัดกระสุน ให้เรายิงขามันให้ขาดแล้วใช้พลัง Stasis เพื่อทำให้มันช้าลงแล้วเดินเข้าไปกระทืบมัน

      เมื่อฆ่ามันได้แล้วไปสำรวจที่หน้าจออีกอันเพื่อให้ที่ยึดทำงานแต่มันจะยึดได้แค่แป๊ปเดียวก่อนที่จะหดกลับไปที่เดิม ให้สำรวจอีกครั้งเพื่อให้ที่ยึดไปยึดรถรางแล้วรีบยิง Stasis ใส่เพื่อให้มันช้าลง มันจะยึดคาอยู่ที่รถรางนานขึ้น (ถ้าเรายิงไม่ทันให้สำรวจอีกครั้งหรือถ้า Stasis หมด ให้ไปใช้ที่เติม Stasis ที่ทางเดินข้ามฝั่ง)

       เมื่อตัวยึดทั้ง 2 อันยึดติดกับรถรางแล้วรีบวิ่งไปที่หน้าจอที่อยู่ตรงกลางทางเดินแล้วสำรวจเพื่อดึงรถรางกลับมาแล้ว Kendra จะติดต่อเข้ามาบอกว่าเราได้เลื่อนรถรางไปแล้วแต่ตัวควบคุมรถรางยังต้องใช้บอร์ดข้อมูลอันใหม่พร้อมกับศัตรูอีกตัวที่จะเข้ามาทำร้ายเราฆ่ามัน

TIP : จุดสำคัญในเกมนี้ไม่ได้อยู่ที่การฆ่าศัตรู เราต้องหาทางรอดมากกว่าจะยิงทุกอย่างที่ขวางหน้าเมื่อกระสุนเราใกล้หมดหรือกำลังจะถูกรุม ให้เราหนีเอาตัวรอดก่อน

Note : ออกจากห้องนี้ เราจะได้เห็นศัตรูตัวใหม่คลานอยู่บนช่องลมด้านบน มันจะไม่มีขาและเคลื่อนที่ด้วยมือ ไม่จำเป็นต้องยิงมันเพราะเมื่อมันคลานมาจนสุดมันจะปีนเข้าช่องลมไป

 

      รีบวิ่งกลับไปที่ประตูที่เปิดปิดเร็วแล้วใช้ Stasis เพื่อให้มันช้าลงแล้วออกไปทางประตูนี้จากนั้นเลี้ยวขวาไปตามทางพร้อมกับเล็งปืนค้างไว้ (ตอนออกจากประตูที่เปิดปิดเร็วๆทางด้านซ้ายจะเป็นเครื่องเติม Stasis) เดินไปตามทางสักพักเราจะเจอศัตรูขึ้นมาจากท่อที่พื้นพร้อมกับศัตรูตัวใหม่ที่เราเห็นบนท่อ มันชื่อว่า Leaper ให้ใช้ Stasis ใส่มันเพื่อทำให้มันช้าลง ยิงที่ขาของตัวที่ยืนอยู่ให้ขาดแล้วยิงที่หัวมันซะ ส่วน Leaper นั้นให้เรายิงที่มือมันให้ขาดไม่ต้องไปยิงหัวมันเพราะถึงหัวมันจะขาดแต่มันก็จะพุ่งเข้ามาหาเราอยู่ดี เมื่อฆ่าพวกมันได้หมดแล้วอย่าลืมเก็บไอเท็มที่หล่นจากศัตรู

      เดินเข้าห้องที่อยู่ด้านซ้ายมือแล้วเดินตามทางลาดขึ้นไปด้านบน เข้าประตูแล้วเลี้ยวขวาไปตามทางเรื่อยๆ จนสุดทางเราจะเจอลิฟท์ กดสำรวจที่แผงควบคุมหน้าลิฟท์เพื่อเรียกลิฟท์ เมื่อลิฟท์เปิดแล้วเข้าไปสำรวจสวิทช์ด้านในเพื่อลงไปยัง Maintenance Bay เมื่อเราอยู่ในลิฟท์ Kendra จะติดต่อมาบอกเราว่า Storage Room ที่อยู่ใน Maintenance Bay จะถูกล็อคไว้ เราจึงต้องไปหากุญแจไขเข้าห้อง Storage Room ซะก่อน ออกจากลิฟท์เราจะมาอยู่ในโซน Maintenance Bay ทำลายกล่องที่พื้นเพื่อเก็บไอเท็ม เมื่อเก็บแล้วศัตรูทางด้านซ้ายจะออกมา ยิงมันที่ขาแล้วยิงที่หัว ก่อนจะหันกลับมาทางขวาเพื่อยิงศัตรูอีกตัว (ที่พื้นจะมีถังระเบิดสีแดง ยิงที่ถังจะระเบิดทำให้ศัตรูบาดเจ็บมากขึ้น)

