SIPA จับมือ TRUE เปิดเวทีปั้นนักพัฒนาเกม สนับสนุนสร้างสรรค์ผลงานใหม่ พร้อมส่งเสริมอุตสาหกรรมเกม จัดโครงการ SIPA Game Contest & Award 2010 การแข่งขันเพื่อค้นหาสุดยอดนักพัฒนาเกมแห่งประเทศไทย พร้อมเชิญชวนนักพัฒนาเกมอิสระ นักศึกษา บุคลทั่วไป และผู้ประกอบธุรกิจเกม จัดส่งผลงานเข้าร่วมประกวดทุกแพลตฟอร์ม ได้แก่ Console Game, PC Game, Mobile Game และ Social Networking Game ชิงรางวัลรวมมูลค่า 1.3 ล้านบาท และรางวัลแพ็คเกจทัวร์ดูงาน G Star ประเทศเกาหลี 3 วัน 2 คืน เปิดรับผลงาน 24 พฤษภาคม -15 กรกฏาคม 2553 นี้
คุณ ชวลิต สาลีผล กรรมการบริหาร รักษาการผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมอุตสหกรรมซอพท์แวร์แห่งชาติ หรือSIPA กล่าวเปิดงานและแถลงการณ์ถึงนโยบายของการจัดการแข่งขันในครั้งนี้
การแข่งขัน SIPA Game Contest 2010 มีวัตถุประสงค์สนับสนุนให้มีการพัฒนาเกมใหม่ออกมาโดย แบ่งเป็น 2 ระดับการแข่งขัน ได้แก่ ระดับนักเรียน-นักศึกษา เลือกสมัครได้ 4 ประเภท ได้แก่ Console Game, PC Game, Mobile Game และ Social Networking Game และระดับนักพัฒนาเกมอิสระ [Freelance] หรือบุคคลทั่วไป เลือกสมัครได้ 2 ประเภทได้แก่ Mobile Game และ Social Networking Game สำหรับรางวัลแต่ละระดับประกอบไปด้วย รางวัลชนะเลิศ 1 รางวัล [รวม 6 รางวัล] รางวัลชมเชย 3 รางวัล [รวม18 รางวัล] และรางวัลพิเศษ GCA Star 2 รางวัล ทุกๆ รางวัล จะได้รับโล่และ ประกาศนียบัตร พร้อมเงินรางวัล รวมมูลค่าทั้งหมด 1.3 ล้านบาท นายชวลิตกล่าวและเพิ่มเติมต่อว่า รางวัลชนะเลิศ 1 รางวัล [รวม 4 รางวัล] ก็จะได้รับแพ็คเกจทัวร์ไปดูงาน G Star ประเทศเกาหลีเป็นเวลา 3 วัน 2 คืน รางวัลละ 1 ที่นั่ง พร้อมโล่และประกาศนียบัตร และรางวัลชมเชย ประเภทละ 2 รางวัล [รวม 8 รางวัล] รับโล่และ ประกาศนียบัตร นอกจากนี้ ยังมี รางวัล Popular Vote อีก 1 รางวัล ตัดสินคะแนนจากการโหวตผ่าน SMS ให้กับผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้าย จำนวน 12 เกม ที่เข้ารอบ 3 อันดับในแต่ละประเภท โดยจะได้รับโล่และ ประกาศนียบัตร พร้อมแพ็คเกจทัวร์ดูงาน G Star ประเทศเกาหลี 3 วัน 2 คืน รางวัลละ 1 ที่นั่ง ทั้งนี้ การพิจารณาตัดสินทั้ง SIPA Game Contest ขั้นตอนการพิจารณาตัดสิน จะแบ่งออกเป็น 3 รอบ และการพิจารณาตัดสินทั้ง SIPA Game Award ขั้นตอนการพิจารณาตัดสิน จะแบ่งออกเป็น 2 รอบ โดยรอบสุดท้ายจะประกาศผลในงาน BIG Festival 2010 ที่จะจัดขึ้นในเดือนตุลาคม 2553 นี้
คุณ อริยะ พนมยงค์ หัวหน้าคณะผู้บริหาร ด้านการพาณิชย์-คอนเวอร์เจนซ์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด ออกแถลงการณ์ถึงภาพโดยรวมของกิจกรรมในครั้งนี้
