รวม 11 เรื่องที่คุณอาจไม่รู้เกี่ยวกับเกม The Last of Us

หากพูดถึงเกม The Last of Us แล้ว นอกจากคุณภาพของเกมที่อยู่ในระดับขึ้นหิ้ง ก็ยังมีรายละเอียดยิบย่อยอีกมากมายที่เราสามารถพูดถึงได้อีกเพียบ แต่ในบรรดารายละเอียดเหล่านั้น ก็ยังมีเกร็ดหรือเรื่องลับๆ อยู่บางส่วนที่ผู้เล่นอย่างเราๆ อาจไม่เคยรู้หรือไม่ทันสังเกตเห็นมาก่อน บทความนี้เลยขอรวบรวม 11 เรื่องที่เราอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับเกม The Last of Us ให้ชมกันสักหน่อยครับ

***เนื้อหามีการสปอยล์เนื้อเรื่องบางส่วนของเกม The Last of Us***

ภายในเล่มคู่มือที่มาพร้อมกับกล่องเกม The Last of Us โซนญี่ปุ่น เวอร์ชั่น PS3 จะมีอยู่หน้านึงที่ระบุว่า Joel (โจล) นั้นมีนามสกุลว่า Miller (มิลเลอร์) ครับ ตรงนี้หากใครเล่นเกม The Last of Us Remastered จะสามารถใช้ Photo Mode ในช่วงที่เล่นเป็น Sarah (ซาราห์) ลูกสาวของโจลระหว่างที่ยังอยู่ในบ้านได้ ซึ่งพอเข้ามาใน Photo Mode แล้ว ให้เลื่อนไปดูใบประกาศนียบัตรที่วางอยู่เหนือ PC ในห้องนอนของซาราห์ สังเกตตรงนามสกุลจะเห็นว่ามันสะกดด้วยคำว่า Miller เหมือนกัน
วันเกิดของโจลคือวันที่ 26 กันยายน เรื่องนี้เคยมีการคอนเฟิร์มโดยคุณ Mike Richard Davies (ไมค์ ริชาร์ด เดวีส์) อดีตทีมงานจาก Naughty Dog ที่ปัจจุบันย้ายมาทำงานให้กับ Infinity Ward ครับ (อ้างอิง https://twitter.com/Ninjafr4me/status/383250800517980161)

ในห้องนอนของซาราห์จะมีโปสเตอร์ของวงดนตรี The Bash (เดอะแบช) แปะอยู่บนผนัง ซึ่งโปสเตอร์นี้เคยมีชาวเน็ตเชื่อว่าน่าจะเป็นมุกล้อเลียนวงดนตรี 2 วง ได้แก่ The Clash (เดอะแคลช) ที่เป็นวงพังค์ร็อคสัญชาติอังกฤษ โดยล้อเรื่องชื่อวงอ่านพ้องเสียง ส่วนอีกวงคือ The Strokes (เดอะสโตรคส์) ที่เป็นวงร็อคจากนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา โดยล้อเรื่องการดีไซน์รูปบนโปสเตอร์ที่ใช้ลวดลายคล้ายกันนั่นเอง

