สยบฟ้า พิชิตปฐพี (Ever Night) รีวิว – ย้อนดูภาคแรกก่อนจัดยาวต่อภาค 2
สยบฟ้า พิชิตปฐพี เป็นซีรีส์ที่ออนไลน์ทาง WeTV เมื่อราวๆ กลางๆ ปีที่แล้วครับ แต่ผมเองเพิ่งจะได้มาไล่ดูทีเดียวรวด 60 ตอน เนื่องเพราะช่วงนี้ทาง WeTV โปรโมทภาค 2 ของเรื่องนี้หนักมาก อีกทั้งผมเพิ่งดู “หาญท้าชะตาฟ้าฯ” ผลงานซีรีส์จากปลายปากกานักเขียนคนเดียวกันจบไป (และชอบจัดๆ) จึงมีความสนใจที่จะลองย้อนกลับไปดูเรื่องนี้ในภาคแรกเสียก่อนมาไล่ตามดูภาค 2 ครับ เพราะจำได้ว่าช่วงเรื่องนี้ฉายอยู่ก็มีกระแสพอสมควรเลยทีเดียว และในภาพรวมหลังจากดูจบครบ 60 ตอนก็คงพูดได้เต็มปากว่าเป็นซีรีส์กำลังภายในยุคใหม่ที่น่าจับตามองใช้ได้เลยทีเดียว
สยบฟ้า พิชิตปฐพี สร้างจากผลงานนิยายชื่อเดียวกันของ “มาวนี่” ซึ่งเขียนขึ้นหลังจากที่เขาเขียน “หาญท้าชะตาฟ้า ปริศนายุทธจักร” จบไป เรียกง่ายๆ ว่าแม้นิยายจะมาทีหลังแต่ถูกนำมาทำเป็นซีรีส์ก่อน ก็จัดว่าการันตีคุณภาพของชิ้นงานนี้ได้ในระดับหนึ่งครับ ถึงอย่างนั้นผมก็อยากบอกไว้ก่อนว่าหากนำซีรีส์ทั้ง 2 เรื่องนี้มาเทียบกันทั้งในฐานะซีรีส์จากผู้เขียนเดียวกันหรือซีรีส์ซึ่งฉายไล่เลี่ยกัน แม้อาจจะเปรียบไม่ได้ทุกมุมเนื่องจากทั้ง 2 เรื่องมีแนวทางการนำเสนอเรื่องคนละแบบกัน แต่หากพูดถึงความกลมกล่อม ส่วนตัวผมให้หาญท้าฯ ชนะไปแบบไม่ต้องคิดเยอะ ทว่าก็ไม่ได้หมายความว่าสยบฟ้าจะเป็นซีรีส์ที่แย่ครับ ในทางกลับกันนี่คือซีรีส์ที่ดูเพลินเรื่องหนึ่งเลย แค่ผมชอบหาญท้าฯ เอามากๆ ก็เท่านั้นเอง ฮ่า~
ตัวเรื่องจะกล่าวถึงโลกที่กำลังจะโดน “ราตรีนิรันดร์” เข้ากลืนกิน เหล่าผู้วิเศษและผู้มีวรยุทธ์ระดับสูงต่างพากันหาวิธีหยุดหายนะในครั้งนี้ เพียงแต่ภัยร้ายระดับทำลายโลกก็ไม่อาจเป็นปัญหาในสายตาของทหารชายแดนและสาวใช้ส่วนตัวผู้หาเช้ากินคํ่าที่เฝ้าฝันเพียงเรื่อง หาเงิน, ฝึกตน, ล้างแค้น แล้วใช้ชีวิตสุขสบาย แต่พวกเขาคงไม่คิดว่าภารกิจหนึ่งที่แลดูจะเป็นปกติจะกลับพาให้พวกเขาเข้าไปพัวพันกับเรื่องที่ใหญ่ขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ จากจุดนี้เองที่การผจญภัยของ “หนิงเชวี่ย” และสาวใช้หน้าดำของเขา “ซังซัง” ได้เริ่มต้นขึ้น