นายอริยะ พนมยงค์ หัวหน้าคณะผู้บริหาร ด้านการพาณิชย์-คอนเวอร์เจนซ์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมและสถานะการณ์ของตลาดเกมในประเทศ จากข้อมูลของ รายงานอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเท้นท์ ของไทยปี 2552 พบว่า มูลค่าอุตสาหกรรมเกมปี 2551 มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 8,397 ล้านบาท โดยคาดว่าในปี 2556 ธุรกิจเกมในไทยจะมีมูลค่าตลาดรวมสูงถึง 14,404 ล้านบาท ซึ่งมีอัตราการเติบโตในระยะ 5 ปีข้างหน้ากว่า 8.48 %
เหล่าประธานผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง 5 ท่าน ร่วมเปิดตัวงาน SIPA Game Contest 2010
.jpg)
จากข้อมูล แสดงให้เห็นถึงโอกาสอันดีของอุตสาหกรรมเกมไทย ที่จะเติบโตและสร้างรายได้ให้กับอุตสาหกรรมเกมไทยอย่างมหาศาล โดยปัจจุบันสื่อ Digital Content ในรูปแบบซอฟต์แวร์เกมบนแพลตฟอร์มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Console Game, PC Game, Mobile Game และ Social Networking Game เข้ามีบทบาทต่อวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่มากขึ้น ทำให้อุตสาหกรรมเกมมีการแข่งขันเชิงพาณิชย์ เพื่อตอบสนองความต้องการแก่ผู้ใช้บริการ ทรู ในฐานะผู้นำด้านธุรกิจเกม จึงได้มีนโยบายที่จะร่วมสนับสนุนอุตสาหกรรมเกม โดยร่วมกับ ซิป้า จัดโครงการ SIPA Game Contest & Award 2010 เพื่อส่งเสริมอุตสหกรรมเกมโดยรวมอย่างต่อเนื่อง ในการจัดโครงการ SIPA Game Contest & Award 2010
เหล่าผู้บริหารชั้นนำและคณะกรรมการทั้งหมดของกิจกรรม SIPA Game Contest & Award 2010 ถ่ายรูปหมู่เปิดตัวงานอย่างเป็นทางการ
บริษัท ทรู ดิจิตอล คอนเท้นต์ แอนด์ มีเดีย จำกัด จะรับผิดชอบด้านบริหารจัดการการดำเนินโครงการฯ ไม่ว่าจะเป็นการจัดโรดโชว์ เพื่อแนะนำโครงการและรับสมัครผู้สนใจเข้าร่วมการแข่งขันไปตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศ การฝึกอบรมพัฒนาทักษะทางด้านการตลาดในอุตสาหกรรมเกม รวมถึงการใช้สื่อประชาสัมพันธ์ในกลุ่มทรู ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างครอบคลุม อาทิ เวบไซด์เกม นิตยสารเกมฟิวเจอร์เกมเมอร์ และช่อง G Square ทางทรูวิชั่น เป็นต้น โดยมี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ให้การสนับสนุนและร่วมกำหนดแนวคิดการพัฒนา และพิจารณาตัดสินผลงาน ทั้งนี้ จะนำผลงานที่ได้รับพิจารณาบนแนวคิด IT Innovation Service ไปต่อยอด เพื่อเป็นต้นแบบบริการเสริมบริการให้แก่ การบินไทย ที่จะได้นำไปให้บริการแก่ลูกค้า อันเป็นจุดเรี่มต้นในการเชื่อมโยงอุตสหกรรมเกมเข้าไปสู่ธุรกิจบริการอื่นๆ ที่จะนำไปสร้างมูลค่าเพิ่มในการให้บริการ นับเป็นประโยชน์แก่ทั้งอุตสาหกรรมเกมและนักพัฒนาเกมรุ่นใหม่ๆ ที่จะได้มีเวที มีโอกาส และกำลังใจที่จะพัฒนาเกมให้มีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล และมีศักยภาพรองรับความต้องการของอุตสาหกรรมเกมในตลาดโลกต่อไป
