อนิเมะชื่อดังหลายเรื่องนั้น มักจะนำเสนอเรื่องการต่อสู้เป็นหลัก ด้วยเหตุนี้เองเกมต่อสู้มากมายจึงสานต่อความมันส์ด้วยการนำอนิเมะเรื่องต่างๆ มาทำเป็นเกม ผลที่ออกมาส่วนใหญ่จึงถูกใจเกมเมอร์ชาวไทยเป็นจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้เองทีมงานจึงขอนำเสนอ 5 เกมไฟท์ติ้งสุดมันจากอนิเมะสุดดัง ซึ่งจะมีเกมอะไรบ้างนั้นติดตามไปพร้อมๆ กันได้เลย
**หมายเหตุ เป็นเพียงความคิดเห็นของผู้เขียนเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน**
1. Dragonball Z: Budokai Tenkaichi 3 (Dragonball Sparking Meteor)
นับว่าเป็นภาคที่มันส์สะใจชนิดที่พังปุ่มกดและอนาลอกของเราได้อย่างรวดเร็ว (555) เพราะผู้เล่นทั้งสองจะต้องห้ำหั่นกันด้วยท่าต่อสู้ทั้งหลาย อันเป็นเอกลักษณ์ของตัวละครตระกูล Dragonball ที่ขนกันมาทั้งภาคพิเศษ Movie ที่มีมากถึง 80 ตัว พร้อมด้วยเกมเพลย์อันดุดันเลือดสาด ตามภาษาชาวไซย่าทั้งหลายที่งานนี้นอกจากจะซัดกันจนบ้านถล่ม ตึกทลาย ภูเขาเป็นรูแล้ว การโต้พลังคลื่นเต่านั้นก็ยังเป็นอะไรที่สนุกและอลังกาลงานสร้างเป็นอย่างมาก เรียกว่าเป็นภาคที่ลงตัวในหลายๆ องค์ประกอบและยังได้ใจแฟนบอยไปเต็มๆ
ต้านพลังคลื่นเต่ากันอย่างอลังการ
แม้แต่จีจี้ก็ยังสามารถเลือกมาเล่นได้
2. Naruto Shippuden Ultimate Ninja Storm 4
Platform: PlayStation 4 , Xbox One , PC
และแล้วเวลาก็ได้ล่วงเลยมาถึงภาคสุดท้ายเสียทีสำหรับนินจาจอมคาถา Naruto ซึ่งระบบการต่อสู้ที่ออกมาในภาค 4 นี้ ถือว่าสมบูรณ์แบบมากที่สุดเพราะนอกจากจะสู้กันด้วยพละกำลังแล้ว ผู้เล่นยังต้องวางกลยุทธคาถานินจาของตัวละครที่เลือกเล่นให้เป็นแบบแผน และคาดคะเนการกระทำของศัตรูล่วงหน้า เพื่อสร้างความได้เปรียบในการต่อสู้ให้มากที่สุด เพราะไม่เช่นนั้นแล้วเราเองก็อาจจะตกเข้าไปอยู่ในกลยุทธของฝั่งตรงข้ามก็เป็นได้
นับว่าในภาคบทสรุปนี้นั้นเป็นการจบซีรีส์ที่ออกมาได้ดีเหมาะสมกับการปิดตำนานนินจาวายุสลาตันจริงๆ
การต่อสู้ ที่มีมากกว่าเตะและต่อย
เอกลักษณ์ท่าทางของตัวละครยังอยู่ครบ
3. Gundam Extreme Vs. Full Boost
Platform: PlayStaion 3
เชื่อหรือไม่ว่าแฟนๆ หลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันถึงความสุดยอดในภาคนี้ ที่เสมือนผู้เล่นได้บังคับหุ่นยนต์ Gundam ของจริง ไม่ว่าจะเป็นสมรภูมิรบที่เปิดกว้างให้ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายติดไอพ่นลอยขึ้นฟ้า โจมตีกันได้อย่างอิสระ ส่งผลให้การปะทะกันของหุ่นเหล็กทั้งสองดูทรงพลังและน่าเกรงขาม อีกทั้งรูปแบบการโจมตีที่แตกต่างกันของทุกๆ ตัวละครที่ทำออกมาได้สวยงาม แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถใช้หวังผลได้ ทั้งนี้ความอึดถึกทนทานของแต่ละตัวจะถูกวัดด้วยค่าพลังที่เรียกว่า Cost ตัวไหนเก่งก็จะมีค่า Cost ที่น้อยต้องรีดศักยภาพของหุ่นออกมาให้เต็มที่ ตรงกันข้ามตัวไหนที่ระดับปานกลางจะมีค่า Cost ที่เป็นมิตร การเลือกหุ่นรบนั้นจึงสำคัญเพื่อให้เกิดความสมดุลกับทีมของตน
