เมื่อพูดถึงการป้องกันก็ต้องพูดถึงการเข้าแย่งบอลก่อนเลยครับ ซึ่งส่วนใหญ่จะเข้าบอลกันผิดวิธีทำให้แย่งบอลกันไม่ค่อยได้ครับ ซึ่งการเข้าแย่งบอลที่ถูกวิธีนั้นก็จะทำให้สถานการณ์ของเราพลิกกลับเป็นฝ่ายได้เปรียบ และมีผลต่อการทำสกอร์ได้มากทีเดียว โดยสไตล์การเล่นแบบนี้มีวิธีการตัดบอลจากคู่แข่งหลายวิธีให้เลือกใช้
การแย่งโหม่งจากฝั่งตรงข้าม
การแย่งโหม่งจากลูกเตะมาจาก Goal Kick ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับ ค่าสเตตัสของนักเตะนั้นๆ ของเราว่าจะดี มากน้อยแค่ไหนที่จะเบียดแย่งโหม่งกับเค้าได้ครับ ซึ่งการแย่งโหม่งในจุดนี้มันไม่แน่เสมอไปว่า ยืนอยู่ข้างหน้าแล้วจะได้โหม่งบอล แต่บางที (ส่วนใหญ่) เราอยู่ด้านหลังเราจะได้โหม่งครับ เนื่องจากเราจะโถมตัวเข้าไปโหม่งบอลให้ไปข้างหน้าก็พอ แต่ผิดกับฝ่ายตรงข้ามที่ต้องโหม่งเลือกทิศทาง
บังบอลไว้ ชิงจังหวะโหม่งก่อน
การแย่งโหม่งจากลูกเตะมุม ก็มีเงื่อนไข พื้นฐานๆ คล้ายๆ ข้างบนคือต้องอ้างอิงเรื่อง Status ด้วย แล้วก็ส่วนใหญ่แล้วถ้ามันเข้าทางจริงๆ เราจะยืนเป็นง่อยกันหมด แต่ถ้าเราได้จังหวะที่จะแย่งโหม่งได้ เราต้องบังคับตัวให้วิ่งไป วิ่งมา เมื่อคู่ต่อสู้โยนบอลเข้ามา ก็ให้บังคับตัวเข้าไปอยู่ในจุดที่ได้เปรียบ และอยู่แถวๆ จุดที่บอลจะตก และให้กดเทคตัวขึ้นโหม่งแค่ครั้งเดียว พยายามอย่ากดรัวครับ แล้วตัวเราจะเทคตัวขึ้นโหม่งอย่าสมบูรณ์แบบ
การป้องกันลูกจากการยิงระยะไกล (Long Shot)
ให้เราทำการกด Walk Defend ซึ่ง Default คือปุ่ม C ใน Keyboard สไลด์ตามคู่ต่อสู้ไปเรื่อยๆ พยายามอย่าเข้าบอลพรวด ในขณะที่อยู่หน้ากรอบเขตโทษ เพราะมันจะมีแต่เสียกับเสียครับ แต่ถ้าเราสไลด์ตามคู่ต่อสู้ไปเรื่อยๆ ถึงเค้าจะยิงมาก็ติดตัวเราแน่นอนครับ แต่ต้องสไลด์ไปบังไลน์ไว้ตลอดนะครับ อย่าให้คลาดสายตา และนอกจาก เราจะ Block ลูกยิงได้แล้วเรายังได้โอกาสบุกอีกด้วยครับ ดูลักษณะการยืนจากรูป
ยิงเข้ามาเมื่อไรก็จะ Block ได้ทันที
Tip! การป้องกันการจ่ายทะลุช่องก็ทำเหมือนการป้องกันการยิงระยะไกลครับ เปลี่ยนแค่การยิงเป็นการจ่ายบอลก็ได้ เพราะมันใช้เทคนิคเดียวกันเด๊ะๆ
Sliding Tackle ใช้สไลด์ให้เกิดประโยชน์
การสไลด์บอลนั้นเป็นการแย่งบอลที่อันตราย แต่ก็เป็นการแย่งบอลที่ตัดการโหมบุกของคู่ต่อสู้ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากถ้าเราถอยกลับมาไม่ทันเราก็สามารถเบรกเกมด้วยการสไลด์บอลให้ออกข้างไป หรือว่าสไลด์เสียบให้เกิดการฟาวล์แต่ฟาวล์แบบเบาๆ ไม่ให้โดนใบนะครับ หุหุ
วิธีการทำ Clean Sliding Tackle หรือ สไลด์แย่งบอลอย่างขาวสะอาด เราควรจะเข้าสไลด์แย่งบอลจากด้านหน้าของคู่แข่งนะครับ สไลด์แบบนี้จะไม่เกิดการฟาวล์ แถมเราจะได้ลูกมาเปิดเกมบุกด้วยครับ
ดูตามภาพตัวอย่าง
สไลด์เข้าไปตรงๆ ด้านหน้าคู่แข่ง
วิธีที่ห้ามทำเด็ดขาด คือ สไลด์ในเขตโทษ หรือ สไลด์จากด้านหลังของคู่ต่อสู้ ซึ่งกรณีนี้ถ้าร้ายแรง มากๆ จะโดนใบแดงเอาง่ายๆ ซึ่งจะทำให้เราเสียเปรียบขึ้นมาทันทีเลยนะครับ
Tip! มีบางกรณีที่เราจะโชคดีก็คือ สไลด์เข้าบอลหนักๆ แล้วเราได้แค่ใบเหลือง แต่คู่ต่อสู้ที่เราสไลด์เข้าบอลไปนั้นเจ็บ! ซึ่งจุดนี้แหละครับ ที่จะกลายเป็นผลดีต่อตัวเราเอง หุหุ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับดวงด้วยนะครับ อิอิ
