ประเภท: First-Person Shooter
ผู้พัฒนา: 8monkey Labs
ผู้ผลิต: Phantom EFX, Inc.
ผู้จัดจำหน่าย: –
เว็บไซต์: www.darkestofdays.com
กำหนดวางตลาด: กันยายน 2552
“ความฝันอันสูงสุดของผู้ชายอย่างหนึ่งก็คือการทำเกมเจ๋งๆ ขึ้นมาสักเกม” เป็นคำพูดของ Aaron Schurman ผู้บริหารของค่ายพัฒนาเกม Phantom EFX ผู้ซึ่งลาออกจากการเป็นนักบินในกองทัพอากาศอเมริกา (Air Force Space Command) เพื่อร่วมหุ้นกับเพื่อนซี้ทำธุรกิจที่ทั้งคู่ใฝ่ฝัน และเกมเจ๋งๆ ที่เขากำลังกล่าวถึงนั้นก็คือเกมที่ชื่อว่า Darkest of Days
Aaron ให้สัมภาษณ์ว่า “จริงๆ แล้วแนวคิดของเกมนี้มันอยู่ในหัวผมมาตั้งหลายปีแล้ว ก่อนที่ผมจะลาออกมาตั้งบริษัทเสียอีก แต่ผมคิดว่ามันคงจะไม่ทำเงินและบริษัทของเราที่เพิ่งเปิดใหม่คงจะเจ๊งเป็นแน่แท้ถ้าเราเข็นมันออกมาเป็นเกมแรก ดังนั้นเราจึงทำเกมที่คิดว่าจะได้ตังค์ขึ้นมาก่อน” Aaron และเพื่อนๆ ทั้ง 6 (ทั้งบริษัทมี 7 คนในการเริ่มก่อตั้ง) จึงได้เริ่มแผนการในการทำเกมแรกเพื่อกอบโกยรายได้ ต้องขอบคุณเกมคาสิโนและเครื่องสล็อตแมชชีนของพวกเขาที่สร้างรายได้จนสามารถทำให้เกมที่อยู่ในห้วงความคิดของผู้ชายคนหนึ่งมาตลอดเกือบทศวรรษเป็นจริงขึ้นมาได้
เฮ้! พวก หันมาดูปืนของฉันหน่อยสิ!!
“ผมคิดว่านิยายการท่องผ่านกาลเวลาเป็นอะไรแจ่มเป็ดและเร้าใจตลอดกาล แต่ถ้ามันอยู่ในเกมที่ผู้เล่นสามารถโต้ตอบและเปลี่ยนแปลงมันได้ล่ะ? นี่ล่ะแนวคิดของเกมเจ๋งๆ ที่ผมว่า” Aaron พูดถึงแนวคิดหลักของ Darkest of Days
แน่นอนผมก็คิดว่ามันเป็นความจริง หลังจากที่ 8monkey Labs (สตูดิโอพัฒนาที่พวกเขาก่อตั้งขึ้นมาพัฒนาเกมโดยเฉพาะ) และเกม Darkest of Days สนุกสนานกับการท่องเวลาในการพัฒนาและเลื่อนวันออกวางจำหน่ายมาหลายต่อหลายปี ในที่สุดเกมชู้ตติ้งแบบมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (FPS) ก็ได้ฤกษ์วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเสียทีภายในปีนี้ (ทั้งของเครื่องคอนโซลอย่าง Xbox 360 และพีซี) และถึงแม้มันจะปะยี่ห้อว่าเป็นเกมแนว FPS แต่มันก็ใช่ว่าคุณจะสามารถเป่าสมองของศัตรูทุกคนที่ขวางหน้าคุณได้เฉกเช่นเดียวกับเกม FPS ทั่วๆ ไป
โลกอนาคตที่บิดเบี้ยวจากการเปลี่ยนประวัติศาสตร์