สยบฟ้าฯ วางตัวเองเป็นซีรีส์กำลังภายในยุคใหม่ ดังนั้นเราสามารถคาดหวังถึงการใช้ CG มากมายในเรื่องได้เลย ซึ่งก็มีทั้งช็อตเนียนบ้างไม่เนียนบ้างสลับกันไป แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าโดยมากแล้ว CG ของการร่ายเวทหรือใช้ท่ามันทำให้ซีนนั้นๆ กลายเป็นดูดีและทรงพลังขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และแม้จะมีซีนบู๊มากมายแต่ช็อตสู้แบบจัดเต็มในตอนสุดท้ายนี่ยอดเยี่ยมสุดไม่ว่าจะในแง่ CG หรือการออกแบบคิวบู๊ที่ทั้งสวยงามและอันตราย
คิวบู๊ส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ดี แต่การดำเนินเรื่องแอบมีรอยแผลและยืดเยื้อไปสักหน่อย บางช่วงเรารู้สึกว่าผ่านมาหลายตอนเนื้อเรื่องก็ยังไม่ไปไหนเลย แต่หลายๆ ช่วงก็ทำได้ดีจนต้องขอดูเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งก็เพราะโปรดักชั่นที่ดูยิ่งใหญ่ไม่ขัดหูขัดตา และแคสต์ที่จัดว่าโอเคเลย มีหลายๆ ตัวละครที่น่าจดจำอย่าง หนิงเชวี่ย, โม่ ซานซาน (อวย) หรือ เยี่ยหงอวี้ (อวย) และที่ชอบมากๆ คือเหล่าศิษย์ทั้ง 13 แห่งสำนักอักษร ที่มีคาแรคเตอร์จัดจ้าน ไม่ซํ้าซ้อนกัน แม้บางคนบทจะไม่ได้มากมาย แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่นลักษณะจำเพาะของตัวละครเหล่านี้ก็เพิ่มสีสันให้กับเรื่องได้ไม่น้อย
อีกหนึ่งจุดที่ชอบที่สุดของเรื่องคือการเฉลยปมพระเอกในช่วงท้าย คือเรื่องนี้มีปมปริศนาไม่มากนัก แต่ก็เป็นปมใหญ่ๆ ทั้งนั้น โดยในภาคแรกจะมีการเฉลย 1 ในปมใหญ่ของพระเอกอย่างหนิงเชวี่ย ที่ต้องบอกเลยว่าหักมุมเล็กน้อย แต่สดใหม่และค่อนข้างกินใจมากๆ เหมือนประกาศตัวกลายๆ ว่านี่คือยุคใหม่ของซีรีส์กำลังภายในจีนแล้ว ไม่จำเป็นต้องเดินตามขนบเก่าๆ อีกต่อไป อันนี้คือดี มีความหมายทั้งกับเนื้อเรื่องและ Genre ของซีรีส์/นิยายเลยทีเดียว
ยํ้าอีกครั้งว่าสยบฟ้า พิชิตปฐพีเป็นซีรีส์กำลังภายในชั้นดีที่คุณสามารถดูฟรีๆ ได้ทุกตอนจนจบภาคได้ทาง WeTV ครับ มีทั้งแบบซับไทยและพากย์ไทยให้เลือกรับชมกันตามสบาย ถึงแม้เรื่องบางช่วงอาจจพยืดเยื้อเวิ่นเว้อไปสักหน่อย แต่ในภาพรวมคือสนุก มันส์ คุ้มค่าการเสียเวลารับชมครับ และเมื่อดูจนจบคุณก็สามารถต่อภาค 2 ต่อได้ทันที ถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนแคสต์ไปจากภาคแรกซะเยอะจนแลดูราวกับเป็นคนละเรื่องไปเลยก็ตาม
7.5/10
สยบฟ้า พิชิตปฐพี (Ever Night) รีวิว – ย้อนดูภาคแรกก่อนจัดยาวต่อภาค 2
