GC 2009 : Diablo III สัมผัสกับตัวเกมแบบเน้นๆคุ้มค่าการรอคอยด้วย Witch Doctor! เก๋าไม่เก๋า พิสูจน์เลย!

     แม้ว่าเกม Diablo III จะมีความเป็นไปได้ว่าจะวางจำหน่ายล่าช้ามากกว่าหนึ่งปีจากวันที่กำหนดวางจำหน่ายก็ตาม แต่นั่นก็เพื่อทำให้เกมนี้ถูกขัดเกลาให้เป็นเกมที่มีความสมบูรณ์แบบ มันเป็นเกมที่มีอัตรา framerate ราบรื่นดุจผ้าไหม (อย่างน้อยก็ในเครื่อง PC ที่ทาง Blizzard ใช้ใน Gamescom) การเคลื่อนไหวของตัวละคร เอฟเฟคของสกิล และลักษณะการตายของฝ่ายตรงข้าม ทั้งหมดดูลื่นไหล ทุกอิริยาบถตัวละครของคุณและท่วงท่าต่อสู้ที่สัมผัสได้ถึงน้ำหนักและแรงกระแทกที่เกิดขึ้น นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เล่นเกม Diablo III แบบเต็มๆ และจากที่เป็นแฟนตัวยงในภาคก่อนของเกมนี้ นี่จึงเป็นเกมที่ดีกว่าที่ผมคาดหวังเอาไว้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว

Witch Doctor

      ฝูงแมลงขนาดยักษ์ในทะเลทราบกำลังไล่ตาม Witch Doctor ของผมอยู่ อาชีพนี้ให้ความรู้สึกเหมือนกับ Necromancer ในภาคก่อนๆ ที่ต่อสู้โดยใช้ศาสตร์ทางด้านเวทมนต์และความสามารถด้านการอัญเชิญ ผมมี skills ไม่มากนักในการใช้ทำลายล้างคู่ต่อสู้ แต่ทุก skills ล้วนมีประโยชน์ทั้งสิ้น ผมสามารถโยนกระโหลกศีรษะที่ลุกเป็นไฟขึ้นไปในอากาศและทำให้มันระเบิดได้ทุกที่เมื่อกดปุ่มโจมตี สกิลนี้สามารถปรับใช้ได้เพื่อให้ได้ระยะการโจมตีที่ต้องการ แรงระเบิดยังทำให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง ทำให้ศัตรูต้องวุ่นวายกับสิ่งที่จะตกลงมาไม่ว่าจะเป็นโครงกระดูกหรือฝูงสัตว์อะไรก็ตาม และด้วยการระเบิดวิญญาณจากร่างของ Witch Doctor ก็ทำให้ศัตรูหวาดกลัวและหลบหนีไปในช่วงระยะเวลาหนึ่ง นอกจากนี้ผมยังสามารถเรียกสุนัขซอมบี้ (ที่ผมเชื่อว่าทุกคนต้องเห็นว่ามันเป็นสุนัขขั้นเทพ) มาใช้ในการต่อสู้ได้ และสุดท้ายผมก็เริ่มการโจมตีด้วยซากแมงมุม ผลของมันจะทำให้เมื่อตายศัตรูจะระเบิดเป็นแมงมุมกระหายเลือดตัวเขียว เคลื่อนที่ไปข้างหน้าและสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้กับอะไรก็ตามที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง การใช้สุนัขซอมบี้ ซากศพแมงมุม และระเบิดไฟร่วมกันระหว่างการต่อสู้จะทำให้เกิดฉากการทำลายล้างในระดับที่น่าพอใจสุดๆ

     Diablo III ก็เหมือนๆกับ RPG เกมอื่นๆ นั่นคือจะมีคนคอยเข้ามาหาเรื่องก่อกวนคุณตลอดเวลา ผมโดนโจมตีโดยมอนสเตอร์หน้าตาเหมือนไฮยีน่า, ซาลาแมนเดอร์พิศดารซึ่งโผล่ขึ้นมาฉับพลันจากใต้พื้นผิวโลก, วิญญาณลอยได้โจมตีด้วยการปล่อยพายุหมุนลูกเบิ้ม, ปีศาจไซด์ยักษ์ถือดาบหยักยาว, จอมเวทย์น้ำแข็งสี่ขา, ผึ้งพิษ, ผู้พิทักษ์ตกอับที่สามารถจะสั่งสมุนของพวกมันทั้งหมดให้เข้ามารุมยำเราพร้อมๆกันในครั้งเดียวได้ รวมไปถึง มุนษย์กึ่งเลื้อยคลานที่มุดอยู่ใต้ผืนทะเลทราย Witch Doctor ไม่ได้มีรูปลักษณ์ที่ดูเท่ซักเท่าไหร่นัก หลังของเขาที่โก่งค่อม จนบางทีถ้าเขาอยู่นิ่งๆนานเกินไปคุณอาจจะมองพลาดว่านั่นมันเป็นแค่พุ่มไม้ประกอบฉากก็ได้ แต่ถึงแม้ว่าเขาจะดูบอบบางเกินไปสำหรับการต่อสู้ระยะประชิด แต่ mana ของเขาสามารถฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงไม่เป็นปัญหาที่จะใช้ fire skulls อย่างต่อเนื่อง และเปลี่ยนสถานการณ์อันตรายให้กลายเป็นความน่าสยดสยองได้ง่ายๆ