Note : ศัตรูจะใช้ช่องลมในการเดินทางผ่านชั้นต่างๆ ถ้าเราทิ้งศัตรูไว้ที่ชั้นล่างมันสามารถหาทางขึ้นมาหาเราที่ชั้นบนได้

      เมื่อเราเดินเข้าไปใกล้ศพศัตรูที่อยู่ด้านขวาจะมีศัตรูออกมาเล่นงานเราอีกตัว จากนั้นให้รอตรงถังระเบิดจะมีศัตรูอีกตัวออกมาเล่นงานเรา เดินตามทางเพื่อไปที่ลิฟท์อีกตัว ระหว่างทางจะมีศัตรูอีกตัวออกมาเล่นงานเรา (อย่าลืมสำรวจพื้นที่บริเวณนี้ให้ทั่วเพื่อเก็บไอเท็มที่หล่นจากตัวศัตรู) กำจัดศัตรูหมดแล้วเข้าลิฟท์ไปเราจะออกมาที่ชั้นบน ออกจากลิฟท์แล้วยิงศัตรูทางซ้ายมือที่แกล้งนอนอยู่ที่พื้น เดินไปทางซ้ายเพื่อไปเก็บไอเท็มที่อยู่ในตู้แล้วเดินไปด้านขวาของลิฟท์เพื่อทำลายกล่องที่อยู่บนพื้น จากนั้นเดินไปตามทางที่ศัตรูแกล้งนอนตายเรื่อยๆพร้อมกับยกปืนเล็งรอไว้เลย ตรงสุดทางเราจะเห็นกุญแจหล่นอยู่แต่ยังไม่ทันได้เก็บ ศัตรูก็พังออกมาจากหน้าต่างทางด้านซ้ายฆ่ามันแล้วเก็บ Maintenance Bay Key ที่ตกอยู่ที่พื้นแล้วไปเก็บ Text Log ที่อยู่ที่พื้นตรงหน้าต่างที่ศัตรูพังเข้ามา เก็บของครบแล้วให้กลับมาที่ลิฟท์เราจะเจอศัตรูอีกตัว ฆ่ามันแล้วลงลิฟท์กลับไปที่ชั้นล่าง ก่อนประตูลิฟท์จะเปิดออกให้ยกปืนเล็งไว้เลย ศัตรูจะวิ่งเข้ามาหาเราจัดการมันซะ ออกจากลิฟท์ไปทางขวาจะเห็นทางแยกเล็กๆไปเก็บไอเท็มในตู้กับทำลายกล่องที่อยู่บนพื้น เก็บแล้วออกจากทางแยกนี้แล้วไปทางซ้ายเดินขึ้นทางลาดไปเราจะมาอยู่หน้าห้องที่ล็อคกดปุ่ม E เพื่อใช้กุญแจที่เพิ่งเก็บมาปลดล็อคห้องนี้

      เข้าไปด้านในทางซ้ายมือจะพบ Data Board วางอยู่บนโต๊ะแล้วหันหลังกลับมาสำรวจที่ตู้เก็บของเพื่อเก็บไอเท็ม เดินไปสำรวจที่ตู้เล็กๆ ที่ติดอยู่บนกำแพงใกล้กับตู้เก็บของเพื่อเก็บ Node ตอนนี้เราจะสามารถอัพเกรดอาวุธและชุด RIG ของเราได้แล้วที่เครื่องอัพเกรดที่อยู่ในห้องนี้ อัพเกรดเสร็จแล้วออกจากห้อง

Tip : เราสามารถอัพเกรดอุปกรณ์ได้ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็น Stasis Module, ชุด RIG และปืน เราควรใช้ Node เพื่อเพิ่มพลังการโจมตีของปืน Plasma Cutter อย่างน้อยหนึ่งอันเพราะปืนนี้เป็นปืนที่มีประโยชน์ที่สุดในเกม

      เราจะได้เจอกับศัตรู 2 ตัวนอกห้อง ตัวแรกเจอทางขวามือเมื่อเราฆ่ามันแล้วเดินไปที่ศพมันจะมีอีกตัวแอบมาทางด้านหลัง รีบหันกลับไปยิงมันก่อนที่มันจะมาข่วนเรา เดินต่อไปเรื่อยๆจนถึงลิฟท์ตัวแรกสุดที่เราเข้ามาในห้องนี้จะได้เจอกับศัตรูอีกตัว ฆ่ามันแล้วเข้าลิฟท์ที่อยู่ใกล้ๆกัน เมื่อออกมาแล้วระวังศัตรูจะอยู่ที่หัวมุมอีกฝั่ง ยิงมันให้ตายก่อนที่มันจะมาถึงตัวเราแต่ถ้ายิงไม่ทันให้ใช้ Stasis เพื่อทำให้มันช้าลงแล้วไปยิงในระยะที่ปลอดภัย จากนั้นเดินไปเซฟตรงกลางทางเดินนี้แล้วเดินกลับไปยัง Tram Control Room เมื่อเข้ามาแล้วเดินไปจนสุดอีกฝั่งของห้องเพื่อใส่ Data Board ลงในเครื่อง Tram Data Board จากนั้นไปสำรวจที่หน้าจอเครื่อง Tram Call เพื่อดึงรถรางกลับมา เมื่อรถรางกลับมาแล้ว Kendra กับ Hammond จะใช้รถรางไปที่สะพานเดินเรือ ปล่อยให้เราเตรียมยาน Kellion เพื่อให้พร้อมขึ้นบินตามลำพัง

