รวม 7 อดีตเกมดังที่หายสาบสูญนานเกิน 15 ปี จนใคร ๆ ต่างลืมไปแล้ว

ในห้วงความทรงจำของเหล่าเกมเมอร์หลายคน หากไล่นับดูน่าจะมีเกมในดวงใจกันไม่น้อยนะครับ ซึ่งหลาย ๆ ซีรีส์เคยมีการทำภาคต่อมาเรื่อย ๆ อย่างยาวนาน ขณะที่บางเกมก็ทำออกมาภาคเดียวแล้วหายยาวเลย เกมเมอร์อย่างเรา ๆ ที่เคยประทับใจกับเกมเหล่านั้นก็เลยโหยหาและคงความสงสัยมาตลอดว่าค่ายเกมตัดสินใจเทแล้วหรืออย่างไร

และในบทความนี้เราก็ได้รวบรวมเหล่าเกมดังในอดีตที่เคยมีการทำภาคต่อมาบ้าง แต่ก็เกิดปัญหาบางอย่างทำให้ซีรีส์นั้น ๆ หยุดชะงักและไม่มีการพัฒนาภาคใหม่มาอีกเลยนานเกินกว่า 15 ปี มาดูกันครับว่าในจำนวนนี้มีซีรีส์ที่เพื่อน ๆ รู้จักกันรึเปล่า

Bloody Roar

ภาคสุดท้ายที่วางจำหน่าย – Bloody Roar 4 – เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2003 (เกือบ 17 ปีแล้ว)

สาเหตุที่ไม่มีภาคต่อ – เดิมทีซีรีส์นี้เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท Hudson Soft ครับ (ค่ายเดียวกับที่ทำเกม Bomberman) แต่ในช่วงปี 2004 หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทได้ขอลาออกไปเพื่อรับผิดชอบผลประกอบการที่ย่ำแย่อย่างหนัก ก่อนที่ในเดือนเมษายนปี 2005 ทาง Konami ได้เข้ามาซื้อหุ้นใหญ่ของ Hudson Soft ทำให้มีอำนาจเบ็ดเสร็จในการบริหาร และเป็นที่เรา ๆ รู้กันว่า Konami เองก็ไม่ได้มีการทำเกมใหม่ ๆ ออกมาเยอะแยะเหมือนแต่ก่อนเลย (เต็มที่ก็ PES) ด้วยเหตุนี้ซีรีส์ Bloody Roar จึงหายเข้ากลีบเมฆไปโดยปริยาย

Dino Crisis

ภาคสุดท้ายที่วางจำหน่าย – Dino Crisis 3 – เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2003 (เกือบ 17 ปีแล้ว)

สาเหตุที่ไม่มีภาคต่อ – ประมาณทศวรรษ 1990 ลากยาวจนกลางทศวรรษ 2000 เป็นช่วงที่ทาง Capcom เปิดกว้างให้ทีมผู้พัฒนามีอิสระในการทดลองทำเกมซีรีส์ใหม่ ๆ ออกมามากมายนับไม่ถ้วน แต่ทว่าในจำนวนนั้นกลับมีเพียงไม่กี่เกมที่สามารถทำยอดขายในระดับที่น่าพอใจ และเพื่อเป็นการยับยั้งปัญหาด้านการเงินที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะยาว พวกเขาก็เลยปรับนโยบายมารัดเข็มขัด เน้นพัฒนาเฉพาะซีรีส์ที่การันตียอดขายหลักล้านชุดไว้ก่อน ซึ่ง Dino Crisis 3 เองก็มียอดขายดูไม่จืด เพราะดันไปทำเนื้อเรื่องฉีกแนวไปบู๊ไดโนเสาร์กันถึงบนอวกาศ แถมลงแบบ Exclusive เฉพาะ Xbox เครื่องเดียวอีกด้วย จึงกลายเป็นว่าซีรีส์นี้ต้องถูกหางเลข โดนเก็บเข้ากรุอย่างช่วยไม่ได้

Clock Tower

ภาคสุดท้ายที่วางจำหน่าย – Clock Tower 3 – เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2002 (เกือบ 18 ปีแล้ว)

สาเหตุที่ไม่มีภาคต่อ – หลังจากค่าย Human Entertainment ที่เป็นผู้สร้างซีรีส์ Clock Tower ได้ล้มละลายไปในปี 2000 สิทธิ์ในการพัฒนาเกมนี้ก็ตกไปอยู่ในมือของบริษัท Sunsoft แทน ซึ่ง Sunsoft ก็ได้ไปร่วมกับ Capcom ที่เป็นค่ายตัวพ่อของเกมแนวแอ๊กชั่นในการพัฒนาเกมภาค 3 ขึ้นมา พร้อมกับเปลี่ยนแนวเกมจาก Point and Click มาเป็นสไตล์ที่เน้นแอ๊กชั่นมากขึ้น ทว่าผลที่ได้คือกระแสแอนตี้อย่างหนักจากแฟน ๆ ซะงั้น แม้ Capcom จะตั้งเป้ายอดขายแบบถ่อมตัวไว้แค่ 450,000 ชุด แต่ Clock Tower 3 ก็ดันทำสถิตินิวโลว์ไปได้ที่ 120,000 ชุดโดยประมาณเท่านั้น เรียกได้ว่าเจ๊งยับจนไม่กล้าสร้างภาคต่อกันอีกเลย

