Mission: Impossible กลายเป็นหนึ่งในหนังแฟรนไชส์อย่างเต็มตัวแล้วหลังมันมีการดำเนินเรื่องที่มีเนื้อหาเชื่อมโยงกันอย่างมีนัยสำคัญมาแล้วถึง 2 ภาคและก็กลายเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จทั้งสองภาคยิ่งกว่าภาคก่อนๆ ที่ออกฉาย แต่เชื่อหรือไม่ว่า Mission: Impossible – Ghost Protocol เกือบกลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของซีรีส์นี้ หลังจากที่เคยมีข่าวออกมาว่าทาง Tom Cruise อาจจะขอถอนตัวออกจากบทบาทของ Ethan Hunt
โดยเป็นการเปิดเผยจากทาง Robert Elswit ตากล้องที่เคยร่วมงานกับหนัง Mission: Impossible ที่ได้ให้สัมภาษณ์ไว้กับทางเว็บไซต์ MovieWeb โดยเขาได้เปิดเผยออกมาว่าแท้จริงแล้ว Ghost Protocol นั้นตั้งใจที่ให้มันกลายเป็นจุดเปลี่ยนของซีรีส์นี้ด้วยการยุติบทบาทของ Ethan Hunt ที่รับบทโดย Tom Cruise ในฐานะเจ้าหน้าที่ภาคสนามลง โดยที่เขาจะมาทำหน้าที่เลขาธิการของหน่วย IMF แทนเพื่อส่งต่อทายาทไปยังสายลับรุ่นใหม่ที่จะมาทำหน้าที่แทนเขาในหนังภาคต่อไป
“เวอร์ชันดั้งเดิมของ Ghost Protocol คนส่วนใหญ่คงไม่อยากจะพูดเท่าไหร่ทั้งครับ แต่ในตอนนี้ผมว่าก็น่าจะพูดได้แล้วแหละเพราะมันคงไม่มีใครใส่ใจอะไรกับมันแล้ว สำหรับเวอร์ชันดั้งเดิมนะครับมันจะเป็นการยุติบทบาทของ Ethan Hunt ในฐานะของการเป็นสายลับที่ทำให้เขาได้กลายมาเป็นท่านเลขาธิการ Ethan Hunt แทน โดยในเรื่องราวในฉบับนั้นมันจะเป็นการรวมเอาหน่วย IMF ทั้งหมดมารวมเข้าไว้ด้วยการซึ่งอาจจะรวมไปถึงตัวละครของ Jeremy Renner ด้วย แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าซีรีส์นี้จะไปต่อในทิศทางไหน บางทีพวกเขาอาจจะต้องการให้มันไปไกลว่าเดิมก็เป็นได้ และด้วยการที่ Tom ยุติบทบาทเขาในการมาเป็นเลขาธิการ มันก็หมายความว่าสายลับคนใหม่ก็จะต้องเข้ามาแทนที่ ซึ่งผมคิดว่ามันตลกๆ นะแต่มันเป็นสิ่งที่ได้เริ่มมีการสร้างไปแล้ว”
และมันก็ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะหากย้อนกลับไปดูเราก็จะเห็นได้ว่า Tom Wilkinson ที่มารับหน้าที่เป็นเลขาธิการของหน่วย IMF ได้ถูกฆ่าตายใน Mission: Impossible – Ghost Protocol และบางทีในตอนนั้นการดึง Jeremy Renner มาร่วมทีมก็อาจจะเป็นความต้องการของทางค่ายหนังในการหาทายาทผู้เป็นผู้สืบทอดต่อจาก TOm Cruise ก็เป็นได้ แต่ก็โชคดีที่ Tom Cruise ได้ดึงตัวผู้กำกับ Christopher McQuarrie มาร่วมงานและได้ทำให้ Mission: Impossible ยังเป็นเช่นที่เราคุ้นเคยกันอยู่ในทุกวันนี้
ที่มา: MovieWeb
