มุ่งสู่สงครามเทพใน Dawn of Ragnarök ส่วนเสริมปี 2 ของ AC: Valhalla

Play Video

ในภาคเสริมนี้ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Odin ในภารกิจบุกตะลุย Svartalfheim ดินแดนของเหล่าคนแคระที่ตกอยู่ท่ามกลางความวุ่นวายของการรุกรานจากเหล่ายักษ์น้ำแข็งและยักษ์ไฟ เพื่อช่วยเหล่าลูกชายของเขา Baldr ซึ่งถูกจับตัวไปโดย Surtr ยักษ์เพลิงสุดโฉดผู้เป็นดั่งบอสใหญ่ของถาคนี้

เพราะว่าเปลี่ยนแนวเป็นแฟนตาซีแทบจะเต็มตัว ทำให้มีพลังใหม่ๆ มารอให้ผู้เล่นได้ใช้มากมาย รวมไปถึงศัตรูที่ทวีความโหดขึ้น คุณอาจเคยสู้กับยักษ์น้ำแข็งมาแล้วในภาคหลัก แต่กับยักษ์ไฟที่คืนชีพให้เพื่อนได้คือความท้าทายอีกขั้นที่คุณต้องลอง สำหรับผู้ที่ซื้อ Dawn of Ragnarök ระหว่างวันที่ 13 ธันวาคม 2021 ไปจนถึง 9 เมษายน 2022 จะได้รับโบนัสชุดคอสตูม Twilight Pack เข้าไปในตัวเกมทันที

นอกจากนี้ไม่ใช่แค่ส่วนเสริมปี 2 เท่านั้น แต่ทาง Ubisoft ยังประกาศเปิดตัว Cross Event คอนเทนต์ฟรีสำหรับผู้ที่มีตัวเกมภาค Odyssey และ Valhalla กับการโคจรมาพบกันของตัวเอกทั้ง 2 เกมอย่าง Kassandra และ Eivor โดยการร่วมมือของ 2 สตูดิโออย่าง Quebec และ Montreal โดยคอนเทนต์นี้เกิดขึ้นมาเพื่อตามคำถามที่ว่าหากตัวเอกของทั้ง 2 ภาคโคจรมาเจอกันจะเป็นอย่างไรนั่นเอง

โดย Assassin’s Creed Crossover Stories จะถูกปล่อยเป็นมิชชั่นภายในทั้ง 2 เกมของ Assassin’s Creed Valhalla และ Assassin’s Creed Odyssey

ภารกิจ Those Who Are Treasured สำหรับ Assassin’s Creed Odyssey – ผู้เล่นต้องจบ Chapter 1 และเดินทางไปเมือง Megaris เพื่อปลดล็อคคอนเทนต์
ภารกิจ A Fated Encounter สำหรับ Assassin’s Creed Valhalla – ต้องจบภารกิจ “A Wise Friend” และต้องมี Settlement Level 4 เพื่อเข้าเล่น

อย่างไรก็ตามทางทีมงานแนะนำว่าควรเล่นจบทั้ง 2 เกมก่อนจะเข้าสู่คอนเทนต์นี้เพื่อความเต็มอรรถรส และผู้เล่นสามารถใช้ตัวละใดก็ได้ในการเข้าถึงคอนเทนต์ทั้งคู่ เพียงแต่ตัวละครที่ Eivor จะได้พบนั้นจะมีเพียง Kassandra เท่านั้น (ตอกย้ำว่า Kassandra เป็นตัวละคร Canon ไม่ใช่ Alexios)

Assassin’s Creed Crossover Stories มีกำหนดปล่อยให้ดาวน์โหลดกันฟรีๆ สำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของเกมหลักทั้ง 2 เกม ในวันที่ 14 ธันวาคมนี้ ส่วนภาคเสริม Dawn of Ragnarök มีกำหนดปล่อยให้เล่นจริงวันที่ 10 มีนาคม 2022 แต่สามารถพรีออร์เดอร์เกมล่วงหน้าได้แล้วตั้งแต่วันนี้