Chrono

ภาคสุดท้ายที่วางจำหน่าย – Chrono Cross – เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 1999 (เกือบ 21 ปีแล้ว)

สาเหตุที่ไม่มีภาคต่อ – อะไรดลใจให้ทาง Square Enix ดองซีรีส์นี้มายาวนานถึง 2 ทศวรรษนั้นยังเป็นปริศนาคาใจแฟน ๆ มาจนถึงบัดนี้ ซึ่งย้อนไปเมื่อปี 2001 ทาง Square Enix เคยมีโครงการจะพัฒนาภาคต่อที่มีชื่อว่า Chrono Break จนถึงขั้นไปจดเครื่องหมายการค้าของชื่อเกมไว้ก่อนแล้ว แต่ไป ๆ มา ๆ ก็ประกาศสู่สาธารณะว่าโปรเจ็กต์ได้ถูกล้มเลิกไปแล้วในปี 2003 และนับแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน ก็มีแฟนบางกลุ่มได้ทดลองทำเกม Chrono Trigger เวอร์ชั่นรีเมคแบบแฟนเมดออกมาโชว์บน YouTube ให้เห็นกันนิดหน่อย ก่อนที่จะโดนทาง Square Enix ขอร้องให้หยุดเผยแพร่คลิปดังกล่าว ทำเอาหลายคนคิดว่าที่ Square Enix ห้ามนั้นเพราะพวกเขาอาจจะลงมาทำเกมเองหรือเปล่า แต่สุดท้ายทุกคนก็คิดผิดหมด เนื่องจากไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ เกี่ยวกับซีรีส์นี้ผุดออกมาอีกเลย

Rockman X

ภาคสุดท้ายที่วางจำหน่าย – Rockman X8 – เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2004 (เกือบ 16 ปีแล้ว)

สาเหตุที่ไม่มีภาคต่อ – เอาเข้าจริง ๆ ซีรีส์นี้ดูมีความเป็นไปได้มากเป็นอันดับต้น ๆ ที่จะถูกนำกลับมาทำภาคใหม่แล้วนะครับ เพราะทาง Capcom เองเพิ่งจะหยิบซีรีส์ Rockman ตัวออริจินัลมาทำภาค 11 ไปเมื่อปี 2018 เอง จึงน่าจะมีโอกาสสูงที่ตัวซีรีส์ Rockman X จะโดนหยิบมาปัดฝุ่นเช่นกัน แต่สิ่งที่ Capcom ต้องนำไปขบคิดคือจะพัฒนาเกมเพลย์อย่างไรและทิศทางของเนื้อเรื่องยังไงให้ซีรีส์นี้กลับมาปังอีก เพราะ Rockman X เคยผ่านจุดพีคสุดตอนภาค 4 มาแล้ว และก็สาละวันเตี้ยลงตั้งแต่ภาค 5 เป็นต้นมา

Rockman Dash

ภาคสุดท้ายที่วางจำหน่าย – Rockman Dash 2 – เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2000 (เกือบ 20 ปีแล้ว)

สาเหตุที่ไม่มีภาคต่อ – ซีรีส์ Rockman Dash จะมีปัญหาที่หนักกว่า Rockman X ครับ เนื่องจากยอดขายในภาค 2 ถือว่าต่ำเตี้ยเรี่ยดินมาก และแนวเกมจะค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม โดยตัวเคย์จิ อินาฟุเนะ ที่เป็นโปรดิวเซอร์ของภาค 2 เคยยอมรับว่าตัวเขาเองก็อยากให้มีการทำภาคต่ออยู่เหมือนกัน แต่ถึงกระนั้น อำนาจการตัดสินใจก็อยู่ที่คนออกทุนและอนุมัติอย่าง Capcom อยู่ดี ซึ่งก็พอเข้าใจได้ในแง่ของธุรกิจ

Brave Fencer Musashi

ภาคสุดท้ายที่วางจำหน่าย – Musashi: Samurai Legend – เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2005 (เกือบ 15 ปีแล้ว)

สาเหตุที่ไม่มีภาคต่อ – ปัญหาคล้ายกับกรณีของ Rockman Dash ซึ่งจะว่าไปแล้วก็เหมือนเป็นอาถรรพ์การทำภาคต่อครับ โดยเฉพาะหากภาคแรกเคยทำเอาไว้ดีมาก ๆ ตอนทำภาคต่อก็ย่อมมีแรงกดดันเป็นเงาตามตัว ใครที่คิดถึงซีรีส์นี้อยู่อาจต้องลุ้นกันเหนื่อยมาก แต่ก็ใช่ว่าโอกาสจะเป็น 0% ซะทีเดียว เพราะซีรีส์เก่าแก่อย่าง Romancing SaGa และ Mana ก็เพิ่งจะมีการนำมารีเมคและรีมาสเตอร์กันเมื่อไม่นานมานี้เอง

ติดตามข่าวสารของเกมต่าง ๆ ในบทความได้ที่

https://www.facebook.com/megaman/
https://www.facebook.com/SquareEnix/
https://www.facebook.com/capcomusa/
https://www.facebook.com/konami/