ใน Darkest of Days ผู้เล่นจะได้รับบทบาทเป็น Alexander Morris ทหารหนุ่มผู้เข้าร่วมสงครามกลางเมืองอเมริกา (Civil War) ในขณะที่โดนกระหน่ำยิงจนเลือดสาดกระเซ็น Alexander ก็ได้รับความช่วยเหลือจากองค์กรลึกลับและได้นำเขาเข้ามาสู่โลกอนาคต และมอบหน้าที่ในการจัดการกับองค์กรเหล่าร้ายที่ติดแผนจะเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์โลกโดยการสังหารบุคคลที่มีผลต่อประวัติศาตร์ และแน่นอนที่คุณจะต้องเป็นฝ่ายเลือกในการกระทำของคุณทั้งหมดว่าจะอยู่ฝ่ายไหน และให้ประวัติศาสตร์โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับทิศทางการหันปลายกระบอกปืนของคุณเพียงผู้เดียว
ฟีเจอร์ท่องเวลาเพื่อไปฆ่าให้ถูกคนถูกปิดเป็นความลับอย่างยิ่งยวด ทีมพัฒนาเพียงแค่เปิดเผยว่าผู้เล่นจะสามารถย้อนเวลาไป-กลับเพื่อที่จะแก้ไขผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของผู้เล่นได้เกือบตลอดเวลา และการกลับไปกลับมาในแต่ละครั้งนั้นจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสิ่งที่ผู้เล่นได้กระทำไปก่อนหน้า นอกจากนั้นอีกหนึ่งฟีเจอร์ก็คือการแปรผันของสภาพแวดล้อมสนามรบและการกระทำของ NPC ที่แตกต่างกันออกไปตามเหตุการณ์และช่วงเวลาที่ผู้เล่นได้เข้าร่วม แต่ทิศทางการเล่นของคุณจะมีผลกระทบกับสภาพจิตใจ (Moral) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการกระทำของ NPC กลุ่มนั้นๆ อีกด้วย (เช่น ถ้าคุณซุ่มระเบิดสมองของหัวหน้าหน่วย ลูกน้องหน่วยที่เหลือก็จะวิ่งป่าราบหายไปเอง เป็นต้น)
เดาได้เลยว่านี่ไม่ใช่อาวุธสมัยสงครามโลกเป็นแน่แท้
แน่นอนว่าการเดินทางผ่านกาลเวลาสามารถหยิบอะไรติดไม้ติดมือไปได้นิดหน่อย คุณสามารถใช้อาวุธจากอนาคตไปใช้ในสมรภูมิอดีตได้โดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ (โดยที่ไม่มีใครทันสังเกตเห็น…) แต่ระวังให้ดี คุณไม่ใช่ผู้เดียวที่สามารถเดินทางผ่านกาลเวลาได้ คุณอาจจะต้องเจอกับกองกำลังจากองค์กรอีกฝั่งหนึ่งระหว่างการทำภารกิจได้ง่ายๆ ดังนั้นจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อมอยู่ตลอดเวลา และเฝ้าตั้งตารอเกม Darkest of Days เกมเจ๋งๆ ที่จะออกตัวเต็มมาให้เราได้เล่นภายในเวลาอันใกล้กันดีกว่า
Battle of the Little Bighorn
หนึ่งในสมรภูมิที่ชาวอเมริกันจดจำได้เพราะเป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ให้กับชนเผ่าพื้นเมือง (หรือที่เรารู้จักกันง่ายๆ ว่า “อินเดียนแดง”) มันเป็นหนึ่งในการต่อสู้ในช่วงสงครามกับเผ่าซูลู กองทหารม้าที่ 7 ของอเมริกาซึ่งมีกำลังพล 700 นายและบัญชาการโดยนายพล Custer พ่ายแพ้ให้กับฝ่ายอินเดียนแดงซึ่งนำโดยหัวหน้าเผ่าชื่อ Sitting Bull ทหารอเมริกัน 258 นายเสียชีวิต และมันก็ทำให้ชาวอเมริกันเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับกำลังของพวกอินเดียนแดงใหม่