จากรูปถ่ายคู่กันของโจลกับซาราห์ เราจะรู้ว่าซาราห์นั้นเป็นนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียนด้วย ซึ่งชื่อทีมของเธอก็คือ Defenders (ดีเฟนเดอร์ส) โดยเราจะสามารถทราบชื่อทีมได้จากแผ่นโพสต์อิทใบหนึ่งพร้อมกับตราสโมสรที่แปะอยู่บนตู้เย็นในบ้านของโจล ตรงนั้นเราจะรู้เพิ่มด้วยว่าเบอร์เสื้อทีมที่ซาราห์สวมคือเบอร์ 14 และเลข 14 นี้ก็ยังเป็นอายุของเอลลี่ในเกมอีกด้วย
Neil Druckmann (นีล ดรัคแมนน์) ผู้กำกับของเกมนี้ได้เคยให้สัมภาษณ์ว่าเขาจงใจให้เกมเริ่มต้นด้วยภาพตัวละครซาราห์ (ที่กำลังหลับอยู่บนโซฟา) และจบเกมด้วยภาพตัวละครเอลลี่ (ที่กำลังยืนคุยกับโจล) เพื่อให้เป็นสิ่งเชื่อมโยงกันระหว่างสองตัวละครในเชิงสื่อสัญลักษณ์ครับ (อ้างอิง https://venturebeat.com/2013/08/06/the-last-of-us-creators-compare-their-blockbuster-games-beginning-and-ending/)
ใครที่เคยเล่น DLC Left Behind มาก่อน ช่วงกลางเรื่องเราจะได้เจอเครื่องโฟโต้บูธ ที่ Ellie (เอลลี่) กับ Riley (ไรลีย์) จะเข้าไปแอ็กท่าตลกๆ ถ่ายรูปด้วยกัน โดยหลังจากถ่ายเสร็จ เอลลี่จะพิมพ์นามสกุลลงไป 8 ตัวอักษร ซึ่งอักษรเหล่านั้นจะปรากฏเป็นบล็อคสีดำๆ แทนการโชว์ตัวอักษรทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นรู้ว่าเราพิมพ์อะไรลงไป (อารมณ์เหมือนเวลาเรากรอกพาสเวิร์ดนั่นแหละครับ) ตรงนี้ถ้าใครซื้อเกมเวอร์ชั่น PS3 ที่เป็นโซนญี่ปุ่น ในกล่องจะมีเล่มคู่มือที่มีรายละเอียดลงไว้ว่านามสกุลของเอลลี่คือ Williams (วิลเลียมส์) และคำว่า Williams ก็ประกอบด้วย 8 ตัวอักษรพอดี

ระหว่างที่เราเล่นเกม จะสังเกตได้ว่าตัวละครอื่นๆ ที่เดินมากับเราจะไม่ถูกเห็นโดยศัตรู และศัตรูจะตื่นตัวเมื่อพบเจอตัวที่เราบังคับอยู่เท่านั้น จุดนี้เป็นความตั้งใจของทีมงาน Naughty Dog ที่ไม่ต้องการให้ AI ตัวละครที่เป็นเพื่อนเรากลายมาเป็นอุปสรรคในการแอบซ่อนตัวของเรานั่นเอง
ชื่อตัวละคร Tess (เทส) เป็นการดึงมาจากตัวละครชื่อเดียวกันจากเกม Jax and Daxter ที่พัฒนาโดย Naughty Dog เหมือนกันครับ
หลังจากที่เทสยอมสละชีวิตเพื่อถ่วงเวลาพวกทหารให้เราแล้ว ระหว่างนั้นถ้าเรายังไม่ขึ้นชั้นบนเพื่อกระโดดไปอีกฟากของตึก ทหารกลุ่มที่ยิงเทสตายจะพังประตูมาหาเรา หากเราจัดการพวกมันได้หมด จะสามารถเดินไปยังจุดที่เทสนอนตายได้ และจะมีเพลงช้าๆ เศร้าๆ บรรเลงตอนที่เรายืนข้างศพเธอด้วย

ชุดที่ตัวละคร Marlene (มาร์ลีน) สวมใส่ตอนที่โจลไปพบเธอที่โรงพยาบาลช่วงท้ายเกม เป็นชุดที่มีความคล้ายกับชุดที่ตัวละคร Elena (เอเลน่า) ใส่ในเกม Uncharted: Drake’s Fortune ที่เคยลงสมัย PS3 ซึ่งก็เป็นเกมจากค่ายเดียวกันนั่นแหละ

เป้สะพายหลังของตัวละคร Bill (บิล) จะเป็นดีไซน์เดียวกับตัวละครฝ่าย Hunter (ฮันเตอร์) ในโหมดมัลติเพลเยอร์ ส่วนเป้สะพายหลังของตัวละคร Henry (เฮนรี่) ก็จะเป็นดีไซน์เดียวกับตัวละครฝ่าย Firefly (ไฟร์ฟลาย) เช่นกัน