โดยรวม Gundam Extreme Vs. Full Boost ถือว่าเป็นอีกหนึ่งภาคที่ชูจุดเด่นซีรีส์เกม Gundam ด้านเกมเพลย์ให้ออกมาได้สนุก ตื่นเต้น ดั่งที่แฟนๆ คาดหวังไว้
ท่วงท่าการฟันที่แข็งแกร่งอย่างที่ Gundam ควรจะเป็น
Heero Yuy และ XXXG-01W Wing คู่ใจ
4. JoJo's Bizarre Adventure
Platform: PlayStation
ในบรรดาสามเกมที่กล่าวมาข้างต้น ต่างก็อยู่ภายใต้ชายคา Bandai Namco ค่ายผู้พัฒนาที่เกมเมอร์ทั้งหลายต่างรู้กันดีถึงระบบการเล่นในเกมต่างๆ ที่เป็นมิตรกับผู้เล่น แต่สำหรับ JoJo's Bazarre Adventure ดูจะต่างออกไป เพราะมันถูกสร้างและพัฒนาโดยทีมระดับพระกาฬงานบู๊อย่าง Capcom ผลที่ได้ จึงออกมาเป็นเกมต่อสู้ที่เรียบง่ายแต่มีมิติสูงมากเกมหนี่งที่เคยมีมา โดยแต่ละตัวละครนอกจากจะถอดแบบมาจากอนิเมะได้อย่างสมบูรณ์แล้ว เอกลักษณ์ Stand และกระบวนท่าลีลาต่อสู้ทุกระเบียดนิ้วยังถูกเก็บรายละเอียดชนิดที่ไม่ตกหล่นเลยสักเม็ด ทำให้การต่อสู้นั้นต้องใช้ชั้นเชิง และความเคยชิน ทั้งตัวละครที่เราเล่นและคู่ต่อสู้ที่ต่างก็มีจุดเด่น จุดด้อยแตกต่างกันออกไป
JoJo's Bazarre Adventure จึงจัดเป็นอีกหนึ่งเกมที่สัมผัสได้ถึงความใส่ใจในตัวผู้สร้าง ส่งผลให้กลายเป็นเกมที่ถูกคออนิเมะต้นฉบับที่รักในเกมต่อสู้เป็นที่สุด
ต่อสู้ด้วย Stand สุดมันส์
คัทซีนเฉพาะเมื่อเจอมวยถูกคู่
5. One Piece: Burning Blood
Platform: PlayStation 4 , Xbox One , PC
อันที่จริงนั้นตัวเกมยังไม่ได้วางจำหน่าย หากแต่ Trailer ของเกมมันช่างน่าสนใจและดูดุดันเสียจริงๆ รวมถึง One Piece ฉบับเกมต่อสู้ในภาคก่อนๆ ดูจะไม่ค่อยถูกพูดถึงในหมู่คอเกมต่อสู้เท่าไหร่ ดังนั้น One Piece: Burning Blood จึงเป็นภาคที่น่าสนใจ ด้วยกราฟิกที่ถูกพัฒนามากขึ้นพร้อมการแสดงผลแบบ Cel-Shade ที่ลายเส้นช่างดูเข้มหนาแสดงถึงความเอาจริงเอาจัง และดุเดือดสะใจ และการต่อสู้ที่ดูรวดเร็วและดุดัน ทำให้เป็นอีกโปรเจ็กต์หนึ่งที่น่าสนใจและน่าติดตาม
เอกเฟกต์สุดเท่ของเอสหมัดเพลิง
กราฟิก Cel-Shade สวยบาดตา
ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีอีกหลากหลายเกมที่ทำจากอนิเมะ บ้างก็ออกแนว RPG เต็มสูบ , ไม่ก็แนวแอกชั่นสไตล์ Musou (หนึ่งขุนพลฟาดฟันกับทหารหลักแสน) ที่ล้วนแล้วก็ทำออกมาได้สนุกและน่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะไ่ม่ว่าจะเป็นเกมในรูปแบบใด การได้บังคับตัวละครอนิเมะที่เราชื่นชอบ ก็ดูจะเป็นอะไรที่ประทับใจและได้ใจเหล่าเกมเมอร์ไปเต็มๆ อยู่ดี