การเล่นสไตล์ Defense
Defense หรือการเล่นแนวป้องกันและตั้งรับ หลายๆ คนคงจะมองข้ามจุดนี้ไปซะส่วนใหญ่ (ตัวผมเองยังไม่ได้ใส่ใจเลย) แต่ตอนนี้ ผมอยากให้ทุกท่านได้รับรู้ไว้ว่าการเล่นเกมรับนั้นสำคัญอย่างไรต่อการแข่งขันเกมฟุตบอลครับ
จากประสบการณ์โดยตรงของผมแล้ว ทำให้ผมได้รับรู้ว่าการที่เราเล่นรูปแบบเกมรับนั้น ไม่ใช่ตุ๊ด!! หรือการหนีแต่อย่างใด แต่มันคือสไตล์อย่างนึงที่เราเก็บไว้ก้นบึ้ง เพื่อที่จะดึงมันออกมาในยามที่เราคับขันได้ในทันที
ในบางเกมที่เราได้เปรียบหรือนำตั้งแต่ต้นๆ เกม และการที่เกมนั้นเป็นอะไรที่กดดัน และฝีมือพอๆ กัน (เรียกว่าสูสีกันล่ะ ว่าง่ายๆ) สิ่งที่โผล่เข้ามาคือเกมรับครับ เราต้องดึงเกมที่ได้เปรียบให้มันอยู่กับเราตลอดทั้งเกม เราไม่ควรแลก แต่เราควรเลือกที่จะทำในสิ่งที่ควรทำ มาดูกันเลยดีกว่าครับ
Formation ที่เหมาะสม
5-3-2 : สุดฮิตครับ ใช้ได้ทั้งรุกและรับในเวลาเดียวกัน
1-4-3-2 : เป็นแผนการเล่นที่แปลกใหม่และน่าลองเหมือนกัน
เนื่องจากห้อยตัวหลังไว้คู่กับผู้รักษาประตูเลย
5-2-2-1 : เป็นอีก 1 ตัวเลือกสำหรับคนที่ชอบ ทั้งรับและรุกในเวลาเดียวกันครับ
5-4-1 : ห้อยหน้าไว้ตัวเดียว เผื่อรองรับการ Long Ball ไว้ด้วย แนวกลางก็แน่นไม่แพ้กัน
จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่เราจะเลือกใช้กองหลัง 5 คนนะครับ แล้วก็ หนุนด้วยกองกลางเข้าไปอีก เรียกได้ว่าอุดกันให้บ้าพลังเลยทีเดียว
จุดเด่นของสไตล์ Defense
จุดเด่นของมันอยู่ที่แน่นปึ้กครับ คือเรียกได้ว่าจะเจาะยังไงก็เจาะไม่เข้า ยิ่งถ้าเราคอนโทรลนักเตะเก่งๆ ด้วยแล้วโอกาสเสียประตูน้อยมากๆ ครับ และคิดว่าฝ่ายตรงข้ามคงต้องปวดหัว และกลับไปคิดหาแผนมาอัดเราใหม่กันเลยทีเดียวครับ
จุดด้อยของสไตล์ Defense
ข้อเสียหลักๆ ที่ผมมองคือเรื่องของการที่เราจะโดนลูกกลางอากาศเล่นเราได้ครับ เพราะเรื่องนี้มันเป็นเรื่องของตัวเกม เป็นเรื่องของ AI นั่นเอง เพราะว่าถ้าเราเจอผู้เล่นกลางอากาศเก่งๆ ก็แย่เอาการครับ เค้าจะให้กองหน้าเค้าวิ่งนำทางไปรับบอลที่โยนมา แล้วกองหลังเราจะหลอนรับประทานครับ จุดนี้ถ้าเราเสียก็ต้องปรับตัวกับสถานการณ์ และผสมผสานการเล่นรูปแบบอื่นๆ ไปในตัวครับ ^^”
ความเห็นส่วนตัวกับสไตล์ Defense
ผมคิดว่าการที่เราจะเล่นสไตล์อุดอย่างเดียวนั้นไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ ครับ เพราะเราจะไม่มีโอกาสได้ทำประตูเพิ่มเลย และที่แย่ไปกว่านั้นถ้าเราพลาดจนทำให้เสียประตูแล้วเรามัวแต่เล่นเกมรับๆๆ อย่างเดียวนั้น ก็เท่ากับแพ้แล้วครับ ถ้าเราพลาดลูกนึง ลูกที่ 2 และ 3 ก็จะตามมาเรื่อยๆ เราควรจะผสมผสานสไตล์อื่นผนวกเข้าไปด้วย ที่เหมาะที่สุดคือ Pass and Move นั่นเองครับ เนื่องด้วยตำแหน่งของนักเตะที่อยู่กันเป็นกลุ่มๆ สไตล์นี้จึงเหมาะสมมากกว่า Cross Ball Play ครับผม
นอกจาก 3 สไตล์การเล่นที่กล่าวมาแล้วยังมีอีกหนึ่งรูปแบบที่เจ๋งๆ พอๆ กับสไตล์ Defense เลยล่ะ ซึ่งอาจจะใช้เทคนิคคล้ายๆ กันอยู่บ้างเนื่องจากเป็นสไตล์ที่ใช้การตั้งรับเป็นหลักเหมือนกัน นั่นก็คือสไตล์ Semi Defense นั่นเองครับ