Stranded

      เมื่อ Hammond กับ Kendra ขึ้นรถรางไปอย่างปลอดภัยแล้ว เราเองก็ต้องหาทางหนีเช่นกัน ให้ออกทางประตูที่เราเข้ามาตอนแรกเพื่อกลับไปยังยาน Kellion ระหว่างทางให้เดินอย่างระมัดระวังจนถึงห้องที่เราได้ปืน Plasma Cutter เดินไปสำรวจลิฟท์เพื่อขึ้นไปชั้นบน ออกมาแล้วจะเจอศัตรู ไม่ต้องยิงให้เดินตามมันไปเรื่อยๆ จนมันมุดเข้าไปในช่องลมให้เตรียมตัวให้ดีเพราะจะมีศัตรูพังเพดานลงมา รีบฆ่ามันซะเพราะไอ้ตัวที่มุดช่องลมไปจะกลับออกมาเล่นงานเราอีกครั้ง ฆ่าพวกมันแล้วเก็บไอเท็มแล้วมุ่งหน้ากลับไปยาน Kellion ระหว่างทางเมื่อเราเข้ามาในห้อง Waiting Room(ห้องที่เราเจอพวกศัตรูในตอนแรก) Hammond จะติดต่อเข้ามาบอกว่าเขาถึงสะพานเดินเรือของยาน Ishimura แล้วพร้อมกับรายงานว่าไม่มีผู้รอดชีวิตหลงเหลืออยู่เลย สำรวจไอเท็มและทำลายกล่องในห้องนี้ เสร็จแล้วเซฟเกมจึงออกไปที่ยาน Kellion เมื่อเดินมาจนเกือบถึงยานจะมี Leaper ออกมาเล่นงานเราอีกตัว ฆ่ามันแล้วเข้าไปในยาน สำรวจที่หน้าจอตรงที่นั่งนักบินแต่เกิดการขัดข้องขึ้นทำให้ยานระเบิด รีบออกจากยานด่วน!

      เมื่อออกมายานจะระเบิดพอดีเราจะโดนแรงระเบิดกระเด็นออกมานอกตัวยาน ยานเราจะตกแต่เราจะรอดมาอยู่บนทางเดินอีกครั้ง เราจะต้องเจอกับศัตรูถึง 4 ตัว ใช้ Stasis ให้เป็นประโยชน์ ฆ่าพวกมันหมดแล้ว Kendra กับ Hammond จะติดต่อกลับมาอีกครั้งพร้อมกับอาการหวาดกลัวอะไรบางอย่าง ตอนนี้ทางออกจากยานเพียงทางเดียวของเราคือยาน Kellion ได้พังไปแล้ว เราต้องไปหาชุด RIG ของกัปตันเพื่อเอารหัสผ่านไปให้ Hammond กับ Kendra เผื่อพวกเขาจะเอาไปใช้เข้าคอมพิวเตอร์หลักของยาน Ishimura ตอนนี้ Hammond จะส่งรถรางกลับมาให้เราเพื่อใช้ไปยัง Medical Bay ซึ่งเป็นจุดที่เราต้องไปเอาชุดของกัปตัน ก่อนที่สัญญาณจะตัดไปทั้งคู่จะถูกศัตรูบุกเข้ามาโจมตี กลับเข้าไปใน Waiting Room เมื่อเข้ามาเราจะพบว่าห้องทางซ้ายที่ล็อคอยู่ก่อนหน้านี้เปิดเข้าไปได้แล้ว เข้ามาแล้วเดินไปตามทาง สำรวจที่ตู้เล็กๆ 2 ตู้เพื่อเก็บไอเท็มแล้วเข้าไปในห้องน้ำเพื่อเก็บไอเท็ม สำรวจที่ลิฟท์ตรงสุดทางเพื่อไปยัง Tram Stationเมื่อมาถึงเราจะได้เจอกับ Store เพื่อเก็บของ, ขายของและซื้อของ เสร็จแล้วเข้าไปในรถรางสำรวจที่แผงควบคุมเพื่อเดินทางไปยัง Medical Bay

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้