      ผมใช้เวลาไม่กี่นาทีจึงรู้ว่า ผมแทบไม่ได้ใช้ potions ในระหว่างการต่อสู้เลย ผมมี potions 2-3 อย่างอยู่บนแถบเมนู hotbar (ซึ่งรวมไปถึงสกิลสายรักษา ที่ผูมแทบไม่เห็นความแตกต่างจาก Diablo II) แต่ในเวลา 20 นาทีของการเล่น ผมกลับใช้มันไปแค่ขวดเดียวเท่านั้น นั่นก็เพราะ มีศัตรูบางตัวที่ดรอป potions ลงพื้น ซึ่งคุณไม่จำเป็นต้องเก็บมันขึ้นมา แค่คุณเดินผ่านมันไปเฉยๆ มันก็จะฟื้นฟูพลังให้คุณเอง ที่เจ๋งก็คือนอกจากจะมันจะฟื้นพลังให้ตัวผมเองแล้ว มันยังฟื้นให้กับตัวซัมมอนส์ของผมอีกด้วย แม้แต่เงิน Gold ก็ดูเหมือนว่าแค่เดินผ่าน ระบบก็จะเก็บให้โดยอัตโนมัติด้วยเช่นกัน

     เควสเพียงเควสเดียวที่ผมได้ทำใน version ที่ผมเล่นก็คือ การผ่านเข้าเมือง (ซึ่งผมไม่ได้ตั้งใจจะทำในตอนแรก) ผมเดินสำรวจผืนทรายเปียกอยู่สักพัก ดื่มด่ำและชื่นชมกับรายละเอียดของสภาพแวดล้อมจนกระทั่งเผลอเดินข้าม Gate และถูกวาร์ปลงมาในโพรงโดยไม่รู้ตัว หลังจากย่ำต๊อกฝ่าเส้นทางที่มืดมิดอยู่นาน ในที่สุดผมก็ปะทะเข้ากับปีศาจตัวหนึ่ง ซึ่ง…แน่ล่ะ คุณคงจะเดาได้ว่ามันต้องมีความพิเศษอยู่ในตัว มันทนทานต่อความเสียหายได้มากกว่าปกติ และยังมาพร้อมกับผองเพื่อนปีศาจชื่อสีฟ้าตัวอื่นๆอีก ผมสู้กับพวกมันจนกระทั่งมันดรอป nice yellow headpiece ผมจึงใช้ scroll เพื่อตรวจสอบจากนั้นก็หยิบมาใส่

     ผมเสียดายอยู่เหมือนกันที่ไม่ได้มีโอกาสลองเล่นอาชีพ Barbarian และ Wizard อาวุธของ Barbarian ถูกอาบด้วยพลังงานเวทมนต์ที่มองเห็นได้ส่งเสียงลั่นกึกก้อง จนดูเหมือนจะให้ความรู้สึกถึงน้ำหนักของมัน เหมือนกับว่าพวกมันถูกฟาดกระแทกลงไปบนตัวมอนสเตอร์มากกว่าจะตัดผ่านไปอย่างที่เห็น ในทางตรงกันข้ามอาชีพ Wizard นั้นทั้งหมดจะเป็นการโจมตีระยะไกล และดูเหมือนว่ากลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดก็คือการร่าย explosive balls เป็นแถวให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้าและจะระเบิดออกเมื่อถูกสัมผัส

Barbarian

     แน่นอนว่า Blizzard ได้เปิดเผยรายละเอียดอื่นๆของ Diablo III อีกในงาน Blizzcon 09 มันน่าสนใจมากว่าเกมนี้จะพัฒนาไปเรื่อยๆถึงเมื่อไหร่ และจะเริ่มปล่อยให้ผู้เล่นได้เล่นจริงตอนไหนเมื่อเทียบกับการรอคอยอันยาวนานนี้

ภาพประกอบจาก IGN

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้